วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร (๑)




สวัสดีวันจันทร์ค่ะ วันนี้พาเที่ยววัดนะคะ ตอนก่อนโน้น...เล่าให้ฟังว่านัดกับเพื่อนที่หน้าลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ แต่เราไม่ได้แวะเข้าวัดราชนัดดา เพราะจะมาวัดสระเกศกัน









๐๘.๑๙ น. วันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ดอกพยับหมอกค่ะ







ไม่ทราบชื่ออีกแล้วค่ะ






เรามาวัดนี้กับเจ้าเอฟ ๒-๓ ครั้งแล้ว แ่ต่เพื่อนหนิงเพิ่งเคยมาครั้งแรก...






ระหว่างทาง...






ขอแวะที่นี่ก่อนค่ะ เรายังไม่ได้กินอะไรเพราะออกมาพร้อมลูกไปโรงเรียน เอฟกับหนิงกินมาจากบ้านแล้ว...






ที่นี่ห้องน้ำสะอาดมากค่ะ ยังเช้าอยู่ เรามาเป็นคนแรกของร้านเลยค่ะ





ถามพี่เค้าอย่างเกรงใจ...เปิดหรือยังคะ พี่เค้าบอกเปิดแล้ว หนิงกับเอฟกินไอติมแต่เช้า ของเรากาแฟค่ะ






ลูกค้าตัวเล็ก มากับคุณปู่ค่ะ ขึ้นไปไหว้พระ ขาลงมาพักแวะดื่มน้ำ...คุณปู่บอกให้ยิ้ม ให้ป้าถ่ายรูปหน่อย...






เรียบร้อยแล้ว เดินกันต่อค่ะ






ดอกบัว...






นี่ก็ดอกบัว






ตอน ๗ โมงเช้าถ่ายรูปที่วัดเทพธิดาราม ฟ้ายังสวยอยู่เลย ดูตอนนี้สิคะ ๐๘.๔๙ น.






ด้านนี้ฟ้ายังไม่ค่อยดำ...แต่ไล่มาแล้วค่ะ





ต่อภาพพาโนรามาในใจนะคะ






ระฆังระหว่างทางเดิน





เจ้าเอฟกับเพื่อนหนิงค่ะ ขออนุญาตก่อนเอาออกสื่อแล้วค่ะ





มาเที่ยวนี้ เห็นป้ายติดไว้ว่า ให้ใส่รองเท้าเข้าไปได้ ก่อนหน้านั้นป้ายเขียนว่า ระวังรองเท้าหาย ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ






น่าจะแปลว่า ที่ผ่านมายังมีรองเท้าหายเรื่อยๆ ตัดปัญหาใส่รองเท้าเข้าไปเลยละกัน






สะอาดมากเลยค่ะ














วิวบริเวณวัดสระเกศ จากเจดีย์ภูเขาทองมองลงไป...






เหลืองเรืองรองงามจับตา...แม้ฟ้าไม่เป็นสีฟ้าตัดกับเจดีย์สีทอง










อาคารบ้านเรือน ณ วันเวลานี้ ปี ๒๕๕๕


















ธงชาติไทยที่พระบรมบรรพต











หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าฯ อยู่มุมขวา กลางภาพสะพานพระราม ๘ ค่ะ


















ลงมาแล้วค่ะ





เช็คกำลังขาตัวเอง มากี่ทีก็ไม่เคยแวะนั่งพักระหว่างทางเลยค่ะ






ลั่นทมสีนี้ หอมที่สุดค่ะ ร่วงหล่นแล้วก็ยังงาม...






ดอกต้นจันผาค่ะ เพิ่งรู้จันผามีดอก หลังจากนั้นก็เห็นเรื่อยๆ อาจเพราะเราไม่เคยสังเกต






บัวอเมซอนค่ะ







เราเดินผ่านศาลาสมเด็จพระพุฒาจารย์ มองเข้ามาเห็นองค์หลวงพ่อ มองแต่ไกลงามมาก เลยแวะเข้ามา...






หลวงพ่อดวงดี หรือ พระพุทธมงคลบรมบรรพต

เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ หรือปางตรัสรู้ มีพุทธลักษณะพุทธศิลป์แห่งพุทธศตวรรษที่ ๒๖ มีความงดงาม โดดเด่น ด้วยศิลปะสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ หล่อขึ้นจากแผ่นดวงมหาโภคทรัพย์ที่บรรจุอยู่บนยอดบรมบรรพต ภูเขาทอง พระเศียรหล่อด้วยทองคำ บรรจุเพชร และพระบรมสารีริกธาตุ สมัยรัชกาลที่ ๕ ซึ่งขุดพบจากเมืองกบิลพัสดุ์ ประเทศอินเดีย ถวายพระนามโดย เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และมีบัญชาให้ประดิษฐาน ณ ศาลาสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ในบริเวณบรมบรรพต ภูเขาทอง ด้านประตูสะพานร้องไห้


เนื่องจากหลวงพ่อดวงดีหล่อขึ้นจากแผ่นดวงมหาโภคทรัพย์ ที่บรรจุอยู่บนยอดภูเขาทอง ณ กลางสะดือเมือง อันเป็นศูนย์กลางจักรวาลตามคติทางพระพุทธศาสนา เป็นที่เคารพสักการบูชา แก่พุทธศาสนิกชน ผู้เดินทางมาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ แห่งบรมบรรพต (ภูเขาทอง) พุทธศาสนิกชนผู้ได้ทำการสักการะบูชา เชื่อว่าจะประสบแต่ความโชคดี หนุนดวงชะตาให้ดี จะขจัดเคราะห์ และเกิดสิริมงคล ตลอดถึงนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ตนเองและครอบครัว นานัปประการ







หลวงพ่อดวงดีออกแบบโดยอาจารย์พีระพงษ์ ขุนจิตต์ ศิลปินรางวัลต้นธารศิลป์ คนแรก

ปั้นและหล่อโดยอาจารย์แดง ผู้สืบทอดศิลปะการหล่อการปั้นจากสกุลช่างกรุงศรีอยุธยา และเป็นผู้ได้รับรางวัลต้นธารศิลป์ คนที่สอง






วันที่เราไปเจออาจารย์พีระพงษ์พอดี เลยขออนุญาตอาจารย์ถ่ายรูป...






ภาพจิตรกรรมฝาผนัง อาจารย์พีระพงษ์ก็เป็นคนเขียนค่ะ นำมาจากภูมิทัศน์บริเวณวัดสระเกศทั้งหมด






รวมทั้งพระพุทธเจ้าปางต่างๆ แกะสลักจากไม้ด้วยค่ะ


















งามนะคะ


















กล่องทำบุญ...ตามศรัทธาค่ะ






แล้วหยิบดอกไม้ตรงนี้ ไปกราบหลวงพ่อดวงดีค่ะ










ด้านหลังสุดของศาลา อาจารย์ยังเขียนภาพไม่เสร็จค่ะ เราไปเมื่อ ๘ มิถุนายน ป่านนี้น่าจะเสร็จแล้วมังคะ





ภาพสุดท้ายของบล็อกนี้ มีต่อตอนหน้า....






ตอนหน้า...เราแวะพระวิหาร, พระคัมภีร์พุทธศาสนาโบราณ ๒๐๐๐ ปี, หอไตร แต่ลืมแวะพระอุโบสถค่ะ


ย้อนกลับไป...ที่เคยอัพบล็อกไปแล้ว เมื่อปี ๒๕๕๓ ตามลิงค์ด้านล่างนะคะ


พระอุโบสถ วัดสระเกศ ไปเมื่อ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๓


วัดสระเกศ ตอนจบ ไปเมื่อ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๓