แม้นานเนาก็ยังห่วงยอดดวงเสน่หา...
 
บันทึกญี่ปุ่นฉบับตำนานรัก


ความรักเอย เจ้าลอยลมมาหรือไร
มาดลจิต มาดลใจ...... เสน่หา
รักนี้จริงจากใจหรือเปล่า หรือเย้าเราให้เฝ้าร่ำหา
หรือแกล้งเพียงแต่แลตา ยั่วอุรา ให้หลง ลำพอง ....

นายฮิโคะโบชิคงจะครวญเพลงนี้ผ่านสายลมในยามค่ำเพียรพร่ำคำรักไปถึงสาวเจ้าสมัยที่มองตากันใหม่ๆ แล้วยังไม่รู้ใจว่าเธอรักจริงหวังแต่ง หรือแกล้งช้อนสายตาเย้าเล่นให้เอนไหวใจแกว่ง
อยากจะบอกนายฮิโคโบชิเสียตรงนี้ว่า สาวเจ้าก็คิดถึงพ่อไม่น้อยอยู่เหมือนกัน...
อุ๊ยตาย เอาเรื่องของตัวเองใส่ลงไปได้อย่างไร...

ฮิโคะโบชิที่ว่า คือชื่อของดวงดาวสกาวส่องอยู่บนฟ้าคนละฟากฝั่งกับของนางเอก ซึ่งก็คือดาวอีกดวงหนึ่งมีชื่อว่าดาวโอริฮิเมะ ชื่อก็บอกว่าเธอเป็นเจ้าหญิง (ฮิเมะแปลว่าเจ้าหญิง)
ตำนานเขาบอกว่านายดาวฮิโคโบชินั่นเป็นคนเลี้ยงวัว ทำอีท่าใดก็ไม่รู้ไปเจอกับเจ้าหญิงเข้าได้
จะต้อนวัวไปหาหญ้ากินในเขตพระราชฐาน หรือเจ้าหญิงจะออกมาเดินอ่อยเหยื่ออยู่แถวๆ ฟาร์มขุนโคทำสเต๊กแถวๆ โคราช ก็สุดหยั่งเดาได้
หรืออย่างไรก็ยกให้คนคิดตำนานนี้รับผิดรับชอบไปแต่ผู้เดียวก็ละกัน

อันว่าตำนานรักนี้รับมาแต่เมืองจีน หรือพูดอีกนัยหนึ่งว่า มีต้นกำเนิดแต่เมืองจีน ประเทศที่มีหรือเคยมีตัวหนังสือจีนประจำชาตินั่นมีตำนานนี้กันทั่วไป ตามที่สืบเสาะเคาะหาข้อมูลด้วยคีย์บอร์ดอย่างเดียวนี่ก็ได้มาหลายประเทศอยู่ คือญี่ปุ่น เกาหลี เหนือใต้ เวียตนาม ไทวัน (ไต้หวัน) ยังไม่มีโอกาสสัมภาษณ์และสัมผัสชาวเขาเผ่าม้ง ว่ามีตำนานรักอย่างนี้ไหม เพราะนั่นก็พูดภาษาจีนอยู่สาขาหนึ่งเหมือนกัน
ในฮ่องกงจะเป็นอย่างไร ไม่มีโอกาสได้รู้ข้อมูลอีกเหมือนกัน แต่ในเวียตนามนั่นมีแน่ ซึ่งจะเล่าละเอียดสืบไป ถ้ารักกันจริงก็ตามอ่านเอาแถวๆ นี้ ถ้าไม่รักก็แล้วไปเถอะไม่ว่ากัน
แม่ยุ้ยหาข้อมูลในวิกิพิเดีย แล้วเขากล่าวเอาไว้ดังนั้น เช็กทั้งสองภาษาคืออังกฤษกะญี่ปุ่น อ่านภาษาเวียตนามไม่ออก เลยเทียบข้อมูลได้เพียงนี้ วิกิพิเดียของม้งก็ไม่มี จึงสุดปัญญาเรียมเอย...

กลับมาที่เรื่องรักหนักอุรากันใหม่เพื่อไม่ให้ไถลเถลือกไปไกลหัวข้อที่ว่าไว้นัก
ก็ปรากฏชัดเจนว่าไม่มีอุปสรรคขวากหนามอะไรก่อนแต่งงาน ทั้งสองคนก็ได้แต่งงานกันมีความสุขไป เสด็จพ่อไม่ยักรังเกียจคนเลี้ยงวัว
และตามสัจธรรมของความรักนี่ เขาว่าถ้าไม่มีอุปสรรคแล้วมันเหมือนมีอะไรขาดๆ ไปชอบกลอยู่ กวีก็เลยรังสรรค์เรื่องให้ยาวต่อไปอีกว่าดังนี้

ก่อนจะรู้ต่อไปว่าเรื่องเป็นอย่างไร ต้องปูพื้นก่อนว่าเจ้าหญิงโอริฮิเมะนี่มีความสามารถทอผ้าเป็นเยี่ยมยอด (โอริแปลว่าทอผ้านั่นอย่างไร)
พระองค์หญิงมิ่งธิดาแห่งห้วงหาวทรงพระทอผ้าได้เป็นเลิศประเสริฐศิริหาใครเทียมมิได้ในสามโลก
คือผ้าที่เธอทอนั้นใส่หน้าร้อนก็เย็นซื่นม่วนในหัวอกอยู่หลาย
ครั้นพอหน้าหนาวสาวเจ้าก็ทอได้ผ้าที่นุ่งห่มแล้วอบอุ่นละมุนกายเป็นยิ่งนัก แต่ตรงนี้บางตำนานก็ว่าทอผ้าได้เจ็ดสี และแน่นอนว่าสวยเสียด้วย

ปูมไม่ได้เล่าละเอียดว่านายเลี้ยงวัวเลี้ยงได้ดีกว่าคนอื่นหรือเปล่า จะมีท่าต้อนวัวแปลกแตกต่างจากฟาร์มอื่น ทำนองเต้นแร้พร้องเพลงกล่อมวัวตอนมันกินหญ้า หรือไม่อย่างไรก็ไม่แจ้ง
เอาเป็นว่าไม่มีอะไรเป็นพิเศษก็ละกัน แต่ที่แน่ๆ คือแกเป็นคนขยันขันแข็ง

อุปสรรครักที่ว่า มาเป็นเรื่องเป็นราวเอาก็ตอนแต่งงานดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์นี่เอง สองคนดื่มน้ำผึ้งชนแก้วกันไม่รู้แล้ว หรือจะเอานิ้วชี้จิ้มน้ำผึ้งดูดก็ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะเอานิ้วก้อยจิ้มก็ได้ เพราะดูญิ้ง หญิงดี ตรงนี้ก็ช่างมันไปเถอะ

เอาเป็นว่าสองคนรักกันหวานแหวว เพียรร้องเพลงคู่อยู่ในทุ่งกว้างอยู่นั่นแล้วไม่เลิกรา งานการไม่เป็นอันทำ ผ้าที่เคยทอวันละสามร้อยกว่าล้านยาร์ดในหนึ่งวินาที (ตัวเลขนี่ก็ว่าไปเรื่อยๆ) ก็ปล่อยปละละเลยแทบจะเลิกกิจการ

กล่าวฝ่ายนายเลี้ยงวัวก็ปล่อยวัวกินหญ้าตามบุญตามกรรม ไม่เต้นแร้พร้องเพลงกล่อมวัว อีกทั้งไม่ยอมพาไปหาหญ้าอันอุดมกินที่อื่นใดไม่ เป็นเหตุให้วัวผอมโซโกโรโกโรกน่าสงสารเป็นยิ่งนัก

เมื่อวัวผอมได้ที่ และผลผลิตของโรงงานทอผ้าตราเจ้าหญิงโอริฮิเมะนั่งพับเพียบผลิตผ้าไม่ได้ตามที่เคยเป็น พระบิดาก็กริ้ว ลงโทษให้ทั้งสองแยกจากกัน และให้ได้พบกันปีละครั้งเดียวเท่านั้น คือในวันที่เจ็ดเดือนเจ็ดของทุกปี ซึ่งก็คือวันทานาบาตะ ดังนี้แล

พระธิดาก็ร้องไห้แล้วอีทีนี้ แต่แม่ยุ้ยไม่ร้องไห้ เพราะได้พบหน้าทุกครั้งที่ไปหาพาชื่นทรวงม่วนในอุราเป็นยิ่งนัก
เข้าเรื่องตัวเองอีกแล้ว กลับมาก่อนๆ...

พรุ่งนี้จะมาบอกว่าดาวเจ้าหญิงชื่อเป็นสากลว่าดาวอะไร ดาวนายเลี้ยงวัวนั่นอีก
อ่านตำนานรักดาวฉบับแม่ยุ้ยแล้วก็กรองเอาแต่เนื้อๆ นะคะ
เราเตือนท่านแล้ว



Create Date : 14 กรกฎาคม 2551
Last Update : 14 กรกฎาคม 2551 5:04:22 น. 8 comments
Counter : 527 Pageviews.  
 
 
 
 
เข้าใจแบบเห็นภ้าพ เห็นภาพ เลยเจ้าค่ะ
 
 

โดย: นางไม้หน้า3 วันที่: 14 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:00:56 น.  

 
 
 
 
 

โดย: nathanon วันที่: 14 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:37:21 น.  

 
 
 
เมื่อคืนที่บ้านไฟตกค่ะ
เลยออกมาเดินหา amanogawa
แต่ไม่เจอ
ถึงเจอก็คงดูไม่ออก

 
 

โดย: นางไม้หน้า3 วันที่: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:37:13 น.  

 
 
 
ช่วงนี้รับงานวิจัยชิ้นใหม่เกี่ยวกับชนเผ่า เลยต้องไปๆกลับๆกรุงเทพ แม่สอดเป็นว่าเล่น ไม่ค่อยได้เข้ามาที่บล็อกเลยค่ะ คิดถึงนะคะ จุ๊ฟ จุ๊ฟ
 
 

โดย: Charlotte Russe วันที่: 16 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:21:41 น.  

 
 
 
สวัสดีค่ะน้องปั้นและทุกท่าน น้องมด คุณครู
หญิงมีต้นฉบับต้องแก้ไขและส่งด่วน
ขอเวลาหน่อย เสร็จแล้วจะมาเขียนเรื่องนี้ต่อค่ะ
ขออภัยในความไม่สม่ำเสมอค่ะ
 
 

โดย: majoreenu วันที่: 16 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:05:54 น.  

 
 
 
อ๊ะ อ๊ะ มีต้นฉบับต้องแก้ไข
สำแดงว่าเราจะได้อ่านเรื่องใหม่กันแล้ว
 
 

โดย: นางไม้หน้า3 วันที่: 17 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:24:49 น.  

 
 
 
แวะมาเยี่ยมค่ะ
 
 

โดย: นางไม้หน้า3 วันที่: 18 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:48:05 น.  

 
 
 
ว๊าย ไม่ใช่
หมายถึงตัวนี้ตะหาก

ขออภัยค่ะ
 
 

โดย: นางไม้หน้า3 วันที่: 18 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:49:58 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

majoreenu
 
Location :
Chiba Japan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ข้อความในหน้านี้
เป็นของที่เจ้าของสงวน
ห้ามเอาไปไม่บังควร
จงคิดครวญให้จงนาน

อาจโดนตบกะโหลก
เอาหัวโขกเสียบประจาน
เพราะเจ้าของเป็นคนพาล
ทรงเสน่ห์และเล่ห์กล

ฮุ ๆ ฮุ ๆ ๆ
อีกฮุ ๆ ฮุ ๆ ๆ

สร้อยสัตตบรรณ
เจ้าของบล็อก

....................................................

สร้อยสัตตบรรณ หรือกรกุณารี
ก็คนคนเดียวกัน...

ฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯ


ความคิดถึงที่อ่านได้
[Add majoreenu's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com