สวัสดีวันศุกร์ค่ะ ทีแรกกะว่าให้จบในตอนนี้เลยควบสองวัดสุดท้าย แต่ยังมีภาพระหว่างทางนั่งเรือกลับ เป็นคนละด้านกับตอนขามา...เก็บภาพมาแล้ว ไหนๆ ก็ไหนๆ นะคะ ขอต่อตอนจบอีกตอนครั้งหน้านะคะ ภาพเยอะหน่อยเนาะ







โปรแกรมไหว้พระกับเรือด่วนเจ้าพระยา คลิกเลยค่ะ









วัดไผ่ล้อม สร้างสมัยอยุธยาตอนปลาย มีโบสถ์ที่งดงามมาก ลายหน้าบันจำหลักไม้เป็นลายดอกไม้ มีคันทวยและบัวหัวเสาที่งดงามเช่นกัน หน้าโบสถ์มีเจดีย์ขนาดย่อมสององค์รูปทรงคล้ายมะเฟือง ฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมสิบสอง ประดับลายปูนปั้น คนมอญเรียกวัดนี้ว่า "เพี๊ยะโต้"






























วัดที่ ๘ แล้วค่ะ เริ่มเหนื่อยกันแล้วเนาะ มีแต่ภาพ ไม่มีบรรยายนะคะ












ภายในโบสถ์ค่ะ







สามสาวน้อยไหว้พระ








ป้าว่าเสื้อตัวใหญ่ไปนิดเนาะลูก













กำลังจะเดินไปห้องน้ำ ด้านขวามือของวัดค่ะ ผ่านบริเวณนี้ เรือนไม้เก่า ไม่รู้อะไร ไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้ๆ







มองกลับไปวัดค่ะ







การหันเหของแสง อยู่ถูกทิศถูกทาง ก็ได้ฟ้าสวยๆ เหมือนกันค่ะ







มุมนี้มองเห็น "เสาหงส์" อยู่ด้านหลังเจดีย์สีขาวค่ะ







ขนมช่อม่วงค่ะ คล้ายดอกกุหลาบสวยมาก...(ขอบคุณน้องฟ้าใส-ฟ้าใสวันใหม่ สำหรับชื่อขนมค่ะ)







เดินดูโน่นนี่ไปเรื่อยๆ นะคะ เราจะไปวัดปรมัยยิกาวาสกันค่ะ












เก๋ซะ

















ข้าวหลามจิ๋วค่ะ ทำยากมั้ยเนี่ย น่าจะอ้วนไม่เกินนิ้วโป้งค่ะ







กระเช้าสีดา ชิ้นละ ๕ บาท ถ่ายมาไม่ชัด สีหวาน น่ารักดีค่ะ








พอจะมองเห็นรูปร่างมั้ยคะ หลุดโฟกัส กุหลาบชาววัง เห็นแล้วไม่กล้ากินเนาะ








สัมปันนี ชิ้้นละ ๓ บาทค่ะ ที่ถ่ายรูปมาทั้งหมด ไม่ได้ซื้อซักอย่าง







สรรหาข้อความ...












ถึงแล้วค่ะ พระมหารามัญเจดีย์ วัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร






















เจดีย์เอียง...ด้านบนฝั่ง พยายามหามุมถ่าย...







มุมแคบมากค่ะ ไม่รู้จะขยับไปทางไหน







เดินขยับไปมา ภาพก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่








ลองเดินไปตรงริมน้ำค่ะ








จากท่าเรือมองขึ้นมา...







คุณยาย หมอดูแม่นๆ ๔๐ บาท







อยู่ตรงท่าเรือค่ะ







ด้านหลังของพิพิธภัณฑ์







ไม่ได้แวะเข้าไปค่ะ ไว้วันหลังมาใหม่...เวลาจำกัด







เดินกลับแล้วค่ะ







ทอดมันหน่อกะลาค่ะ











"เกาะเกร็ด" นอกจากเป็นชุมชนชาวมอญ ที่ยังรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมมอญไว้อย่างเหนียวแน่นแล้ว ยังเป็นแหล่งกำเนิดของ "หน่อกะลา" ผักชนิดหนึ่งที่ใช้ทำอาหารของชาวมอญเกาะเกร็ดมาช้านาน และจากกระแสของการท่องเที่ยว ทำให้เกิดการผสมผสานทางวัฒนธรรม จากทอดมันธรรมดาๆ เป็นทอดมันหน่อกะลา อาหารมอญสายเลือดใหม่ ของชาวเกาะเกร็ด


หน่อกะลา หรือ เร่ว เป็นพืชผักพื้นเมืองของเกาะเกร็ด ตระกูลเดียวกับขิง นำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง โดยใช้หน่ออ่อน เช่น รับประทานสด ต้มจิ้มน้ำพริก ใช้แทนข่าสำหรับทำต้มยำ ใช้แทนถั่วฝักยาวทำทอดมัน ทอด แกงส้ม ต้มยำ เป็นต้น

สรรพคุณทางสมุนไพร ดอก รักษาอาการผื่นคันตามผิวหนัง ผล รักษาอาการท้องอืด แน่นเฟ้อ จุกเสียด ราก รักษาอาการเหนื่อยหอบ






หน่อกะลา กำละ ๑๐ บาท ภาพจากเว็บค่ะ







อีกมุมของพระมหาเจดีย์รามัญค่ะ


































น่ารักดีเนาะ สีสันสดใสดี แล้วแต่เราจะติดเป็นแถวยาว เป็นแนวตั้ง







แบบนี้ก็น่ารัก












ไม่ชอบขนมไทยตระกูลนี้ค่ะ หวานเกิน...







ไม่ว่าจะเป็นแบบกรอบ หรือแบบนี้ ก็ไม่ค่อยชอบค่ะ







เหมือนจะชอบแมว เห็นที่ไหนก็ถ่ายมา ให้ดูเล่นชอบค่ะ ให้เลี้ยงคิดก่อน กระถางต้นไม้ที่บ้าน มีแมว (ไม่ได้เลี้ยง) มาอึประจำ...














บนเวที...โครงการร้อยรักษ์วัฒนธรรม ไทย-มอญ







เราเพิ่งออกมาเจอ ไม่รู้เค้ามีการแสดงกี่ชุด








จบแล้วด้วย เสียดาย...







มาเกาะเกร็ดทั้งที ขาดไม่ได้ "เครื่องปั้นดินเผา" ค่ะ

















หลายๆ แบบ ไม่ได้ซื้อค่ะ เก็บภาพมาฝาก...

















ได้เวลาแล้ว...ขึ้นเรือกลับกันค่ะ







คนนั่งริมขวาได้เก็บภาพเจดีย์เอียงอีกรอบ มุมมหาชน ถ่ายจากแม่น้ำขึ้นไป...เรานั่งคนละฝั่ง







ผ่านวัดบางจากอีกแล้ว







นนทบุรี อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากเลย แต่คนละบรรยากาศเลยค่ะ






































ปิดท้ายบล็อกนี้ ด้วยบ้านสีชมพูค่ะ










เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค โดยเรือพระที่นั่งที่กองทัพเรือจัดถวาย จากท่าน้ำโรงพยาบาลศิริราช ไปยังบริเวณเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และเสด็จพระราชดำเนินมาทรงทำพิธีเปิดโครงการชลประทานที่จัดสร้างขึ้นตามพระราชดำริจำนวน ๕ โครงการ ณ ที่ทำการกรมชลประทาน ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับโรงพยาบาลศิริราช ในวันที่ ๗ ก.ค. ๒๕๕๕

ทั้งนี้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ขอเชิญชวนส่วนราชการ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น บริษัทห้างร้าน ชุมชน และประชาชนที่มีที่ทำการ หรือตั้งบ้านเรือนอยู่สองฝั่งลำน้ำเจ้าพระยาตั้งแต่โรงพยาบาลศิริราช จนถึงเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เฝ้าฯ รับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยอาจอนุโลมตามธรรมเนียมประเพณีที่เคยปฏิบัติมาในกาลก่อน โดยการตั้งโต๊ะหมู่บูชาเป็นราชสักการะ ประดับธงทิว โคมไฟฟ้า โคมประทีป พร้อมทั้งเฝ้าชมพระบารมีในระหว่างเวลาที่เสด็จพระราชดำเนินผ่านโดยพร้อมเพรียงกัน ส่วนวัดวาอารามที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำในเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ทราบว่า พระสงฆ์จะได้สวดชยันโต เจริญชัยมงคลคาถาเพื่อถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสนี้


ข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์