ความสุข - พระเทพคุณาภรณ์
ธรรมะวันหยุด พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร www.watdevaraj.com
ความสุข เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา และพากันแสวงหาด้วยวิธีการต่างๆ ตามแต่ระดับสติและปัญญาที่จะอำนวยให้ได้ แต่ถ้าระดับสติและปัญญาอ่อนลงมากเท่าไร การแสวงหาความสุขนั้น ก็ย่อมจะพาเอาความทุกข์ พ่วงเข้ามาด้วยมากเข้าเท่านั้น
บางคนไปหลงเสพความทุกข์ แต่เข้าใจว่าเป็นความสุข เช่น การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ โดยหลงไปว่า สิ่งเหล่านั้นเป็นสุข กว่าจะรู้ตัวก็เกิดโรคร้ายแรงเสียแล้ว ชีวิตทั้งชีวิตก็มาดับสลายลง กับสิ่งที่ไร้สาระ อย่างน่าเวทนายิ่งนัก
ในทางพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าสอนเรื่องของความสุขไว้ 4 ประการ คือ
ประการแรก สุขเกิดจากการมีทรัพย์ มีความภูมิใจ สุขใจที่ตนมีโภคทรัพย์ เพราะทรัพย์เป็นเหตุให้ปลื้มใจ คือความสมบูรณ์ ในปัจจัย 4 คนมีทรัพย์ย่อมได้รับความสุข แต่ต้องรู้จักการใช้สอยทรัพย์สมบัตินั้น กล่าวคือการใช้จ่ายในทรัพย์สินเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์ ถ้าไม่รู้จักใช้จ่ายทรัพย์ให้เป็นประโยชน์ ก็หาความสุขมิได้ มีแต่ความเดือดร้อน กังวลใจในการรักษาทรัพย์สมบัติ
ประการที่ 2 สุขเกิดจากการใช้จ่ายทรัพย์บริโภค มีทรัพย์แล้วไม่จับจ่ายใช้สอยในสิ่งที่ควรใช้สอยก็ไม่มีความสุข การใช้จ่ายทรัพย์ จึงจัดว่าเป็นความสุขชนิดหนึ่งของคน ผู้ที่ไม่มีปัญญา ย่อมใช้สอยทรัพย์โดยไม่คำนึงถึงความหมดเปลือง ไม่รู้จักประมาณในการใช้จ่ายทรัพย์สมบัติ ทรัพย์สมบัติก็มีแต่อันจะต้องสิ้นไปหมดไป
ส่วนผู้มีปัญญาย่อมใช้จ่ายทรัพย์ให้เป็นประโยชน์ รู้จักประมาณในการใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์ ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่สุรุ่ยสุร่าย ให้พอเหมาะกับรายได้กับที่ตนได้รับ และให้เหลือพอที่จะอดออม เป็นทุนสะสมสำหรับชีวิตครอบครัว
ประการที่ 3 สุขเกิดจากการไม่ต้องเป็นหนี้ หนี้คือสิ่งที่ตกค้างจะต้องชำระเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง และทำให้เกิดความทุกข์ คน มีหนี้จะเกิดอาการหวาดผวา นอนไม่หลับ ฟุ้งซ่าน จิตใจไม่สงบ คนมีหนี้สิน มากๆ สังคมจะขาดความเชื่อถือ ไม่เป็นที่ยอมรับ ยิ่งไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามสัญญาหรือตามที่กฎหมายกำหนด ก็จะกลายเป็นคนล้มละลาย เพราะฉะนั้น ถึงแม้ว่าจะยากจนก็ตาม แต่การไม่มีหนี้สินใคร จัดว่าเป็นความสุขใจอย่างหนึ่ง
ประการที่ 4 สุขเกิดจากการทำงานที่ปราศจากโทษ การประกอบการงาน ที่ผิดกฎหมายและศีลธรรม แม้ว่าจะมีทรัพย์สินเงินทองมาก ก็ไม่มีความภูมิใจในทรัพย์สินเหล่านั้น และหาความสุขใจอย่างแท้จริงไม่ได้ ผู้ที่ทำงานปราศจากโทษย่อมจะมีความสุข เพราะเป็นงานที่สุจริต ไม่ผิดต่อกฎหมายและศีลธรรม ไม่เป็นที่เดือดร้อนแก่ใครๆ คนที่ทำงานที่ปราศจากโทษนั้น ย่อมได้รับความสุข เพราะไม่ต้องหวาดผวา
ความสุขจะเกิดมีขึ้นได้ ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจกัน อย่าเอารัดเอาเปรียบเบียดเบียนกันและกัน ให้คำนึงถึงส่วนรวมคือประเทศชาติเป็นสำคัญ เพื่อช่วยกันสร้างประเทศชาติบ้านเมือง ให้เจริญรุ่งเรือง เพราะเมื่อประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองแล้ว
เราก็มีความสุขโดยถ้วนหน้า
หน้า 23
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ กราบนมัสการขอบพระคุณ พระเทพคุณาภรณ์
สิริสวัสดิ์โสรวารค่ะ
Create Date : 04 ตุลาคม 2557 |
|
0 comments |
Last Update : 4 ตุลาคม 2557 10:35:25 น. |
Counter : 444 Pageviews. |
|
|
|