No.1315 คนไกลวัด เขียนถึงวัด.... ตอน 2 |
|
ครั้งแรกที่เขียน เล่าเรื่อง การทำสมาธิ ยังทำงานปกติไม่ได้บวช เข้างานสังคม ถ่ายกับ |
เพื่อน ๆ ครูสมาธิที่เรียนจบรุ่น 29 เราเป็นศิษย์ หลวงพ่อวิริยังค์ วัดธรรมมงคล หลายปีมาแล้ว.. |
เจอป้ากุ๊ก แซว... แบบข้างล่าง |
พยายามจะเขียนแนวที่ป้ากุ๊ก ชอบนะครับ |
|
ผมมาอ่านที่ป้ากุ๊กมาเม้นท์ที่บล๊อกอีกครั้ง เกิดกำลังใจขึ้นเยอะเลย สงสัยป้ายุผมขึ้น 555 |
|
เชิญอ่านต่อ.....ครับ |
|
ตอนเป็นเด็กน้อยอยู่.... จะเห็นหญิงโกนหัว นุ่มห่มขาว อยู่ในวัด ส่วนใหญ่จะเป็น |
คนแก่... ถ้าเป็นสาว ใบหน้าจะนิ่ง มีคนกระซิบ ว่า |
อกหัก เลยมาบวชชี |
|
มีอยู่ระยะหนึ่ง งานบริษัทที่ทำประจำมาหลายปี ค่อย ๆ ผ่อนคลายไม่มีอะไรที่ต้อง |
เอาใจใส่มากนัก คืองานลงตัวแล้ว แต่งานส่วนตัว ยังยุ่ง ๆ อยู่ตามสภาพ |
ของกิจการ ไม่ถึงกลับกลุ้ม เพียงแต่จิตไม่สงบเท่าที่ควร |
|
ลาพักได้หลายวัน ก็เข้าปฏิบัติธรรมที่ วัดอินทรวิหาร แปลกแต่จริงคนที่จัดฝึกอบรมพวกเรา |
เป็นคนธรรมดา ใส่ชุดขาว มิได้โกนหัวแต่ละท่านใบหน้าเจือยิ้มมีเมตตา แนะนำพูดนุ่มนวล |
|
ทราบภายหลังว่า อาจารย์หญิงที่สอนพวกเรา ท่านเป็นนายอำเภอหญิงคนแรกของไทย |
และเป็นบุตรสาวของคุณแม่สิริ กรินไชย |
ท่านแนะนำสอนเก่ง พวกเราไม่ง่วงเลย..... แอบชำเลืองไปดูเพื่อนที่เป็นหญิงดูไม่ออกเลยว่า |
ทำงานอะไร ใบหน้าเรียบเฉยเพราะเราถูกสั่งให้งดพูดเวลาเดินผ่านนั่งอาหารโต๊ะเดียวกัน |
ได้แต่อมยิ้มให้กัน แหะ ๆ อันนี้เขาไม่ห้าม |
|
วันที่สอง พระอาจารย์ที่สอน บอกว่า การทำสมาธิ จะช่วยให้จิตนิ่งไม่เกรงกลัวอะไรมีความ |
มั่นใจ ตริตรองเก่ง ตัดสินใจถูกต้องบางคนจะเห็น |
|
วิญญาณมาป้วนเปี้ยน บางคนรู้สึกตัว ลอยสูงขึ้น บางคนเกิดปิติ ตัวร้อน ตัวเย็น |
ก็อย่าตกใจ ให้ทำเฉย ๆ ไว้ |
อาจารย์จะ ทำการการสอบอารมณ์ ฟังอาจารย์พูด |
เอ..เป็นยังไงหนอ ใจคิดถึง เตรียมตัวสอบไล่ 555 จะสอบตกหรือเปล่าหว่า... |
|
วันก่อนเขียนเล่าว่า กว่าจะเดิน ไปกลับ 6 เมตรใช้เวลาเกือบครึ่ง ชม.ระหว่างเดินคิดต๊กต๊อก ๆ |
ไม่ไหวมั้ง.. ช้าฉิบ เป๋ง..แหะ ๆ คิดในใจนะครับ ไม่กล้า |
พูดออกมาหรอก.. คือผมเป็นนักวิ่งแข่งมาราธอนมาก่อน รู้จักการก้าวย่าง ว่าควรจะใช้ความเร็ว |
เร็วแรก ๆ กี่ กม/ชม.. ถ้า กม.ที่ 8 ใกล้จะครบ มินิมาราธอนควรสับเท้าวิ่งเร็วขึ้นคือการแข่งวิ่ง |
ใช้หัวคิดเป็น มีความอดทนที่จะ ชนะ ถึงเส้นชัย |
|
การที่ผมฝึกวิ่งตามสเต็ปมาก่อน เมี่อเดินช้า มาก ๆ กว่าจะยกเท้าขึ้น จึงไม่เป็นปัญหา ยังต้อง |
พูดในใจ อยากยกเท้าหนอ อยากยกเท้าหนอ อยากยกเท้าหนอ (รวม 3 ครั้ง) |
แล้วจึงยกเท้า |
ไม่น่าเชื่อ ครึ่ง ชมกว่า ที่เดินช้า ๆ จิตที่วิ่งไปมายังกะ ลิงแถวเพชรบุรี กลับนิ่งสงบ |
จิตมุ่งอยู่ การเดินอย่างเดียว ไม่คิดอย่างอื่น จิตสงบลง ๆ ๆ |
|
ได้ยินเสียงกระดิ่งดัง กริ๊ง.. ก็หยุดเดิน หันหน้าไปทางพระพุทธรูป เริ่มแผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ |
ทั้งหลาย ตามที่ได้รับการฝึกสอนมา ต่างคนก็หยิบ อาสนะเป็นผ้าหนานุ่มวางแล้วนั่งขัติสมาธิ |
ส่วนผมมีปัญหาการนั่งกับพื้น เดินไปริมห้อง นั่งบนเก้าอี้ พระอาจารย์ท่านเริ่มพูดช้า |
นุ่ม ๆ นำพาให้จิตนิ่งลงอีก แล้วทุกคนก็หลับตา ทำสมาธิ.... ผมนั่งเก้าอี้เพราะมองเห็นพระพุทธรูปปาง ทรมาณกาย รู้ว่าทรมาณร่างกายจะไม่พบหนทางความจริง ที่ลูกศิษย์ปัญจวคีทั้ง 5 เริ่มครางแคลงใจผม แน่ใจว่าเลิกทรมาณดีกว่า |
ทุกสิ่งเงียบ ไม่ได้ยินเสียงใด ๆ แรก ๆ ที่นั่งยังมี ความคิดถึง การเดินช้า ๆ และน่าไม่ถึง 10 นาที |
จิตก็ดิ่ง เงียบดำ ไม่รู้สึกใด ๆ คล้ายกับ ปิ๊ง ดำมืดไปเลย |
|
นานเท่าใดไม่รู้ รู้สึกตัวว่า ขณะนั่งบนเก้าอี้ เจ็บโคนขาสุด ๆ มองข้างหน้าเห็นอะไรลาง ๆ |
ไม่ชัดเจน...นึกท้อถึงความเจ็บปวดโคนขา จากการเดินมาก ไป..... |
|
เห็นร่างขาว ๆ เดินถือไม้เท้า เป็นหญิงใส่กางเกง กับเสื้อขาว ตัดผมสั้น แค่ท้ายทอยเดินมาทักทาย |
เป็นไง ลื๊อเจ็บขา เหรอ |
ครับเจ็บขา |
ไม่เป็งไร หลอก ตองมาใหม่ ๆ อั๊วก็เป็น เจ็กขาอกทงว้ายจะลีเอง (ไม่เป็นไร หรอก ตอนมาใหม่ ๆ อั๊วก็เป็น เจ็บขา อดทนไว้จะดีเอง) |
ว่าแล้วซิ้มชุดขาว ก็เดินจากไปเงียบ ๆ ผมก็ยังคงนั่งนิ่งไม่คิดอะไร จนกระทั่งได้ยิน |
เสียงกระดิ่ง กริ๋ง ๆ ๆ |
อาจารย์กล่าวเบา ๆ นุ่ม ให้ออกจากสมาธิ ให้ยกมือขวา ไปข้างหน้า เหยียดนิ้ว เอามือลง |
ยกมือซ้ายไปข้างหน้า เหยียดปลายนิ้ว ลดมือลง |
ยกมือพนม แผ่เมตตา ให้แก่ สรรพสัตว์ ญาติมิตร สัตรูผู้อาฆาต เปรด เทวดาขอให้ได้รับผล |
บุญจากการที่ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติธรรม โดยทั่วกัน |
เอาละทุกคนลืมตา..... |
ขณะลืมตา รู้สึกสดชื่น มีความสงบ สุขขึ้นมากมาย หันไปมองเพื่อนผู้ร่วมทำสมาธิ |
เอะ.. ไม่มี หญิงจีนแม้แต่คนเดียว |
มีแต่ หญิงสาว วัยทำงาน นุ่งผ้าถุงขาว กางเกงขาว ผมดำ แล้วข้าง ๆ ตัวผมก็เป็นผู้ชายไม่กี่คน |
|
ระหว่างนั้น พระอาจารย์ก็ พูดสั่งสอนเบา ๆ เรื่อยไป ผมฟังไปด้วย คิดไปด้วย |
เฮ้ย.. หญิงจีนชุดขาวที่มาทักทาย เป็นใคร |
|
ระยะนั้น เริ่มรู้แล้วว่า ตนเองเข้าสมาธิได้แล้ว คงมาจาก เดินจงกรม ช้า ๆ มากกว่าที่อื่น |
จิตเลยนิ่งสงบ |
ทำให้เข้าสมาธิได้ เหมือนที่คนอื่นเล่าให้ฟังว่า เข้าสมาธิแบบไหนได้บ้าง |
พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ บอกพวกเราว่า การทำสมาธิบ่อย ๆ ดีกว่า "เข้าสมาธินาน " เปรียบเสมือนฝึกขี่จักรยาน ขึ้นลงบ่อยชำนาญ จะขึ้นขี่เมื่อใดก็ได้ ..เช่นเดียวกับฝึกเข้าสมาธิ |
แล้วที่เห็นเป็นผี หรือ วิญญาณ มองไปช่องแสงหน้าต่าง กลางวันอยู่นี่นา ในห้องไม่มีใครอีก |
เลย ประตูปิดสนิททำไงดี |
ไว้เล่าตอนต่อไปนะครับ |
|
มันอ่านไม่รู้เรื่องหนะ