Group Blog
 
<<
กันยายน 2567
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
16 กันยายน 2567
 
All Blogs
 
No. 1315 คนไกลวัด เขียนถึงวัด... ตอน 2

No.1315  คนไกลวัด เขียนถึงวัด.... ตอน 2


ครั้งแรกที่เขียน เล่าเรื่อง การทำสมาธิ ยังทำงานปกติไม่ได้บวช เข้างานสังคม ถ่ายกับ
เพื่อน  ๆ  ครูสมาธิที่เรียนจบรุ่น 29   เราเป็นศิษย์ หลวงพ่อวิริยังค์ วัดธรรมมงคล หลายปีมาแล้ว..
 เจอป้ากุ๊ก  แซว...  แบบข้างล่าง
พยายามจะเขียนแนวที่ป้ากุ๊ก ชอบนะครับ 

ผมมาอ่านที่ป้ากุ๊กมาเม้นท์ที่บล๊อกอีกครั้ง เกิดกำลังใจขึ้นเยอะเลย สงสัยป้ายุผมขึ้น 555
 
เชิญอ่านต่อ.....ครับ
 
ตอนเป็นเด็กน้อยอยู่.... จะเห็นหญิงโกนหัว นุ่มห่มขาว อยู่ในวัด ส่วนใหญ่จะเป็น
คนแก่... ถ้าเป็นสาว ใบหน้าจะนิ่ง มีคนกระซิบ ว่า
อกหัก เลยมาบวชชี
 
มีอยู่ระยะหนึ่ง งานบริษัทที่ทำประจำมาหลายปี ค่อย ๆ ผ่อนคลายไม่มีอะไรที่ต้อง
เอาใจใส่มากนัก คืองานลงตัวแล้ว แต่งานส่วนตัว ยังยุ่ง ๆ อยู่ตามสภาพ
ของกิจการ ไม่ถึงกลับกลุ้ม เพียงแต่จิตไม่สงบเท่าที่ควร
 
ลาพักได้หลายวัน ก็เข้าปฏิบัติธรรมที่ วัดอินทรวิหาร แปลกแต่จริงคนที่จัดฝึกอบรมพวกเรา
 เป็นคนธรรมดา ใส่ชุดขาว มิได้โกนหัวแต่ละท่านใบหน้าเจือยิ้มมีเมตตา แนะนำพูดนุ่มนวล
 
ทราบภายหลังว่า อาจารย์หญิงที่สอนพวกเรา ท่านเป็นนายอำเภอหญิงคนแรกของไทย
และเป็นบุตรสาวของคุณแม่สิริ กรินไชย
ท่านแนะนำสอนเก่ง พวกเราไม่ง่วงเลย..... แอบชำเลืองไปดูเพื่อนที่เป็นหญิงดูไม่ออกเลยว่า
 ทำงานอะไร ใบหน้าเรียบเฉยเพราะเราถูกสั่งให้งดพูดเวลาเดินผ่านนั่งอาหารโต๊ะเดียวกัน
 ได้แต่อมยิ้มให้กัน แหะ ๆ อันนี้เขาไม่ห้าม
 
วันที่สอง พระอาจารย์ที่สอน บอกว่า การทำสมาธิ จะช่วยให้จิตนิ่งไม่เกรงกลัวอะไรมีความ
มั่นใจ ตริตรองเก่ง ตัดสินใจถูกต้องบางคนจะเห็น
 
วิญญาณมาป้วนเปี้ยน บางคนรู้สึกตัว ลอยสูงขึ้น บางคนเกิดปิติ ตัวร้อน ตัวเย็น
ก็อย่าตกใจ ให้ทำเฉย ๆ ไว้
อาจารย์จะ ทำการการสอบอารมณ์ ฟังอาจารย์พูด 
เอ..เป็นยังไงหนอ ใจคิดถึง เตรียมตัวสอบไล่ 555 จะสอบตกหรือเปล่าหว่า...
 
วันก่อนเขียนเล่าว่า กว่าจะเดิน ไปกลับ 6 เมตรใช้เวลาเกือบครึ่ง ชม.ระหว่างเดินคิดต๊กต๊อก ๆ
 ไม่ไหวมั้ง.. ช้าฉิบ เป๋ง..แหะ ๆ คิดในใจนะครับ ไม่กล้า
พูดออกมาหรอก.. คือผมเป็นนักวิ่งแข่งมาราธอนมาก่อน รู้จักการก้าวย่าง ว่าควรจะใช้ความเร็ว
เร็วแรก ๆ กี่ กม/ชม.. ถ้า กม.ที่ 8 ใกล้จะครบ มินิมาราธอนควรสับเท้าวิ่งเร็วขึ้นคือการแข่งวิ่ง
ใช้หัวคิดเป็น มีความอดทนที่จะ ชนะ ถึงเส้นชัย
 
การที่ผมฝึกวิ่งตามสเต็ปมาก่อน เมี่อเดินช้า มาก ๆ กว่าจะยกเท้าขึ้น จึงไม่เป็นปัญหา ยังต้อง
พูดในใจ อยากยกเท้าหนอ อยากยกเท้าหนอ อยากยกเท้าหนอ (รวม 3 ครั้ง)
แล้วจึงยกเท้า
ไม่น่าเชื่อ ครึ่ง ชมกว่า ที่เดินช้า ๆ จิตที่วิ่งไปมายังกะ ลิงแถวเพชรบุรี กลับนิ่งสงบ
จิตมุ่งอยู่ การเดินอย่างเดียว ไม่คิดอย่างอื่น จิตสงบลง ๆ ๆ
 
ได้ยินเสียงกระดิ่งดัง กริ๊ง.. ก็หยุดเดิน หันหน้าไปทางพระพุทธรูป เริ่มแผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์
ทั้งหลาย ตามที่ได้รับการฝึกสอนมา ต่างคนก็หยิบ อาสนะเป็นผ้าหนานุ่มวางแล้วนั่งขัติสมาธิ
ส่วนผมมีปัญหาการนั่งกับพื้น เดินไปริมห้อง นั่งบนเก้าอี้ พระอาจารย์ท่านเริ่มพูดช้า
นุ่ม ๆ นำพาให้จิตนิ่งลงอีก แล้วทุกคนก็หลับตา ทำสมาธิ.... ผมนั่งเก้าอี้เพราะมองเห็นพระพุทธรูปปาง ทรมาณกาย
รู้ว่าทรมาณร่างกายจะไม่พบหนทางความจริง ที่ลูกศิษย์ปัญจวคีทั้ง 5  เริ่มครางแคลงใจผม แน่ใจว่าเลิกทรมาณดีกว่า

ทุกสิ่งเงียบ ไม่ได้ยินเสียงใด ๆ แรก ๆ ที่นั่งยังมี ความคิดถึง การเดินช้า ๆ และน่าไม่ถึง 10 นาที
จิตก็ดิ่ง เงียบดำ ไม่รู้สึกใด ๆ คล้ายกับ ปิ๊ง ดำมืดไปเลย
 
นานเท่าใดไม่รู้ รู้สึกตัวว่า ขณะนั่งบนเก้าอี้ เจ็บโคนขาสุด ๆ มองข้างหน้าเห็นอะไรลาง ๆ
 ไม่ชัดเจน...นึกท้อถึงความเจ็บปวดโคนขา จากการเดินมาก ไป.....
 
เห็นร่างขาว ๆ เดินถือไม้เท้า เป็นหญิงใส่กางเกง กับเสื้อขาว ตัดผมสั้น แค่ท้ายทอยเดินมาทักทาย
เป็นไง ลื๊อเจ็บขา เหรอ
ครับเจ็บขา
ไม่เป็งไร หลอก  ตองมาใหม่ ๆ อั๊วก็เป็น เจ็กขาอกทงว้ายจะลีเอง
(ไม่เป็นไร หรอก ตอนมาใหม่  ๆ อั๊วก็เป็น เจ็บขา อดทนไว้จะดีเอง)
ว่าแล้วซิ้มชุดขาว ก็เดินจากไปเงียบ ๆ ผมก็ยังคงนั่งนิ่งไม่คิดอะไร จนกระทั่งได้ยิน
เสียงกระดิ่ง กริ๋ง ๆ ๆ
อาจารย์กล่าวเบา ๆ นุ่ม ให้ออกจากสมาธิ ให้ยกมือขวา ไปข้างหน้า เหยียดนิ้ว เอามือลง
ยกมือซ้ายไปข้างหน้า เหยียดปลายนิ้ว ลดมือลง
ยกมือพนม แผ่เมตตา ให้แก่ สรรพสัตว์ ญาติมิตร สัตรูผู้อาฆาต เปรด เทวดาขอให้ได้รับผล
บุญจากการที่ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติธรรม โดยทั่วกัน
เอาละทุกคนลืมตา.....
ขณะลืมตา รู้สึกสดชื่น มีความสงบ สุขขึ้นมากมาย หันไปมองเพื่อนผู้ร่วมทำสมาธิ
เอะ.. ไม่มี หญิงจีนแม้แต่คนเดียว
มีแต่ หญิงสาว วัยทำงาน นุ่งผ้าถุงขาว กางเกงขาว ผมดำ แล้วข้าง ๆ ตัวผมก็เป็นผู้ชายไม่กี่คน
 
ระหว่างนั้น พระอาจารย์ก็ พูดสั่งสอนเบา ๆ เรื่อยไป ผมฟังไปด้วย คิดไปด้วย
เฮ้ย.. หญิงจีนชุดขาวที่มาทักทาย เป็นใคร
 
ระยะนั้น เริ่มรู้แล้วว่า ตนเองเข้าสมาธิได้แล้ว คงมาจาก เดินจงกรม ช้า ๆ มากกว่าที่อื่น 
จิตเลยนิ่งสงบ
ทำให้เข้าสมาธิได้   เหมือนที่คนอื่นเล่าให้ฟังว่า เข้าสมาธิแบบไหนได้บ้าง
พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ บอกพวกเราว่า การทำสมาธิบ่อย ๆ  ดีกว่า "เข้าสมาธินาน "
เปรียบเสมือนฝึกขี่จักรยาน ขึ้นลงบ่อยชำนาญ จะขึ้นขี่เมื่อใดก็ได้ ..เช่นเดียวกับฝึกเข้าสมาธิ

 
แล้วที่เห็นเป็นผี หรือ วิญญาณ มองไปช่องแสงหน้าต่าง กลางวันอยู่นี่นา ในห้องไม่มีใครอีก
เลย ประตูปิดสนิททำไงดี
ไว้เล่าตอนต่อไปนะครับ
 



Create Date : 16 กันยายน 2567
Last Update : 16 กันยายน 2567 12:31:20 น. 8 comments
Counter : 289 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณกะว่าก๋า, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณอุ้มสี, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณสองแผ่นดิน, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณhaiku, คุณSweet_pills, คุณtoor36, คุณtanjira, คุณดอยสะเก็ด, คุณnewyorknurse


 
พี่ไวน์อย่าพิมพ์เสียงนฟิล์มซิ
มันอ่านไม่รู้เรื่องหนะ



โดย: หอมกร วันที่: 16 กันยายน 2567 เวลา:7:10:46 น.  

 
สวัสดีครับพี่ไวน์

คิดถึงป้ากุ๊กนะครับ
คุณป้าไม่ได้เล่นบล็อกอีกเลย

ชอบอ่านเรื่องราวขณะปฏิบัติธรรมที่พี่ไวน์เขียนครับ
อาม่าคนนั้นเป็นใครน้อ ?



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 กันยายน 2567 เวลา:8:40:44 น.  

 
สาธุ สาธุ
ตอนอุ้มเจ้าสมาธิครั้งแรก
ก็เจอหนุ่มซาฟารีสีน้ำเงิน
มาทำไม มาเพื่ออะไร
มาให้เห็นทำไม
ยังสงสัยอยู่ทุกวันนี้คาะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 16 กันยายน 2567 เวลา:15:07:39 น.  

 
คุณไวน์กับสายน้ำได้ปฏิบัติธรรมบ่อยนะ ทางนี้ไม่ค่อยได้ไปสายนั้นเลย ทางนี้เป็นพวกใจบาปเลยไม่ค่อยเข้าไปสายนั้นเท่าไหร่นัก


โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 16 กันยายน 2567 เวลา:22:32:37 น.  

 
หญิงจีนชุดขาว เหมือนมาให้กำลังใจพี่ไวน์ ท่านมาดีนะคะ
จะติดตามอ่านตอนต่อไปค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 17 กันยายน 2567 เวลา:0:14:10 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กันยายน 2567 เวลา:4:23:41 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณไวน์

ป้ากุ๊กคงสบายดีนะคะตอนนี้

คุณไวน์ได้เข้าถึงการทำสมาธินะคะ

พูดถึงการบวชนุ่งขาวห่มขาว ธัญเคยไปบวชที่วัดไกลกังวลค่ะคุณไวน์

แต่ไม่เจอแบบอาซิ้มซิคะ เจอแบบเสียงร้องโหยหวนชวนขนลุกแทนค่ะ
ดีนะคะที่เจอก่อนวันจะลา ไม่งั้นหลอนแน่ๆค่ะ



โดย: tanjira วันที่: 17 กันยายน 2567 เวลา:6:47:25 น.  

 
ไม่เคยเจอลักษณะนี้เลยครับ ไม่ว่าจะทำสมาธิที่ไหน แต่ไม่เจอดีกว่าอยู่แล้วครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 กันยายน 2567 เวลา:22:59:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BlogGang Popular Award#20


 
ไวน์กับสายน้ำ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]





เขียนการเดินทาง
ด้านธรรมชาติ
จักรยานเสือภูเขา



หลังไมค์ครับ
Friends' blogs
[Add ไวน์กับสายน้ำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.