ถ้ารัฐบาลมีวิสัยทัศน์ส่งเสริมเกษตรกรปลูก ไม้พะยูง-ชิงชัน ส่งขายตลาดจีนนั้น มูลค่าไม้พะยูง จำนวน35ต้นต่อไร่   จะมีมูลค่าสูงกว่าการทำสวนผลไม้ สวนลำใย สวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน อย่างแน่นอนและไม่มีปัญหาด้านราคาตกต่ำให้รํฐบาลต้องใช้งบประมาณอุดหนุน ดังข่าวต่อไปนี้

จีนเบอร์ 1 ศูนย์กลางไม้เถื่อนโลก

นสพ.เดลินิวส์ วันที่2 ธค.2555 รายงานว่า องค์การตำรวจสากลประเมินว่า ทั่วโลกมีการค้าไม้ผิดกฎหมายปีละกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 930,000 ล้านบาท) อีไอเอระบุว่า จีนเป็นผู้นำเข้าไม้ผิดกฎหมายอันดับ 1 ของโลกปีละ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 124,000 ล้านบาท) สาเหตุเกิดจากเศรษฐีใหม่ในจีนกระหายสร้างบ้านเรือนและเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงทำจากไม้ ซึ่งส่วนใหญ่ลอบนำเข้าจากไทย กัมพูชา ลาว พม่า ปาปัวนิวกินี มาดากัสการ์ และไกลถึงแอฟริกา ขณะที่พื้นที่ป่าไม้ในจีนกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทางการมีกฎหมายคุ้มครองป่าที่เข้มงวดมากและมีโครงการปลูกป่า ดังนั้น จึงถือเป็นโอกาสที่จีนจะดำเนินการกับการลอบนำเข้าไม้อย่างจริงจัง

นอกจากนี้ ความต้องการไม้พะยูงในจีนกำลังเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากชาวจีนนิยมนำไม้พะยูงไปทำเฟอร์นิเจอร์ และราคาของมันก็พุ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 25 ทำให้เกิดบรรยากาศของการคอร์รัปชั่น และความขัดแย้งในประเทศผู้ผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไทย ซึ่งถือเป็นแหล่งไม้พะยูงที่สำคัญแห่งหนึ่ง สกัดการส่งออกไม้พะยูงเถื่อนจำนวนมหาศาล 3,000 ท่อน มูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว  93,000 ล้านบาท) ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานว่า พ่อค้าชาวจีนกำลังร่วมมือกับขบวนการ “มอดไม้” ชาวเวียดนาม ลักลอบตัดไม้ผิดกฎหมายกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน

//www.dailynews.co.th/article/84/170016