อามิสทาน - พระเทพคุณาภรณ์
ธรรมะวันหยุด พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร www.watdevaraj.com
เพราะเห็นประโยชน์อานิสงส์แห่งทาน และโทษของการไม่นิยมให้ทาน ท่านผู้เป็นบัณฑิตทั้งหลาย จึงชักชวนให้คนเราให้ทานแก่กัน และแสดงวิธีให้ทานไว้ว่า ทานมี 2 อย่าง คือ อามิสทาน และ ธรรมทาน
คำว่า อามิสทาน หมายถึง การให้วัตถุสิ่งของ ที่เป็นประโยชน์ต่อการยังชีพ เช่น ให้อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค รวมไปถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่จะทำให้ผู้รับ ได้บริโภคใช้สอยให้เกิดประโยชน์แก่ตน โดยที่สุดแม้ทำให้เกิดความสุขทางใจ เกิดความภาคภูมิใจแก่ผู้รับ เช่น ของขวัญรางวัลต่างๆ เป็นต้น ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นอามิสทานทั้งสิ้น
การให้วัตถุสิ่งของนั้น เป็นสื่อประสานใจที่สำคัญเบื้องต้น ที่จะทำให้คนเรารักกัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ เพราะผู้ให้ก็มีน้ำใจให้ ผู้รับก็รู้ซึ้งน้ำใจนั้น ใจต่อใจจึงเชื่อมประสานกัน และเมื่อต่างคนต่างให้ ต่างคนต่างรับ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปอย่างนี้ ไมตรีจิตก็ยิ่งจะเป็นปึกแผ่นแน่นหนา ไปมาหาสู่กันมิได้ขาด ถึงจากกันไปไกลแค่ไหน แต่สายใยแห่งไมตรี ก็เชื่อมโยงกันไว้ตลอดเวลา เมื่อคนเรามีไมตรีต่อกัน รักและช่วยเหลือกันเช่นนี้ ก็ไม่เบียดเบียนเอารัดเอาเปรียบกัน
การทำบุญให้ทานมีวัตถุประสงค์ต่างกัน เช่น ให้เพื่อสงเคราะห์กันและกัน ให้เพื่อตอบแทนคุณ ให้เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา กล่าวเฉพาะการให้วัตถุสิ่งของเพื่อทำบุญในพระพุทธศาสนา ที่เมื่อทำแล้วมีผลมาก จะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติ 3 ประการ คือ
1.ปัจจัยสิ่งของสำหรับทำบุญต้องบริสุทธิ์ เช่น เงินที่จับจ่ายใช้สอยซื้อหาวัตถุสิ่งของเหล่านั้นต้องเป็นเงินที่ได้มาด้วยการประกอบสัมมาอาชีวะ เกิดขึ้นจากหยาดเหงื่อแรงงานของตนโดยตรง มิได้เบียดเบียนชีวิตคนและสัตว์อื่นๆ เช่น ฆ่าสัตว์มาทำบุญ และเป็นของดีมีคุณภาพ เป็นส่วนที่ดีที่สุดในบรรดาสิ่งของที่มีอยู่ เช่น ข้าวสุกที่นำมาใส่บาตรนั้น ก็เป็นข้าวปากหม้อ แกงก็เป็นแกงถ้วยแรกที่ตักออกมาจากหม้อ เป็นต้น วัตถุสิ่งของนั้นเป็นสิ่งของสมควรและไม่เกิดโทษแก่พระภิกษุสามเณร
2.เจตนาของผู้ถวายบริสุทธิ์ คือ ความตั้งใจของผู้ทำบุญต้องบริสุทธิ์ในกาลทั้ง 4 คือ
2.1 ปุพพเจตนา ความตั้งใจก่อนจะทำบุญ มีความเลื่อมใสศรัทธา ไม่มีความตระหนี่ถี่เหนียว ไม่มีความรู้สึกเสียดาย หรือลังเลใจในผลของบุญ
2.2 มุญจนเจตนา ความตั้งในขณะทำบุญ มีความเลื่อมใสศรัทธา มีความปลาบปลื้มปีติยินดีในการทำบุญ น้อมกาย วาจา ใจ ถวายด้วยความเต็มใจ
2.3 อปรเจตนา ความตั้งใจหลังจากทำบุญไปแล้ว ภายใน 7 วัน เมื่อหวนระลึกถึงการทำบุญที่ผ่านมาแล้ว มีความปีติสุขในบุญกุศลนั้น ไม่มีความรู้สึกเสียดาย
2.4 อปราปรเจตนา ความตั้งใจภายหลังจาก 7 วันไปแล้ว แม้เวลาผ่านไปนานๆ เมื่อหวนระลึกถึงบุญที่ทำแล้ว ก็ปลาบปลื้มปีติใจอยู่เสมอไป
ผู้ที่ทำบุญด้วยเจตนาคือความตั้งใจบริสุทธิ์ทั้ง 4 กาลนี้ จะส่งผลให้มีความสุข ความเจริญรุ่งเรือง และปลาบปลื้มใจในปัจจุบัน
3.พระภิกษุสามเณรเป็นผู้บริสุทธิ์ ได้แก่ พระภิกษุสามเณร ผู้เป็นเนื้อนาบุญ เป็นผู้บริสุทธิ์ คือปราศจาก ราคะ โทสะ โมหะ โดยสิ้นเชิง หมายถึงพระอริยบุคคล หรือพระภิกษุสามเณรเป็น ผู้มีศีลบริสุทธิ์และเป็นผู้กำลังปฏิบัติเพื่อกำจัด ราคะ โทสะ โมหะ
หน้า 23
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ กราบนมัสการขอบพระคุณ พระเทพคุณาภรณ์
Create Date : 30 สิงหาคม 2557 |
Last Update : 30 สิงหาคม 2557 10:30:07 น. |
|
0 comments
|
Counter : 522 Pageviews. |
|
|