|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
3 มิถุนายน 2563
|
|
|
|
เจดีย์ล้านนาตอน 3 ... เจดีย์ทรงระฆังกลม
อาณาจักรหริภุญไชย นับถือศาสนาพุทธในวัฒนธรรมทวารวดี
เมื่อก้าวสู่อาณาจักรล้านนา จากพญาเม็งราย >>> พญากือนา
พระสงฆ์อาจมีความหย่อนยาน การสอนรุ่นต่อรุ่นอาจดูแล้วไม่น่าเชื่อถือ
พญากือนาได้ยินกิตติศัพท์ของนิการเถรวาทของลังกาว่าน่านับถือเคร่งครัดในพระธรรมวินัย
จึงได้ส่งทูตไปนิมนต์ พระมหาเถระอุทุมพรบุปผามหาสามี ที่เมืองพัน หรือเมาะตะมะให้มาเชียงใหม่
เพราะพระมหาเถระอุทุมพรบุปผามหาสามี เคยไปศึกษาและบวชในคณะสงฆ์มหาวิหารวาสิน ที่ลังกา
เมื่อกลับมาเมืองพันก็ได้ตั้งสำนักสงฆ์ขึ้นในปี พ.ศ. 1874
แต่พระมหาเถระอุทุมพรบุปผามหาสามี อายุมากแล้ว
และเคยมีลูกศิษย์เป็นพระชาวสุโขทัย คือพระสุมนะเถระที่ได้รับมอบหมายให้บวชพระในนิกายลังกาวงศ์ได้
พ.ศ. 1912 พญากือนาจึงได้นิมนต์พระสุมนะจากสุโขทัยมาจำพรรษาวัดพระยืน หริภุญไชย
พระสุมนะสร้างพระพุทธรูปจากที่มี 1 องค์เป็นพระยืน 4 องค์
ได้บวชพระในหริภุญไชยเดิม และในเวียงกุมกาม ในนิกายเดิม ให้เป็นเถรวาทลังกาวงศ์
เมื่อ พ.ศ.2447 สถูปของพระสุมนะเถระพังทลายลง เหลือองค์พระยืนทางตะวันออก
พระคันธวงศ์เถระหรือครูบาวงศ์ พร้อมด้วยเจ้าหลวงอินทยงยศ เจ้าผู้ครองนครลำพูน
ได้ก่อเจดีย์หุ้มพระปฏิมากรทั้ง 4 องค์เดิมไว้ภายใน
และได้สร้างก่อสร้างพระพุทธรูปขึ้นใหม่อีก 4 องค์
... เจดีย์วัดพระยืนจึงเป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นใหม่ทรงปราสาทยอดเจดีย์ที่เห็นในปัจจุบัน ...
พระสุมนะเถระได้มาประดิษฐานพุทธศาสนานิกายลังกาวงศ์ที่สวนดอกพยอมของพญากือนา
ชื่อว่าเวียงสวนดอกมีวัดสวนดอกเป็นศูนย์กลาง
พระธาตุที่นำมาด้วยได้ ประดิษฐานที่วัดสวนดอก และวัดพระธาตุดอยสุเทพ
เกิดเป็นนิกายวัดสวนดอก หรือ รามัญวงศ์ โดยรับ เถรวาทแบบลังกา ผ่านทางพุกาม สุโขทัย ถึงเชียงใหม่
จะขอทบทวนเรื่องสถูปเจดีย์ก่อนคือ
- ทรงระฆังกลม -
พัฒนามาจากสถูป ซึ่งแปลว่าการพอกพูน
มาจากการฝังศพชนเผ่าอารยัน จะเอาศพฝังดิน แล้วพูนดินขึ้นเป็นสถูป
ในพุทธศาสนา
จะฝังพระบรมสารีริกธาตุลงใต้ดิน
ดินที่พูนขึ้นมาเป็นรูปไข่ - อัณฑะ แปลว่าไข่ คนไทยเรียก ระฆัง
มีร่มกางให้ด้านบน - ฉัตรวลี คนไทยเรียก ปล้องไฉน เพราะเป็นปล้องเหมือนปี่ไฉน
บัลลังก์วางไว้เหนือดินที่พูนแสดงถึงเจ้าที่สูงส่ง - หรรมิกา คนไทยเรียก บัลลังก์
ฐาน - เพื่อยกให้เจดีย์สูงขั้น
นั่นคือ เจดีย์ประกอบด้วย ฐาน 1 - ระฆัง 2 - บัลลังก์ 3 - ฉัตรวลี (ปล้องไฉน) 4
วัดสวดดอก อำเภอเมือง เชียงใหม่
เป็นเจดีย์ทรงกลม หรือ ทรงระฆัง
ฐานเขียงสี่เหลี่ยมสองชั้น ยกสูง มีซุ้มโขงเข้าสู่ลานประทักษิณ
- ฐานสูง ไม่นิยมในลังกา แต่ในไทยอาจยกสูงขึ้นเพราะบรรจุพระธาตุก็เป็นได้ - เดิมเคยมีช้างล้อม เป็นคติอิทธิพลลังกาว่ามีช้างแบกจักรวาล
ตรีมาลา - หรือมาลัยสามชั้นอิทธิพลลังกา เป็นบัวถลาซ้อนกัน 3 ชั้น
- ถ้าเป็นบัวกลมซ้อนกันสามชั้นเรียกมาลัยเถา นิยมในอยุธยา - เจดีย์วัดสวนดอกเป็น บัวคว่ำหรือบัวถลา ซ้อนกันสามชั้น นิยมในล้านนาและสุโขทัย
องค์ระฆัง เป็นระฆังคว่ำ ของลังกาจะไม่ตั้งตรง
บัลลังก์ สี่เหลี่ยมแบบลังกา
ก้านฉัตร ปล้องไฉน ปลี
ก้านฉัตร ไม่มีเสาหาน ... ล้านนาและสุโขทัยไม่มีเสาหาน ส่วนอยุธยามีเสาหาน
โดยรอบมีรูปพระน่าจะปางลีลาเนาะ
จากพญากือนา >> พญาแสนเมืองมา >> พญาสามฝั่งแกน
ในสมัยพญาสามฝั่งแกนมีพระธัมมคัมภีร์และพระมหาเมธังกรได้นำคณะสงฆ์ไปบวชที่ลังกา
เมื่อกลับมาได้บวชพระที่อยุธยาและสุโขทัยจำนวนมาก
เมื่อกลับมาถึงเชียงใหม่ได้สถาปนาคณะสิหฬขึ้นที่วัดป่าแดง > นิกายวัดป่าแดง
นิกายวัดป่าแดงเกิดการทะเลาะวิวาทกับคณะวัดสวนดอกถึงขั้นตีกัน พญาสามฝั่งแกนจึงเนรเทศให้ออกจากเชียงใหม่
คณะสงฆ์วัดป่าแดงจึงได้กระจายออกไป และสร้างวัดป่าแดงไว้ในที่ต่าง ๆ แม้กระทั่งเชียงตุง
ครั้งถึงสมัยพระเจ้าติโลก
ได้กลับมาสถาปนาคณะวัดป่าแดงอีกครั้ง
ได้ถวายพระเพลิงพระราชชนก - พญาสามฝั่งแกน และพระราชชนนี
แล้วสร้างพระอุโบสถขึ้น ณ ที่ถวายพระเพลิง ที่วัดป่าแดง
วัดป่าแดงมหาวิหาร อำเภอเมือง เชียงใหม่
เจดีย์นี้ไม่ใช้เจดีย์หลักของวัดป่าแดง ปัจจุบันตั้งอยู่กลางชุมชนเบียดเสียดเจดีย์อยู่
และห่างจากอุโบสถที่เป็นที่ถวายพระเพลิงพระราชชนกและพระราชชนนีของพระเจ้าติโลกพอสมควร
เจดีย์มีฐานเขียงสามชั้นสูง ซึ่งสูงกว่าองค์ระฆัง
ฐานเขียงถัดมาเป็นฐานเขียงที่เคยมีช้างล้อมแบบลังกา - ช้างแบกจักรวาล
ฐานเขียงบนสุดประดิษฐานซุ้มพระด้านละ 5 ซุ้ม
ถัดไปเป็นฐานเขียงกลม 3 ชั้นเรียกว่า บัวลูกแก้ว
ถัดไปเป็นตรีมาลาแบบบัวคว่ำ เรียกว่า บัวถลา
องค์ระฆัง บัลลังก์ ปล้องไฉน
เข้าใจว่ารูปทรงน่าจะคล้ายเจดีย์ช้างล้อม ที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
วัดอุโมงค์ อำเภอเมือง เชียงใหม่
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อำเภอเมือง เชียงใหม่
Create Date : 03 มิถุนายน 2563 |
Last Update : 3 มิถุนายน 2563 21:04:00 น. |
|
15 comments
|
Counter : 2081 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณหอมกร, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณSweet_pills, คุณnewyorknurse, คุณKavanich96, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกะว่าก๋า, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณnonnoiGiwGiw, คุณอาจารย์สุวิมล |
โดย: หอมกร วันที่: 3 มิถุนายน 2563 เวลา:20:36:29 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 3 มิถุนายน 2563 เวลา:20:39:33 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 4 มิถุนายน 2563 เวลา:0:15:31 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 4 มิถุนายน 2563 เวลา:2:30:31 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 มิถุนายน 2563 เวลา:16:06:27 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 มิถุนายน 2563 เวลา:7:35:56 น. |
|
|
|
โดย: sunny-low วันที่: 5 มิถุนายน 2563 เวลา:9:31:28 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 5 มิถุนายน 2563 เวลา:15:04:58 น. |
|
|
|
| |
|
|
tuk-tuk@korat |
|
|
|
|
|