สัปปุริสธรรม (1) - พระเทพคุณาภรณ์
ธรรมะวันหยุด พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร //www.watdevaraj.com
สัปปุริสธรรม คือ ธรรมของบุรุษผู้สงบ หมายถึง ผู้ปฏิบัติตามหลักธรรมนี้แล้วจะมีความเป็นอยู่อย่างสงบไม่เดือดร้อน มีชีวิตหน้าที่การงานที่ดี เมื่อมีอุปสรรคอย่างใดอย่างหนึ่งเข้ามาขัดขวาง ก็จะสามารถใช้หลักธรรมนี้ แก้ไขปัญหาให้ผ่านพ้นไปในทางที่ดีได้
สัปปุริสธรรม มี 7 ประการ คือ
ประการที่ 1 ความเป็นผู้รู้จักเหตุ คือ รู้จักว่า สิ่งนี้เป็นเหตุแห่งความสุข สิ่งนี้เป็นเหตุแห่งทุกข์ หมายความว่า ความรู้จักพระธรรมวินัย รู้จักเหตุให้เกิดความสุข รู้จักเหตุให้เกิดความทุกข์ เช่น ความไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลงผิด เป็นเหตุให้เกิดความสุข ความโลภ โกรธ หลงผิด เป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ ธรรมดามนุษย์ทั่วไป ย่อมปรารถนาความสุข ส่วนความทุกข์เป็นสิ่งที่ไม่น่าปรารถนา ซึ่งไม่มีใครชอบ
ดังนั้น ควรเลือกประกอบแต่เหตุอันจักให้ผลเป็นสุข คือความดีงามทั้งปวง และละเว้นเหตุที่จะให้ผลเป็นทุกข์ คือความชั่วทั้งปวง โดยระวังอย่าประมาท อย่าให้เกิดความสนุกเพลิดเพลินเกินขอบเขต ด้วยอำนาจความยินดีพอใจพาไป หรืออย่าให้กิเลสครอบงำจิต เห็นผิดเป็นชอบ เป็นเหตุให้มีผลเป็นทุกข์
ประการที่ 2 ความเป็นผู้รู้จักผล คือ รู้จักว่า สุขเป็นผลมาจากเหตุนี้ ทุกข์เป็นผลมาจากเหตุนี้ หมายความว่า ความรู้จักเนื้อความของพระธรรมและวินัย รู้ชัดว่า สุขที่ได้รับในขณะนี้เป็นผลมาจากเหตุนี้ ทุกข์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้เป็นผลมาจากเหตุนี้ เช่น ความสุข เป็นผลมาจากความเป็นคนไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลงผิด ความทุกข์ เป็นผลมาจากความเป็นคนโลภ โกรธ หลงผิด
ข้อนี้ท่านสอนให้รู้จักการประกอบเหตุที่จะอำนวยผลให้เป็นสุข งดเว้นการประกอบเหตุที่จะอำนวยผลให้เป็นทุกข์ ความรู้จักเหตุ รู้จักผลนี้ ต้องประกอบด้วยปัญญา รู้เหตุและผลที่แท้จริง มีหลักฐานและประสบการณ์ มิใช่เป็นการนึก หรือคาดเดาเอาเอง
ปัจจุบันนี้เราจะได้ยินว่า ต่างคนก็อ้างเหตุผลของตน และถือมั่นว่า เหตุผลของตนเท่านั้นถูก เหตุผลของคนอื่นไม่ถูก ต้องใช้ปัญญาพิจารณาให้ละเอียด ให้เข้าถึงเหตุและผลที่แท้จริง จะได้ไม่ผิดพลาด
ประการที่ 3 ความเป็นผู้รู้จักตน คือ รู้จักตนว่า เรามียศศักดิ์ สมบัติ บริวาร ความรู้ ความสามารถ และคุณธรรมเพียงเท่านี้ๆ แล้วประพฤติตนให้สมควรแก่ที่เป็นอยู่ หมายความว่า ความรู้จักฐานะ ภาวะที่ตนมีอยู่ เป็นอยู่ แล้วประพฤติให้เหมาะสม เช่น เกิดมาในชาติตระกูลใด มีตำแหน่งหน้าที่อย่างไร มีทรัพย์สมบัติเท่าไร มีบริวารเป็นอย่างไร มีความรู้ความสามารถเท่าไร มีคุณธรรมอย่างไร เป็นต้น
เมื่อรู้จักตนแล้ว ต้องวางตนให้เหมาะสม คือ ประกอบการงานหาเลี้ยงชีพ ดำรงชีวิตให้เหมาะสมกับภาวะของตน รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน ตั้งอยู่ในสุจริต ประพฤติดีทางกาย วาจา ใจ สม่ำเสมอ ไม่เย่อหยิ่งอวดดี อวดมี อวดรู้ ประพฤติตนให้เหมาะสมแก่ฐานะภาวะของตน
ข้อนี้ประสงค์ให้มีสติ ในเวลาจะพูด จะทำสิ่งใดที่เกี่ยวกับผู้อื่นแล้ว ให้มองดูฐานะของตนก่อน แล้วจึงพูด จึงทำพอสมควรแก่ภาวะของตน ไม่ให้ยิ่งหรือหย่อนจนเกินไป เพราะผู้อวดดีไม่รู้จักฐานะของตน ย่อมนำตนไปสู่ความหายนะได้
หน้า 23
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ กราบนมัสการขอบพระคุณ พระเทพคุณาภรณ์
โสรวารสิริสวัสดิ์ค่ะ
Create Date : 05 เมษายน 2557 |
Last Update : 5 เมษายน 2557 9:51:18 น. |
|
0 comments
|
Counter : 550 Pageviews. |
|
|