ไม่ประมาท - พระเทพคุณาภรณ์
คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร www.watdevaraj.com
ผู้มีปัญญาดีพึงกระทำที่พึ่ง ซึ่งน้ำจะท่วมไม่ถึง ด้วยความขยันหมั่นเพียร ความไม่ประมาท การสำรวม และการฝึกตน
พระพุทธพจน์นี้ ทรงชี้แนะให้คนฉลาด สร้างที่พึ่งซึ่งห้วงน้ำจะไม่สามารถท่วมถึงได้ ด้วยธรรม 4 ประการ คือ ความขยันหมั่นเพียร ไม่ประมาท สำรวม และฝึกตน ห้วงน้ำคือกิเลส ที่เรียกว่า โอฆะ ได้แก่ ห้วงน้ำคือกาม ห้วงน้ำคือภพ ห้วงน้ำคือทิฏฐิ และห้วงน้ำคืออวิชชา
ห้วงน้ำคือกาม ภพ ทิฏฐิ และอวิชชา
ทั้ง 4 ประการนี้ เป็นสภาวะดุจกระแสน้ำหลากท่วมทับอยู่ในจิตใจ เป็นกิเลสดุจกระแสน้ำ พาผู้คนให้ตกไป ให้พินาศจมลง ทำให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสังสารวัฏ ต้องประสบกับทุกข์อยู่ร่ำไป ผู้มีปัญญาดีจึงควรกระทำที่พึ่งคือเกาะที่น้ำไม่สามารถจะท่วมถึงได้ ด้วยธรรม 4 ประการดังกล่าวมา
บรรดาธรรมทั้ง 4 ประการ ความไม่ประมาท จัดว่า เป็นธรรมสำคัญที่สุด เพราะเป็นเหตุกระตุ้นเตือนให้บุคคลได้ปรารภความเพียร มีความสำรวมระวัง และฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อคราวเสด็จดับขันธปรินิพพาน มีพระหฤทัยประกอบไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณ อาศัยความเอ็นดูอนุเคราะห์แก่เหล่าบรรดาสาวก ได้ยกเอาปัจฉิมโอวาทมาตรัสเตือนพระภิกษุสงฆ์สาวกทั้งหลาย ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ เราขอเตือนท่านทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวงอันเป็นประโยชน์ตน และประโยชน์ผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด
พระปัจฉิมพุทธโอวาทนี้ ทรงชี้แนะให้บรรดาพุทธบริษัท ได้ทราบถึงสภาพความ เป็นธรรมดาของสังขารทั้งหลายว่า มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นสังขารที่มีวิญญาณครอง อันได้แก่ สัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิต ที่จะต้องมีความเกิด ความแก่ ความเจ็บ และความตายในที่สุด ด้วยกันทั้งสิ้น จะดิ้นรนหลีกพ้นไปไม่ได้ หรือแม้แต่สังขารที่ไม่มีวิญญาณครอง อันได้แก่ บ้านเรือน รถ ต้นไม้ ก็จะต้องแตกสลายทำลายไป ไม่คงอยู่ในสภาพนั้นนิรันดร
มนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย ไม่อาจคงอยู่เป็นอมตะได้ จะต้องล่วงลับดับสลายไปด้วยกันทั้งหมด
ดังนั้น ความไม่ประมาท จึงจัดว่าเป็นธรรมอันสำคัญที่สุด บรรดาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหมด ล้วนแต่รวมลงอยู่ในความไม่ประมาททั้งสิ้น ประดุจรอยเท้าของสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ ย่อมรวมลงที่รอยเท้าช้าง
บุคคลผู้ประกอบคุณงามความดีทั้งหลาย อาศัยความไม่ประมาทจึงได้ประพฤติปฏิบัติธรรม สร้างคุณงามความดี ผู้ที่ประมาทย่อมไม่อาจที่จะปฏิบัติธรรม บำเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญภาวนาและบำเพ็ญกองการกุศลต่างๆ ได้ ย่อมจะปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปโดยเปล่าประโยชน์ คนผู้ประมาทแม้จะชีวิตอยู่ถึง 100 ปี ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะไม่ได้สร้างสมความดีไว้ ชีวิตของคนผู้ประมาทจึงสูญเปล่า เปรียบเสมือนคนที่ตายแล้ว เพราะตายจากคุณความดี
เมื่อทราบความเป็นจริงว่า สิ่งมีชีวิตทั้งหลายมีความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดา การมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ เป็นเสมือนการแหวกว่ายอยู่ในมหาสาครห้วงน้ำใหญ่ คือโอฆะสงสาร
การที่จะมีชีวิตอยู่รอดจากการจมน้ำตายได้นั้น ผู้มีปัญญาดีฉลาดรอบรู้ จึงต้องสร้างที่พึ่งคือเกาะที่อาศัยให้แก่ตน ด้วยความขยันหมั่นเพียร ด้วยความไม่ประมาท ด้วยความสำรวมระวัง และด้วยการฝึกฝนอบรมตน
หน้า 23
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ กราบนมัสการขอบพระคุณ พระเทพคุณาภรณ์
อาทิตยวารสิริสวัสดิ์ค่ะ
Create Date : 28 กันยายน 2557 |
Last Update : 28 กันยายน 2557 13:57:56 น. |
|
0 comments
|
Counter : 537 Pageviews. |
|
|