เวลา - พระเทพคุณาภรณ์
ธรรมะวันหยุด พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร www.watdevaraj.com
เรื่องเวลา ดูแล้วเป็นเรื่องธรรมดาสามัญก็จริง แต่เวลานั้นเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตของทุกๆ คน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงยกเอาเวลาที่มีอยู่โดยธรรมชาติมาตรัสสอนให้ระลึกถึงเวลาที่ล่วงไปๆ และให้น้อมเข้ามาในชีวิตของตนเพื่อจะได้ตั้งตนให้อยู่ในความไม่ประมาท
"เวลา ย่อมกินสรรพสัตว์พร้อมทั้งตัวมันเอง" หมายความว่า ความเป็นไปแห่งชีวิตของบุคคลเนื่องด้วยเวลา เพราะเวลาเป็นเครื่องกำหนดความสิ้นไปแห่งอายุ ย่อมบั่นทอนอายุหรือชีวิตของสัตว์โลกให้หมดไป เปลืองไป สิ้นไปโดยลำดับ และตัวเวลาเองก็หมดไปด้วย
ตามปกติของสัตว์โลกนั้น มักมีความประมาทมัวเมาในสิ่งต่างๆ เช่น ประมาทมัวเมาในร่างกาย ในชีวิต ในทรัพย์สมบัติ ในยศถาบรรดาศักดิ์ แต่เมื่อบุคคลพิจารณาว่า ไม่ใช่เพียงเวลาเท่านั้นที่ผ่านไปอย่างเดียว แต่กลับพาเอาอายุและชีวิตของสัตว์ไปด้วย
เห็นได้ชัดว่า สิ่งที่เรายึดมั่นถือมั่นว่าเป็นของเที่ยงแท้แน่นอน ยั่งยืน กลับถูกเวลาชักพาให้หมดไป เมื่อรู้ได้อย่างนี้ ก็จะก่อให้เกิดความไม่ประมาทมัวเมาในร่างกาย ในชีวิต ในทรัพย์สมบัติ และในยศถาบรรดาศักดิ์ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นของมีอยู่ชั่วคราว เป็นไปตามเหตุตามปัจจัยทั้งสิ้น ไม่มีผู้ใดจะบังคับบัญชาให้อยู่ในอำนาจของตนตลอดไป
ชีวิตคนเรานั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าไม่มีแก่นสาร ชีวิตย่อมล่วงไปตามเวลาที่ผ่านมา ไม่มีทางหมุนกลับ หรือถอยหลังกลับมาได้ มีแต่จะรุดหน้าไปฝ่ายเดียว เปรียบเสมือนน้ำที่ไหลลงจากยอดภูเขา มีแต่จะไหลลงสู่ที่ราบลุ่ม ไม่มีทางที่จะไหลกลับได้ ฉะนั้น
เวลาเมื่อหมดไปแล้ว ก็เหลือสิ่งที่เป็นประโยชน์หรือเป็นโทษ ซึ่งจะให้ผลเป็นสุขหรือเป็นทุกข์แก่ผู้นั้นตลอดไป เมื่อรู้ได้อย่างนี้ ควรพยายามสร้างคุณงามความดีในทางโลก เช่น ประกอบอาชีพด้วยความขยัน ซื่อสัตย์สุจริต และสร้างคุณงามความดีทางธรรม เช่น ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ให้เป็นประโยชน์แก่ชีวิต
เวลา เป็นสิ่งที่ไม่มีได้ ไม่มีเสีย คงเป็นและคงอยู่อย่างนั้น แต่ความเป็นไปแห่งชีวิตของคนเรามีความได้ความเสียปรากฏอยู่
เพราะฉะนั้น จึงควรจัดสรรชีวิตของตนให้อยู่ในความได้หรือในฝ่ายดีอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ควรปล่อยชีวิตให้อยู่ในความเสียหรือฝ่ายชั่ว เพราะชีวิตนี้ถ้าปล่อยให้ล่วงผ่านเวลาไปเปล่าๆ ก็เป็นทางเสียประโยชน์ที่จะพึงมีพึงได้
คุณงามความดีทั้งหลาย เปรียบเทียบกับดอกไม้ต่างสี ต่างสัณฐานกัน ถ้าท่านผู้ใดเป็นคนฉลาดก็สามารถที่จะเก็บหรือประพฤติปฏิบัติความดีได้ตามอัธยาศัยของตน ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อประพฤติปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบด้วยกาย วาจา ใจ ท่านผู้นั้นจะทำให้ชีวิตเป็นชีวิตที่ประเสริฐ เมื่อลาลับจากโลกนี้ไปแล้ว คุณงามความดีทั้งหลายที่สั่งสมมาก็ยังคงปรากฏอยู่ในโลก
เวลาที่ล่วงเลยไปด้วยการทำแต่คุณงามความดี ก็จะเป็นเวลาที่ล่วงผ่านไปอย่างมีประโยชน์ มีคุณค่า
หน้า 23
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ ธรรมะวันหยุด กราบนมัสการขอบพระคุณ พระเทพคุณาภรณ์ สิริสวัสดิ์โสรวารค่ะ
Create Date : 07 มิถุนายน 2557 |
Last Update : 7 มิถุนายน 2557 9:29:04 น. |
|
0 comments
|
Counter : 530 Pageviews. |
|
|