++ เ ยื อ น สั ง ข ล ะ บุ รี_1 ++
วันที่ 24 พฤษภาคม 2556 หลังจากที่เราแวะนมัสการองพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐมแล้ว เราก็ออกเดินทางตามถนนเพชรเกษมเข้า อ.บ้านโป่ง และต่อไปตามเส้นทาง 323 สู่เมืองกาญจน์ โดยหวังว่าจะแวะพักทานอาหารตามปั๊ม ปตท.ระหว่างทาง แต่ก็ผิดหวัง เพราะปั๊มแถวนั้นไม่มีร้านอาหาร สุดท้ายก็ได้ร้านก๋วยเตี๋ยวปลาข้างทางแถวๆท่ามะกา ซึ่งรสชาดถือว่าใช้ได้ทีเดียวสังขละบุรีหลังฝนตก บนพื้นน้ำและป่าเขา เราผ่านเมืองกาญจน์โดยมีเป้าหมายที่สังขละบุรีเลย จากระยะทางที่เราเช็คในแผนที่ ก็ประมาณ 260 กม. ขณะที่เราใช้รถ Honda CRV รุ่นปี 2002 ซึ่งก็กินน้ำมันพอควร เราเจอปั๊มบางจากเป็นปั๊มใหญ่ปั๊มแรกหลังจากกออกจากเมืองกาญจน์ จึงอัดใส่จนเต็มถังแล้วขับรวดเดียวถึงสังขละฯ (ระหว่างทางมีปั๊ม ปตท.ที่ทองผาภูมิและที่ อ.สังขละฯ ทางออกไปด่านเจดีย์สามองค์) เรือนแพ...วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวสังขละฯ เมื่อถึงสังขละฯ สิ่งแรกที่ต้องรีบทำคือหาที่พัก แต่วันนั้นรีสอร์ททำเลสวยๆริมน้ำเต็มหมด นี่คือข้อเสียของการเที่ยวที่ไม่ได้วางแผน คืออยากไปก็ไปกันเลยครับ....เราวนหารีสอร์ทอยู่ 2 รอบ ฝนก็ตก จนโชคดีเจอที่บ้านอิงตะวันรีสอร์ทเหลือห้องว่างอยู่ห้องหนึ่งพอดี ตอนหลังมาถามไถ่จากคนที่นั่นจึงได้ความว่า พรุ่งนี้จะมีการแข่งขันตกปลาและก็เป็นช่วงหยุดยาวสามวันรีสอร์ทจึงโดนจองเข้ามาจนเต็ม วัดวังก์วิเวการาม วัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดหลวงพ่ออุตตมะ เป็นวัดที่หลวงพ่ออุตตมะ ร่วมกับชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ ได้ร่วมกันสร้างขึ้น ในปี พ.ศ. 2496 ที่บ้านวังกะล่าง อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ใกล้กับชายแดนไทย-พม่า ห่างจากอำเภอเมืองกาญจนบุรี ประมาณ 220 กิโลเมตร เสาโบสถ์ที่หุ้มด้วยสแตนเลสสตีล ในระยะแรกมีเพียงกุฏิและศาลา มีฐานะเป็นสำนักสงฆ์ แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่า วัดหลวงพ่ออุตตมะ ตั้งอยู่บนเนินสูงในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำ 3 สาย คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ แม่น้ำรันตี ไหลมาบรรจบกัน ในปี พ.ศ. 2505 ได้รับอนุญาตจากกรมการศาสนาให้ใช้ชื่อว่า วัดวังก์วิเวการาม ซึ่งตั้งตามชื่ออำเภอเดิม คืออำเภอวังกะ-สังขละบุรี ซึ่งต่อมาถูกยุบเป็นกิ่งอำเภอ ก่อนที่จะยกฐานะเป็น อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรีในปี พ.ศ. 2508 วัดวังก์วิเวการาม ก่อสร้างด้วยศิลปะแบบพม่า มีพระพุทธรูปหินอ่อน และ งาช้างแมมมอธ มีเจดีย์พุทธคยาจำลอง สร้างจำลองแบบจาก เจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย โดยเริ่มก่อสร้าง พ.ศ. 2518 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2529 เมื่อ พ.ศ. 2527 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งเมื่อกักเก็บน้ำแล้ว น้ำในเขื่อนเขาแหลมจะท่วมตัวอำเภอเก่ารวมทั้งบริเวณหมู่บ้านชาวมอญทั้งหมด ทางวัดจึงได้ย้ายมาอยู่บนเนินเขาในที่ปัจจุบัน หลวงพ่ออุตตมะได้จัดสรรที่ดินของวัดวังก์วิเวการามให้ชาวบ้านครอบครัวละ 30 ตร.ว. ปัจจุบันหมู่บ้านชาวมอญมีพื้นที่ราว 1,000 ไร่เศษ มีผู้อาศัยราว 1,000 หลังคาเรือน ชาวบ้านเกือบทั้งหมดจัดเป็นผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่าซึ่งไม่มีบัตรประชาชน หาเลี้ยงชีพโดยการปลูกพืชผักสวนครัวตามชายน้ำ ทำประมงชายฝั่ง คนหนุ่มสาวส่วนหนึ่งนิยมเป็นลูกจ้างในโรงงานเย็บเสื้อที่อยู่ไม่ห่างจากหมู่บ้าน ส่วนบริเวณวัดหลวงพ่ออุตตมะเดิม ปัจจุบันพระอุโบสถ์หลังเก่าจมอยู่ใต้น้ำ และมีชื่อเสียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen Thailand เป็นที่รู้จักในชื่อว่า วัดใต้น้ำ สังขละบุรี ที่มา : //www.kammatan.com/board/index.php?topic=576.0 งาช้างแมมมอธ เราออกจากวัดวังก์วิเวการาม ซึ่งอยู่บนเนินเขาด้านบน ขับลงมาทางด้านล่าง ที่เจดีย์พุทธคยาจำลอง ซึ่งวันนี้เป็นวันพระใหญ่ หรือวันวิสาขบูชา จึงเห็นชาวมอญจำนวนมากแต่งกายด้วยผ้าสีสวยกำลังพากันมาทำบุญ ซึ่งจะมีการเวียนเทียนกันในเวลาประมาณ 1 ทุ่มตรงวันนี้ เจดีย์พุทธคยาจำลอง ส่วนหน้าลานจอดรถจะมีต้นโพธิ์ใหญ่ และกำลังมีพิธีที่เขาเรียกกันว่า "รดน้ำต้นโพธิ์" โดยมีรางไม้ไผ่ต่อยาวจากด้านนอกให้ชาวบ้านรดน้ำต้นโพธิ์ผ่านรางไม้ไผ่นั้น ส่วนพระสงฆ์ก็กำลังสวดอยู่ใต้ต้นโพธิ์ ผาษาสวดน่าจะเป็นภาษาพม่า (ชาวมอญส่วนใหญ่ที่นี่อพยบมาจากพม่า) บน : สาวๆชาวมอญกำลังไปทำบุญ ล่าง : พิธีทำบุญรดน้ำต้นโพธิ์ หลังจากเราได้ไปไหว้พระที่เจดีย์พุทธคยาจำลองแล้ว เราก็ขับกลับเข้ามาทางหมู่บ้านเพื่อลงไปที่ท่าเรือเพื่อเช่าเรือหางยาวออกไปชมโบสถ์กลางน้ำ หรือวัดวังก์วิเวการามเดิม ซึ่งถูกน้ำท่วมเนื่องจากการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์นี้ โดยค่าเรือที่เราโดยสารไป 3 คนเขาคิด 250 บาทไปกลับ โดยใช้เวลาเดินทางไปประมาณ 20 นาที เจดีย์พุทธคยา ถ่ายจากเรือ หอระฆังวัดวังก์วิเวการามเดิม (ที่ถูกน้ำท่วม) สังขละบุรีหลังฝนตก บนพื้นน้ำและป่าเขา บริเวณวัดวังก์วิเวการามเดิม ที่กลายเป็นโบสถ์ใต้น้ำ (Unseen Thailand)วันนี้น้ำในเขื่อนแห้งลงมาก ทำให้ตัววัดและโบสถ์เสมือนตั้งอยู่บนเกาะ เราจึงสามารถเข้าไปไหว้พระในโบสถ์เก่านั้นได้ ณ บริเวณนั้นจะมีเด็กๆ มาถามเราว่าทราบประวัติวัดมาหรือยัง ถ้ายังเขาจะอาสาเป็นไกด์ ส่วนค่าแรงไม่ทราบว่าเท่าไหร่เพราะวันนั้นเราไม่ได้ใช้บริการ แต่เเราซื้อดอกไม้ที่เขาเอามาขายเท่านั้น.. พอน้ำลด สามารถเข้าไปไหว้พระในโบสถ์เดิมได้ เรือหางยาวที่เราเช่ามาเที่ยวชมโบสถ์ใต้น้ำ ขากลับขึ้นมาถึงฝั่ง เราขับต่อไปที่สะพานมอญ หรือสะพานอุตตะมะอนุสรณ์ และตรงนั้นผู้คนค่อนข้างเยอะ หาที่จอดรถยากมาก... ถ้าท่านจะเอารถเข้าไป ต้องหาที่จอดตั้งแต่ทางเลี้ยวเข้าไปแล้ว เพราะขาออกจะออกยากมากครับ...เอาไว้ตอนต่อไปจะพาท่านเดินที่สะพานนี้ และชมเมืองสังขละบุรีกันครับ. ภาพล่องเรือกลับฝั่ง ภาพนี้ครับ ล่องเรือหารัก - ยอดรัก สลักใจ_______________
Create Date : 17 มิถุนายน 2556
Last Update : 18 มิถุนายน 2558 22:21:10 น.
35 comments
Counter : 8194 Pageviews.
โดย: ฝากเธอ วันที่: 17 มิถุนายน 2556 เวลา:11:45:54 น.
โดย: NET-MANIA วันที่: 17 มิถุนายน 2556 เวลา:14:00:54 น.
โดย: Kavanich96 วันที่: 18 มิถุนายน 2556 เวลา:8:09:42 น.
โดย: Sweet_pills วันที่: 19 มิถุนายน 2556 เวลา:21:15:52 น.
โดย: Sweet_pills วันที่: 19 มิถุนายน 2556 เวลา:21:16:57 น.
โดย: Maeboon วันที่: 20 มิถุนายน 2556 เวลา:14:38:25 น.
โดย: andrex09 วันที่: 20 มิถุนายน 2556 เวลา:22:00:44 น.
โดย: Sweet_pills วันที่: 20 มิถุนายน 2556 เวลา:22:45:28 น.
โดย: อุ้มสี วันที่: 21 มิถุนายน 2556 เวลา:6:53:40 น.
โดย: อุ้มสี วันที่: 21 มิถุนายน 2556 เวลา:6:54:24 น.
โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 24 มิถุนายน 2556 เวลา:0:55:33 น.
โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 24 มิถุนายน 2556 เวลา:1:30:42 น.
โดย: อุ้มสี วันที่: 24 มิถุนายน 2556 เวลา:4:40:27 น.
โดย: kwan_3023 วันที่: 24 มิถุนายน 2556 เวลา:7:13:25 น.
โดย: tui/Laksi วันที่: 24 มิถุนายน 2556 เวลา:9:07:29 น.
โดย: NET-MANIA วันที่: 24 มิถุนายน 2556 เวลา:13:01:34 น.
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 24 มิถุนายน 2556 เวลา:14:12:03 น.
โดย: sawkitty วันที่: 24 มิถุนายน 2556 เวลา:15:11:06 น.
โดย: ประกายพรึก วันที่: 24 มิถุนายน 2556 เวลา:17:03:17 น.
โดย: peeamp วันที่: 24 มิถุนายน 2556 เวลา:21:14:46 น.
โดย: pantawan วันที่: 24 มิถุนายน 2556 เวลา:22:49:29 น.
โดย: puipom วันที่: 27 มิถุนายน 2556 เวลา:20:38:36 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [? ]
...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......อยากจะบอกว่า @ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว @ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ. @ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก... ด้วยจริงใจ นาย wicsir.
1
2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30
นี่ดูจากหน้ารวมแรกค่ะ เดี๋ยวมาใหม่นะคะ