No. 1321 บล๊อกแรกที่เขียนใน BG (ตะพาบ 361) |
 ครั้งแรกที่เขียนบล๊อกลงใน BG เขียนถึงชีวิตวัยรุ่นเชียงใหม่ยังใช้ภาษาพื้นเมืองเยอะมาก เมื่อนำมาลง ในครั้งนี้เลยปรับเป็นภาษาภาคกลางให้เข้าใจง่ายครับ |
เราสามคนขี่จักรยานบ่ายหน้าสู่อำเภอสารภี สองข้างทางเรียงรายด้วยต้น |
ยางนาสูงใหญ่อายุร้อยกว่าปี ใบต้นยางบังแสงแดดร่มเย็นตลอดทาง |
เป้าหมายอยู่ที่บ้านของ บรรจงกับบัญญัติ...บ้านท่ากว้าง เราสามคนสนิทกันมาก พูด คิง ฮา กันตลอดยกเว้นต่อ |
ต่อหน้าผู้ใหญ่เขาว่าเป็นคำหยาบไม่สุภาพ เสมือนคนภาคกลางใช้คำว่า มีง กู |
|
เราขี่รถเลียบริมร่องน้ำกว้างเกือบสี่เมตร คดเคี้ยวคู่ขนานถนนลูกรังสีแดง ริมร่องน้ำหญ้าปล้อง |
ปกคลุมสายน้ำหลกระทกิ่งไม้ที่หักตกในน้ำ เสียงดังคลิ๊ก ๆ ใบไผ่สีเหลืองอ่อนลอยไปกับน้ำไหล |
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเห็นสพานคอนกรีต ทอดข้ามลำน้ำ |
|
ถึงแล้วเว้ยบรรจง ตะโกนบอกพลางเลี้ยวรถข้ามสพาน |
บัญญัติขี่ตามกันมาติด ๆ ถนนเข้าบ้านเป็นถนนดินสีดำปนน้ำตาล ขวามือเป็นกองไผ่ซางเรียง |
รายไปสุดทางเข้าบ้าน  |
เราสามคนจอดรถใต้ถุนบ้านไม้หลังใหญ่กลางต้นลำใย |
แม่ ป่อ ผมมาแล้วเน่อ เจ้าจง..ตะโกนบอกพ่อแม่ที่อยู่บนบ้าน |
มาแล้วกา....ตูน(ไวน์)มาต๋วยก่อ บ่าหันจั๊ดเมิน เสียงแม่ถามถึงเราว่ามาด้วยหรือไม่เห็นนานแล้ว |
มาครับ พ่ออยู่ไหมครับ... |
พ่ออยู่บนบ้าน |
|
เราสามหนุ่มขึ้นบ้าน คลานด้วยหัวเข่า ไปกราบพ่อ แม่ของจงกับญัติ |
ตูน(ไวน์กับสายน้ำ) หิวข้าวก่อ พ่อถามว่าตูนหิวข้าวหรือยัง........... ยังไม่หิวครับ |
สามคนขี่รถถีบ คงจะอิด(เหนื่อย) กินน้ำแล้วเอาผ้าไปเก็บในห้องนอนหายเหนื่อยแล้วไปดู |
คนงานที่หลก(ถอน) ต้นถั่วดิน(ลิสง) ทำไปได้มากน้อยช่วยกันไปดูด้วยจะได้ตากแดด |
ครับ ป่อ สามหนุ่มรับคำพ่อ |
 |
ครู่ใหญ่เราเดินไปท้ายบ้านห่างจากตัวบ้านเกือบ 200 เมตร คนงาน 3 คนกำลังฟาดต้นถั่ว |
กับเกลียฝักถั่วไว้บนลานดินอัดแน่น แสงแดดส่อง |
กระทบฝักถั่วที่ชื้น เลยลานดินเป็นทุ่งนา ที่เต็มไปด้วยต้นถั่วลิสง ใบเขียวปนเหลือง |
|
มาทางนี้ ญัติตะโกนบอกให้ไปทางโน้น กลางทุ่งนา |
ท้องนาเต็มไปด้วยต้นถั่วดิน(ลิสง) ที่ถูกถอนวางเรียงบนร่องดิน คนงานชายสองคนกำลัง ถอนถั่ว |
|
อุ้ย ๆ(คุณตา) ผมขอถอนถั่วได้ก่อ. |
เอาเลยยังไม่เคยถอนยังไม่เคยถอนใช่ไหม |
|
ครับ ยังบ่าเกยใครอ่านแล้วคิดว่า อะไรเอาอะไรมาเกย หัวเรือมาเกยตื้นหรือไง... ไม่ใช่ครับ. |
หมายถึงไม่เคย  |
นี่รวบเก้าต้นถั่วดินสองสามต้น แล้วดึงขึ้นมาเขย่า ๆ ให้ดินหลุดแล้ววางไว้บนร่องดินนะ |
เราลองทำตาม ดูไม่ยาก ดินไม่เหนียวอย่างที่คิดเราสามคนก้มเงยถอนถั่วลิสงได้เกือบสองชม. |
|
เป็นไง ตูนเจ็บหลังเหรอ....... ครับอุ้ยเจ็บหลังไปหมด |
ตูน ทำสักวันสองวันก็บ่าเจ็บหลัง เจ็บแอว(เอว)แล้ว |
เราสามคนหยุดงานไปกิ๋นข้าวเที่่ยง แม่จัดไว้แล้ว พ่อตะโกนบอก |
อุ้ยผมไปกิ๋นข้าวก่อนเน่อ อุ้ยไปกินด้วยกันไหม |
ตูน ไปเถอะอุ้ยกินที่นี่ดีกว่า ขี้คร้านขึ้นบ้าน |
บรรงกำลังล้างเท้าในร่องน้ำเล็กที่น้ำไหล ริน ๆ ใสสอาดปลาตัวเล็กว่ายปรูดปร๊าดหลบหลีก |
ยามเราย่ำเท้าลงไป |
ไม่ต้องกลัว ฮากิ๋นบ่าลำ(ไม่อร่อย)ตัวเล็กนิดเดียว |
|
ก้าวพ้นบันได กลิ่นไข่เจียวหอม ตามด้วยกลิ่นน้ำพริกหนุ่ม(ยังไม่แก่) ท้องของแก่นร้องจ๊อก ๆ  |
เราล้างมือเช็ดด้วยผ้าขาวม้าประจำตัว ต่างคดข้าวเหนียวใส่จานตนเอง แม่คั่วจิกุ่ง(จิ้งหรีด) |
ใส่เกลือ เด็ดขาหลังที่ยาวเป็นหยักทิ้ง  |
ต่างคนปั้นข้าวเหนียว จิ้มน้ำพริกหนุ่ม คว้าจี้กุ่งใส่ปากเคี้ยว  กับไข่เจียวกินจนข้าวหมด |
ตูนเอาข้าวนึ่งแถม กิ๋นฮื่ออิ่มเน้อ แม่บอก |
ขอบคุณครับแม่ บ่าไหวแล้ว |
|
ตูน ไปส่องนกกับป่อบ๋อ พ่อถามจะไปกับพ่อหรือเปล่า |
ไปครับ ส่องนกตี่ไหนครับ |
ไปตางปุ๊น.....พ่อชี้ไปทิวไม้ไกล ลิบ ....เสียงแว่วจากบรรจง..ใกล้ป่าช้า |
|
เอาแล้ว ดันรับปากพ่อ ไม่มีทางเลี่ยง เสียว.......เกือบทุ่มฟ้ามืด |
|
จงถือกระด้งไม้ไผ่มีรูห่าง ๆ พ่อ แก่น ต่างถือไฟฉายคนละอัน เดินตามคันนา จงนำหน้าไปเกือบ |
ลมพัดเย็น..ยะเยือก ไม้ใหญ่สูงทะมึนครอบคลุมไปทั่ว |
มัน ๆ คือป่าเห็ว....บรือ.... |
พ่อเดินนำตามด้วยจง เรา ญัติผ่านใต้ต้นลำใยมะม่วง ต้นสักหญ้าขึ้นสูงแค่เข่าเสียงสัตว์วิ่งไป |
ทางขวาหันไปมองด้านหลัง เงาดำวูบ...เฮ้ย... |
เป็น อะไร กั๋วกา ญัติพูดช้า ๆ เย็น ยานคางหลอก.......... ไอ้บ้า....ญัติ |
พ่อโบกมือให้หยุด พลางฉายไฟ บนพื้นพบขี้นกขาวเป็นหย่อม ๆ พ่อยกกระด้งสูงระดับตา  |
ธรรีบสอดไฟฉายข้างใต้ เปิดไฟ พ่อส่ายกระด้งไปมาเสียงนกขะยับปีก ครู่เดียวเสียงของนุ่ม |
ตกใส่กระด้งเจ้าจง รีบคว้าใส่ข้องที่เตรียมไว้. ได้นกหนึ่งตั๋วแล้ว |
พ่อเดินนำแล้วฉายไฟหาขี้นก ต้นโน้นต้นนี้ พบขี้นก็ทำแบบเดียวกัน |
 |
พอเจ้าจงฉายไฟ สว่างขึ้นนกลืมตาดูแสงไฟ ลานตาแยกไม่ออกคงจะเวียนหัว หัวทิ่มดีกว่า |
คืนนั้นเกือบสี่ทุ่ม เราได้นกสิบกว่าตัว |
ขากลับ เราขอเดินนำหน้า ไม่อยากตามหลังใคร มันเสียวหลัง ยิ่งเดินผ่านเนินดิน หลุมบ้าง |
น่ากลัว  |
พอเข้าทุ่งนา ไม่ต้องกลัวแล้ว |
ก้าวพรวด ๆ วืบเดียว เท้าทิ่มในแอ่งน้ำ ผล...เปียก |
เจ้าญัติ เจ้าบรรจงหัวเราะ ท้องแข็งหรือเปล่าไม่รู้ แต่หัวเราะไม่หยุด |
|
ไม่ถึงตา เ มิ ง...ก็แล้วไป เราพูดอาฆาตนิดหนึ่ง |