Run Run Run
หากจะมีใครสักคนเป็น Idol ของเรา ขอยกตำแหน่งนี้ให้กับ คามิน คมนีย์ : นักเขียน - นักวิ่ง - เจ้าชายแห่งวงชินลง นับตั้งแต่ได้รู้จัก คามิน คมนีย์ ผ่านหนังสือ เย็นวันเสาร์-เช้าวันอาทิตย์ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เราก็แอบยึดถือเขาเป็นแรงบันดาลใจ ผู้ชายนี้ลาออกจากงาน ด้วยมุ่งมั่นจะเป็นนักเขียน แต่กลับเข้าสู่วงการ วิ่งมาราธอน ซะก่อน วิ่งระยะมาราธอน 42.195 กิโลเมตร ทั้งๆ ที่ไม่เคยศึกษาหรือฝีกซ้อมมาก่อนเลย และวิ่งได้ครบระยะซะด้วย เรื่องราวที่เขาได้เรียนรู้ผ่านการเป็น นักวิ่งทาง ในเวลา 1 ปี เรียบเรียงออกมาเป็นผลงานเขียน 1 เล่มและได้รางวัลสารคดียอดเยี่ยม นายอินทร์อะวอร์ด เมื่อปีพ.ศ.2547 และในปีพ.ศ.2553 ผลงานเกี่ยวกับ ชินลง ก็ได้รางวัลเดียวกันอีกครั้ง เราได้อ่านหนังสือทั้ง 2 เล่มนี้ในปีเดียวกัน ...บอกตัวเองว่า การจะเป็น นักอะไรสักอย่าง อย่าทำเพียงแค่ คิด ...แต่ต้องลงมือทำด้วย ...แต่เราก็ผัดผ่อนตัวเองมาโดยตลอด จนกระทั่งวันหนึ่ง จรดปากกาเซ็นชื่อในใบลาออกนั่นแหละ ...จึงระลึกถึง คามิน คมนีย์ อีกครั้ง ...หรือเส้นทางชีวิตจะดำเนินตามรอย Idol ลาออกจากงานประจำ เพื่อมุ่งมั่นในงานเขียน ...ก็ต้อง ลองวิ่งมาราธอน แค่คิดในใจ แต่ก็มีคนตอบสนองสิ่งที่คิด ..ออกปากชวนวิ่งรายการกรุงเทพมาราธอน ชื่องานยิ่งใหญ่ วิ่งบนถนน พร้อมกับคนหมู่มาก มันก็ก็น่าลองดูสักครั้งนะ แต่ระยะมาราธอน เห็นที่จะเกินกำลังคนที่ไม่เคยออกกำลังกายอย่างเรา แค่ มินิมาราธอน 10.5 กิโลเมตร อาจจะพอได้อยู่ เพียงต้องการพิสูจน์ตัวเองว่า เมื่อตั้งเป้าหมายแล้ว เราจะออกจากจุด Start แล้วกลับมาถึงจุด Finish ได้หรือไม่ ...เพียงเท่านั้น ที่คิดไว้ จากกรุงเทพมาราธอน 2557 มาจนถึงกรุงเทพมาราธอน 2558 เก็บมาแล้ว 14 เหรียญ รู้สึก ยาก ตอนที่เริ่มก้าวแรกออกจากเส้น Start ...เหนื่อย ...หอบ ...ระหว่างทาง ได้คิด ได้ทบทวน ได้มอบคนรอบข้าง ได้ยินเสียงเชียร์ ระหว่างทาง เมื่อก้าวเท้าผ้านเส้น Finish ...ความรู้สึกเหนื่อย เมื่อยถาโถมเข้ามา แต่พอเจ้าหน้าที่ยัดเหรียญที่ระลึกใส่มือ ความรู้สึกภาคภูมิก็พรั่งพรูมาเต็มที่ ตัวฟูๆ พองๆ ด้วยความปลาบปลื้ม ปลื้มที่ เราทำได้ ...ไม่สนใจเวลาด้วยซ้ำ จะเร็ว จะช้่า ไม่ได้คิด เพราะเราเพียงต้องการทดสอบตัวเองว่า เราทำได้ และ ทำสำเร็จ เราไม่ใช่นักวิ่งล่ารางวัล แต่เป็นนักวิ่งที่ขอใช้เวลาทบทวนความคิด อยู่กับตัวเองบนเส้นทางวิ่ง ใช้ช่วงเวลาชั่วโมงกว่าๆ ตรงนั้น มุ่งมั่นทำสิ่งเดียว และทำซ้ำๆ บนเส้นทางเดิมบ้าง เปลี่ยนเส้นทางใหม่บ้าง เปลี่ยนเพื่อนร่วมทางใหม่บ้าง เพียงเท่านั้นที่ต้องการ ...และตั้งใจจะ วิ่ง ต่อไป เพื่อพิสูจน์ความมุ่งมั่นของตัวเอง เพื่อสุขภาพกายใจของตัวเองเพื่อสัมผัสเส้นทาง สถานที่ และเพื่อนใหม่ อย่าแปลกใจ ถ้าครั้งต่อไป ...เราจะออกไปวิ่งสนามเล็กๆ ในต่างจังหวัดลองทำตัวแบบนักวิ่งทาง เย็นวันเสาร์-เช้าวันอาทิตย์ ดูบ้าง ไม่แน่นะ ...อาจมีสักครั้ง ที่เราจะได้รับถ้วยรางวัลระยะมินิมาราธอนกับเขาบ้าง มันอยู่ หัว - ใจ - เท้า ของเราเอง
Create Date : 27 พฤศจิกายน 2558 |
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2558 22:22:59 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1788 Pageviews. |
|
|
มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ
ผมเพิ่งอ่าน "เย็นวัเสาร์ - เช้าวันอาทิตย์" จบเหมือนกันครับ อ่านแล้วได้รู้จักคามิน คมนีย์ ผ่านการวิ่งของเขามากพอสมควรเลยครับ
ถ้าพูดถึงเรื่องการแข่งขันวิ่งระยะไกลแล้ว คงต้องบอกว่าในเมืองไทยมีการแข่งขันวิ่งแบบนี้มานานมากกว่า 30 ปีแล้ว ผมยังจำได้เลยว่าในสมัยที่ผมยังเป็นวัยรุ่นอยู่ มีรุ่นพี่คนหนึ่งที่เตะฟุตบอลด้วยกันมาชวนผมไปวิ่ง เขาบอกว่าเป็นการแข่งขันวิ่งเพื่อสุขภาพ ระยะทาง 10 กิโลเมตรเอง จัดการแข่งขันขึ้นที่ต่างจังหวัดไม่ไกลจากกรุงเทพฯนัก แต่ต้องไปตั้งแต่เย็นวันเสาร์ไปนอนค้างคืนหนึ่ง ในครั้งนั้นผมยังจำได้เลยว่าผมมีคำถามมากมายแก่ผู้ที่ชวนผม ผมถามเขาว่าวิ่งเพื่ออะไร? แล้วผมก็ถามตัวเองว่าวิ่งตั้ง 10 กิโลผมจะไหวเหรอ? ผมเล่นฟุตบอลก็ออกกำลังเพื่อสุขภาพแล้วไม่ใช่เหรอ? ด้วยคำถามมากมายในหัวผมนี้เองที่ทำให้ผมต้องตอบปฎิเสธไป
จนเมื่อไม่กี่ปีมานี้ที่ผมได้รู้จักกับการวิ่งเพื่อสุขภาพอย่างเป็นจริงเป็นจังก็เมื่อตอนที่ผมเลิกสูบบุหรี่ได้ ผมตั้งใจที่จะวิ่งเพื่อล้างปอดที่เป็นพิธจากควันบุหรี่ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันคงจะเป็นการยากเกินไปก็ตามแต่ผมก็ตัดสินใจที่จะวิ่ง ผมจึงเริ่มวิ่งในสวนออกกำลังกายจนกระทั่งเลยไปไกลถึงการลงแข่งวิ่งมินิมารธอน ระยะทาง 10 กิโลเมตร เมื่อผมได้รู้จักการวิ่งอย่างสนิทชิดเชื้อแล้วผมก็รู้ได้ทันทีถึงโรคที่เกิดกับผู้ที่ออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ซึ่งก็คือโรคเสพติดการวิ่งนั้นเอง
จากรูปภาพของคุณนัทที่วิ่ง 1 ปีผ่านมาแล้ว 14 รายการนี้ต้องถือว่าคุณนัทเริ่มเสพติคการวิ่งแล้วแน่ ๆ