จิตสงบพบความสุข - พระเทพคุณาภรณ์
ธรรมะวันหยุด พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร / www.watdevaraj.com
มนุษย์ทุกคน ในเวลาได้ประสบกับอารมณ์ที่น่าปรารถนา ได้แก่ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ไม่เห่อเหิมทะเยอทะยาน รู้จักสงบใจ ครั้นได้ประสบกับอารมณ์ที่ไม่น่าปรารถนา ได้แก่ ความเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ รู้จักมีสติ อดกลั้น ไม่เสียใจ คร่ำครวญ ซึ่งการทำจิตให้อาจหาญต่อสู้กับอารมณ์ที่ไม่น่าปรารถนานั้น
เมื่อยังตกอยู่ในอำนาจกิเลสตัณหา ล้วนยังปรารถนาอยากได้ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ทั้งนั้น ส่วนความเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์นั้น ไม่มีใครปรารถนา
สิ่งเหล่านี้ไม่อาจสำเร็จได้ เพราะความปรารถนาและการอ้อนวอนแต่เพียงอย่างเดียว ต้องเกี่ยวกับการประกอบกิจโดยอุบายที่ชอบ จึงจะได้สมความปรารถนา
ลาภนั้น คือ การได้สิ่งของ เงินทอง สมบัติต่างๆ มีทางให้เกิดได้ 2 สถาน คือ อาศัยบุญเก่าที่เรียกว่า ความเป็นผู้มี บุญที่ตนได้ทำไว้ก่อน และอาศัยความ ขยันหมั่นเพียร
ในทางธรรม การสรรเสริญผู้มีศรัทธาและศีล ว่าเป็นผู้เพียบพร้อมด้วยลาภสักการะ มีพระพุทธภาษิตว่า "ผู้มีศรัทธาถึงพร้อมแล้วด้วยศีล เอิบอิ่มแล้วด้วยยศและโภคะ จะไปประเทศใดๆ เป็นผู้อันเขาบูชาแล้วในประเทศนั้นๆ"
ยศ คือ ความได้รับตั้งให้เป็นใหญ่ เป็นคนมีชื่อเสียง เป็นผู้มีบริวารมาก ย่อมเกิดจากศีลธรรมตามพระพุทธภาษิตว่า "บัณฑิต ผู้สมบูรณ์ด้วยศีล เป็นคนละเอียด มีปฏิภาณ มีการประพฤติอ่อนน้อม และไม่เป็นคนกระด้าง เช่นนั้นแหละ ย่อมได้ยศ"
ความสรรเสริญ เกียรติยศชื่อเสียง ล้วนเกิดจากเหตุที่มีจริงบ้าง ไม่มีจริงบ้าง คนพาลเมื่อได้รับอุปการะจากท่านผู้ใด แม้ผู้นั้นจักไม่มีคุณความดีอยู่ในตัวเลย จึงกล่าวยกย่องสรรเสริญได้
ส่วนบัณฑิตพิจารณาเห็นคุณความดีแล้ว จึงสรรเสริญตามที่เป็นจริง พิจารณาเห็นอุบายเหล่านี้ว่า เป็นกิจชอบและประกอบตามกำลัง เหตุนั้นจึงบรรลุถึงความเป็นผู้ใหญ่ และเป็นผู้อันชนทั้งหลายนิยมสรรเสริญ แต่ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เป็นของไม่เที่ยง เมื่อได้มาสมความปรารถนาแล้ว แทนที่จะดำรงอยู่ได้นาน กลับมีอาการเสื่อมได้
เพราะฉะนั้น ผู้ปฏิบัติจึงไม่ควรประมาทในโลกธรรม คือ ระวังอย่าให้กำหนัดในอารมณ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด ระวังใจอย่าให้ขัดเคืองในอารมณ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความขัดเคือง ระวังใจอย่าให้มัวเมา ในอารมณ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความมัวเมา
ผู้มีปัญญาพิจารณาเห็นตามความเป็นจริงว่าโลกธรรม 8 ประการนี้ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดาอย่างนี้แล้ว โลกธรรมจะไม่ครอบงำจิตให้แปรผันไปต่างๆ ได้คือ ย่อมไม่มีความยินดีในลาภ ยศ สรรเสริญ สุข อันเกิดขึ้นแล้ว และย่อมไม่ถึงความยินร้ายในความเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์อันเกิดขึ้นแล้ว
เมื่อละความยินดียินร้ายได้อย่างนี้แล้ว ย่อมพ้นไปจากทุกข์ทั้งปวง
หน้า 23
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ ธรรมะวันหยุด กราบนมัสการขอบพระคุณ พระเทพคุณาภรณ์ สิริสวัสดิ์โสรวารค่ะ
Create Date : 17 พฤษภาคม 2557 |
Last Update : 17 พฤษภาคม 2557 10:56:53 น. |
|
0 comments
|
Counter : 624 Pageviews. |
|
|