ความทุกข์ - พระเทพคุณาภรณ์
ธรรมะวันหยุด พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร www.watdevaraj.com
ทุกข์ที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากส่วนประกอบของชีวิต ไม่สมดุลกัน โดยส่วนมากมุ่งหาแต่ทรัพย์อย่างเดียว ได้มากเท่าไรก็ยังไม่พอ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง ถูกธรรม จะถูกดูหมิ่นอย่างไร ก็ไม่ใส่ใจ ขอเพียงให้ได้ทรัพย์มาสนองความต้องการของตนเท่านั้น ซึ่งเป็นรูปแบบของความทุกข์มากขึ้น และทำให้เกิดปัญหาไม่รู้จักหมดสิ้น
ความอยากได้สิ่งต่างๆ นี้ เป็นความรู้สึกทุกข์ที่มีอยู่ประจำใจของมนุษย์ ตั้งแต่เป็นเด็กจนกระทั่งเติบใหญ่ และเมื่อเติบใหญ่ขึ้นแล้ว ความอยากได้สิ่งต่างๆ มากขึ้นตามลำดับ อยากได้อย่างนั้น อยากได้อย่างนี้ จนกระทั่งตนเองก็หาให้แก่ตนเองไม่ทัน คือ ความอยากมันพองตัวมากขึ้น
ยิ่งเมื่อมีครอบครัวแล้ว ความต้องการซึ่งเคยมีเพื่อตนเองคนเดียว กลับถูกขยายโครงการออกไปอีก เป็นความต้องการเพื่อคนอื่นๆ เพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก เมื่อไม่ได้สิ่งที่ตนปรารถนา จะเกิดความทุกข์ ความเดือดร้อนนานาประการ
ความทุกข์ความเดือดร้อนทั้งปวง ที่เกิดมีแก่มนุษย์ทุกวันนี้ เมื่อสืบหามูลเหตุแล้ว ล้วนแต่เกิดจากความอยากทั้งสิ้น พระพุทธดำรัสที่ตรัสไว้ตอนหนึ่งว่า ภิกษุทั้งหลาย เหตุเกิดแห่งทุกข์นี้ ได้แก่ ความอยากอันเป็นเหตุให้มีภพใหม่ พัวพันกับความกำหนัดยินดี ในอารมณ์นั้นๆ คือ ตัณหา 3 ประการ คือ
- กามตัณหา ความอยากได้อย่างนั้น อยากได้อย่างนี้
- ภวตัณหา ความอยากเป็นอย่างนั้น อยากเป็นอย่างนี้
- วิภวตัณหา ความอยากไม่เป็นอย่างนั้น อยากไม่เป็นอย่างนี้
ตัณหา 3 ประการนี้เป็นมูลเหตุให้เกิดความอยากและเหตุความทุกข์ทั้งปวง
ความอยากนี้ เป็นเพียงธรรมที่จรมาเกิดร่วมกับจิต เมื่อจะเกิดก็อาศัยปัจจัยเกิดขึ้น ถ้าไม่มีปัจจัยเป็นเครื่องอาศัยก็เกิดขึ้นไม่ได้
สิ่งที่เป็นปัจจัยให้เกิดความอยากนั้น ได้แก่ รูปพรรณสัณฐานทรวดทรงที่สวยสดงดงามตา เสียงที่ไพเราะเสนาะโสตจับใจ กลิ่นที่หอมหวนชวนให้ชื่นใจ รสที่ดีที่อร่อยชวนให้บริโภค สัมผัสที่อ่อนนุ่ม ตลอดถึงลาภ ยศ สรรเสริญ และความสุข เป็นต้น
สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ล้วนเป็นอารมณ์ที่น่าปรารถนาน่าใคร่น่าพอใจ เพราะเป็นเครื่องยั่วยวนชวนใจให้เกิดความลุ่มหลง ให้เกิดความอยากได้ ทำใจให้ดิ้นรนแสวงหาอารมณ์ที่ปรารถนาอยากได้นั้น เมื่อได้แล้ว มิใช่ว่าจะพอเพียงนั้น ย่อมทะยานอยากแสวงหาอย่างอื่นๆ ต่อไปอีก
ความอยากนี้ เกิดขึ้นอยู่ร่ำไป ไม่รู้จบไม่รู้สิ้น ความอยากมีอารมณ์ไม่มีที่สิ้นสุด และความอยากที่เกิดขึ้นแล้วนั้น ถ้าบุคคลไม่รู้เท่าทัน ไม่คอยควบคุมไว้ ปล่อยให้ขยายตัวมากยิ่งขึ้น ย่อมมีอำนาจบังคับใจให้ทำอะไรได้ ไม่มีขีดจำกัด ทำให้ผู้นั้นไม่รู้เหตุผลตามความเป็นจริง มีแต่ความมืดมน ไม่รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนทำนั้นถูกหรือผิด
หน้า 23
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ กราบนมัสการขอบพระคุณ พระเทพคุณาภรณ์ สวัสดิ์สิริชีววารค่ะ
Create Date : 14 มีนาคม 2558 |
Last Update : 14 มีนาคม 2558 12:52:11 น. |
|
0 comments
|
Counter : 333 Pageviews. |
|
|