ตอนต่อจาก  ไหว้พระ ไหว้เจ้า --- วัดเล่งเน่ยยี่ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ศาลเจ้าแม่ทับทิม วัดราชนัดดาราม

ไหว้พระ ไหว้เจ้า --- วัดเทพธิดารามวรวิหาร วันที่  ๓๑ มกราคม  ๒๕๕๘  ค่ะ

วัดสุทัศนเทพวราราม เคยอัพบล็อกแบบละเอียดไปแล้ว

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=morkmek&month=19-08-2013&group=3&gblog=204

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=morkmek&month=26-08-2013&group=3&gblog=207


วันนี้มาไหว้พระ ไม่ได้ถ่ายรูปละเอียดนะคะ 
จากแผนที่ เราเดินมาจากวัดเทพธิดาราม




ผ่านศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร




ข้ามฝั่งกัน  







เสาชิงช้า







เข้ามาปุ๊บ ก็หันขวา




แลซ้าย




๑๕.๐๕ น.  วันที่  ๓๑  มกราคม  ๒๕๕๘





พระศรีศากยมุนี   เป็นองค์พระประธานในพระวิหารหลวง
วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

พระอารามหลวงชั้นเอกพิเศษ ชนิดราชวรมหาวิหาร ฝ่ายมหานิกาย
อันเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๘ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์





นับเป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยสำริดที่ใหญ่กว่าพระพุทธรูปหล่อองค์อื่น ๆ ในประเทศไทย 

เดิมเป็นพระประธานอยู่ในพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ เมืองสุโขทัย มีพระพุทธลักษณะงดงาม

สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์พระร่วงแห่งกรุงสุโขทัย  ขนาดหน้าตักกว้าง ๖.๒๕ เมตร (หรือ ๓ วา ๑ คืบ)





พุทธลักษณะพระศรีศากยมุนีเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งขัดสมาธิราบ
พระหัตถ์ขวาอยู่ในท่าปางมารวิชัย และพระหัตถ์ช้ายหงายวางบนพระเพลา

ครองจีวรห่มเฉียงชายสังฆาฏิยาวลงมาถึงระดับพระนาภี
มีปลายเป็นสองแฉกเขี้ยวตะขาบ ลักษณะพระองค์ค่อนข้างสั้น
บั้นพระองค์เล็ก พระอังสาใหญ่ หัวพระถันโปน





ลักษณะพระพักตร์และพระเศียรที่ปรากฏ

คือ พระรัศมีเป็นเปลวสูงตั้งอยู่บนพระอุษณีษะ

รูปมะนาวตัด เส้นพระศกขมวดเล็กแบบก้นหอย





พระพักตร์รูปไข่เกือบกลม พระขนงโก่งแยกออกจากกัน

ระหว่างพระขนงมีพระอุณาโลมคั่นอยู่

พระนาสิกงุ้มพระโอษฐ์อมยิ้มเล็กน้อย พระหนุกลม





ด้านหลังบัลลังก์พระศรีศากยุมนีมีแผ่นศิลาสลัก เป็นศิลปะแบบทวารวดี

เป็นรูปสลักปิดทอง ปางยมกปาฏิหาริย์ และ ปางประทานเทศนาในสวรรค์

เป็นของเก่าและหาดูได้ยาก เข้าใจว่าจะมีอยู่เพียงชิ้นเดียวในโลก













ยังมีหลายจุด หลายมุม ที่ไม่ได้เก็บภาพมา




ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ต่อให้ไม่มีเวลายังไง แต่มาถึงนี่แล้ว ยังไงก็เก็บภาพไปจนได้







บานประตูด้านหลัง




ด้านหลัง องค์พระศรีศากยมุนี










แต่ละปาง... แปลกตา  หาข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้เลยค่ะ














ขอบคุณ คอมเมนท์ที่ ๙  คุณผู้ชายในสายลมหนาว  เอื้อเฟื้อข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ

สังเกตว่ามีภาพย่อยอยู่  ๖ ภาพ แทนอดีตพระพุทธเจ้า ๖ พระองค์








พระพุทธเจ้าทรงเทศนา มีพระอัครสาวกเบื้องซ้าย และเบื้องขวา





เจ้าชายสิทธัตถะทรงราชรถออกนอกเมือง เพื่อออกบวช  (ตอนมหาภิเนษกรมณ์)







ภาพจิตรกรรมบนเสา เกี่ยวกับโลกตามแนวไตรภูมิ










อ่านไม่เป็น ได้เก็บภาพไว้ก็ยังดีเนาะ










ลาพระวิหารไปด้วยภาพนี้ค่ะ




บ่ายสามกว่า ฟ้าเป็นเช่นนี้










ไม่ได้เดินไปพระอุโบสถค่ะ




ออกมาจากประตู  เสาชิงช้าอยู่ตรงหน้า ถัดไปทางขวามือ




เดี๋ยวข้ามถนนตรงนี้ไปฝั่งเทวสถานค่ะ




๑๕.๒๑ น.

เทวสถาน หรือที่นิยมเรียกกันว่า เทวสถานโบสถ์พราหมณ์

ตั้งอยู่ ณ เลขที่ ๒๖๘ ถนนบ้านดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ใกล้เสาชิงช้า และศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๗

แล้วโปรดให้นำพราหมณ์จากภาคใต้ขึ้นมาประจำราชสำนัก ทำหน้าที่ประกอบพระราชพิธีสำหรับพระองค์และราชอาณาจักร

ภายในเทวสถานมีโบสถ์ทั้งหมด ๓ หลัง เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนชั้นเดียว มีกำแพงล้อมรอบ ปัจจุบันมีอายุได้ ๒๓๒ ปี

เทวสถานได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ

ประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๖๖ ตอนที่ ๖๔ วันที่  ๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๙๒

หน้าที่ ๕๒๘๑ ลำดับที่ ๑๑ ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน พุทธศักราช  ๒๔๙๒

ข้อมูลจากวิกิพีเดีย

ถ่ายรูปได้แค่ภายนอกอาคารค่ะ

อ่าน และปฏิบัติตามด้วยนะคะ

ภาพภายในโบสถ์ และรายละเอียด อ่านเพิ่มเติมได้ที่

//www.devasthan.org/history_02.html

ไปแล้วค่ะ ลาโบสถ์พราหมณ์ไปด้วยภาพนี้

ออกจากเทวสถาน เราเดินมาเรื่อย ๆ  แวะพักร้อน พักเหนื่อยกันที่ ร้านสวีทตี้ ไอซี่ คอฟฟี่ค่ะ

ของเอฟ ชาเขียวปั่น กับเค้กมะพร้าว

ของเรา อเมริกาโน่ร้อน กับ เค้กชอค

สรุปคือกินด้วยกัน คนละคำสองคำ

๑๖.๒๒ น.  จะเดินไปป้ายรถเมล์ แยกย้ายกันกลับบ้านค่ะ

ภูเขาทอง

อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

๑๖.๓๑ น. วันที่ ๓๑ มกราคม  ๒๕๕๘  รอรถเมล์กลับบ้านป้ายนี้ ถนนราชดำเนินกลาง