ไม้สัก เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ ขึ้นเป็นหมู่ในป่าเบญจพรรณทางภาคเหนือ และบางส่วนของภาคกลางและตะวันตก คือ ในท้องที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ สำพูน เชียงราย สำปาง แพร่ น่าน ตาก กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ และพิจิตรและมีบ้างเล็กน้อยในจังหวัด นครสวรรค์ อุทัยธานี และกาญจนบุรี
ไม้สัก ชอบขึ้นตามพื้นที่ที่เป็นภูเขา แต่ในพื้นที่ราบที่น้ำไม่ขังไม้สักก็ขึ้นได้ดีเช่นเดียวกัน ในพื้นที่ที่เป็นดินปนทรายแต่น้ำไม่ขัง ไม้สักมักขึ้นเป็นหมู่ไม้สักล้วน ๆ และมีไม้ขนาดใหญ่ ไม้สักชอบพื้นที่ที่มีชั้นดินลึก การระบายน้ำดี ไม่ชอบดินแข็งและน้ำท่วมขัง

ไม้สักปลูกด้วยระยะ 4x4 เมตร สวนป่าองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ไม่มีการใส่ปุ๋ย ดูแลวัชพืช 5 ปีแรก ป้องกันไฟป่าและปล่อยให้เทวดาเลี้ยงเป็นส่วนใหญ่ จะพบว่าอายุ13-21ปีมีแก่นมากพอ สามารถนำไปใช้สร้างบ้านและทำเฟอร์นิเจอร์ได้แล้ว

บ้านไม้สักจากป่าปลูกใช้ไม้สักอายุระหว่าง 15-20 ปี อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ถ้าเราซื้อไม้จากโรงเลื่อยมาสร้างบ้านหลังนี้น่าจะใช้เงินไม่น้อยกว่า 5 แสนบาท

ไม้สักอายุ8ปี ระยะปลูก 4x4 เมตร อ.ชนแดน สมควรได้เวลาตัดสางขยายระยะแล้ว เพราะมีความสูงได้ขนาดและเรือนยอดเบียดเสียดกันแล้ว สว่นใหญ่ผู้ลงทุนปลูกไม้สักจะไม่ค่อยกล้าตัดสางขยายระยะไม้ออกให้มีระยะห่างขึ้นเพราะเสียดายและเสียค่าใช้จ่ายมาก ในที่สุดไม้สักที่ปลูกก็เจริญเติบโตในอัตราที่ช้าลง รอบตัดฟันที่กำหนด16ปี ต้องเลื่อนไปเป็น 20ปี ถ้าปลูกไว้พันไร่เงินลงทุนที่รับช้าลง5ปี นั้นมีมูลค่ามหาศาล

ไม้สักอายุ 20 ปี ระยะห่างประมาณ 4x12 เมตร ปลูกสองข้างถนนทีเป็นดินลูกรังถมถนน ต.ท่าข้าม อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ปลูกโดยนักเรียน ปล่อยให้เทวดาเลี้ยงก็ยังโตทำเป็นไม้ก่อสร้างได้

ราคาไม้สักในตลาดโลกนั้นแพงพอๆกับราคาทองคำ

ไม้สักไทยนั้นเป็นที่ต้องการของตลาดโลกมากในการเป็นวัสดุชั้นดีในการทำเรือยอร์ช ราคาแพง แต่ทำไมรัฐบาลกลับหลงลืม ?

ไม้สักสวนป่าอายุ 30ปี จากสวนป่าเศรษฐกิจของรัฐบาล ทีมีการปลูกบำรุงรักษาแบบธรรมดา กรณีมีการจัดการแบบฟาร์มป่าไม้นั้น่าจะลดอายุตัดฟันเหลือแค่ 25 ปีเท่านั้น

เทคนิคการปลูกไม้สักในบริเวณรอบบ้านและแนวเขตสวน-ไร่นา ให้เป็นไม้ออมสินหรือพันธบัตรต้นไม้ระยะ20ปี

ไม้ไผ่เป็นไม้ที่ปลูกร่วมกับไม้สักได้ดี เพราะในธรรมชาติไม้สักกับป่าไผ่อยู่ร่วมกัน หน่อเป็นอาหารและจำหน่ายได้ เป็นพืชควบกับไม้สักสร้างรายได้เสริมสภาพคล่องตั้งแต่ปีที่สองเป็นต้นไป

ไผ่กิมซุงเป็นแต่เดิมเป็นพืชพื้นเมืองของประเทศจีน เป็นไผ่ที่โตเร็วดูแลง่ายพอ ๆ กับพืชจำพวกยูคาลิปตัส ปลูกเพียง 6-8 เดือนก็สามารถใช้ประโยชน์ได้ ไผ่กิมซุงเป็นไผ่กอใหญ่ หน่อมีขนาดใหญ่ ลำต้นอวบสูงถึง 25 เมตร ลำต้นมีสีเขียวเข้ม เติบโตได้กับทุกสภาพอากาศและดินทุกประเภท โตเร็วมา 6-8 เดือนก็สามารถเก็บหน่อไปขายได้แล้ว หน่อของไผ่กิมซุงมีรสชาติหวานกรอบอร่อย โดยส่วนมากนิยมเก็บหน่อขายมากกว่าทำประโยชน์อย่างอื่น หน่อที่เหมาะสมกับการเก็บขายต้องมีขนาดไม่เกิน 40 เซนติเมตร ไผ่กิมซุงนี้ไม่มีหนามและขนแข็ง ๆ จึงเก็บง่าย

กระถินเทพาจัดเป็นไม้บุกเบิกชนิดหนึ่ง ที่สามารถปรับตัวเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ซึ่งสภาพแวดล้อมถูกทำลาย ดังนั้นจึงมีการนำไปปลูกเป็นสวนป่าในหลายประเทศ เนื้อไม้นำมาใช้ก่อสร้างและเฟอรืนิเจอร์ได้ดี ปลูกร่วมกับไม้สักได้ เป็นพืชบำรุงดิน เนื่องจากมีเชื้อแบคทีเรียสกุลไรโซเบียมอาศัยอยู่ที่ปมราก ช่วยตรึงธาตุไนโตรเจนจากอากาศในดินมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่นเดียวกับพืชตระกูลถั่วอื่น ๆ หลายชนิด (ในป่าไม้สักธรรมชาติจะขึ้นร่วมกับไม้ตระกูลถั่วหลายชนิดอาทิเช่น ไม้ประดู ไม้แดง ไม้มะค่า ไม้พะยูง-ชิงชัน ฯล)

ปลูกไม้สักอย่าโลภคือปลูกต่อไร่ในจำนวนสูง ในหนึ่งไร่นั้นควรมีไม้สักอยู่ระหว่าง 25-35 ต้นต่อไร่ ควรให้มีระยะห่าง 8x8 เมตร แล้วปลูกกล้วย ไม้ไผ่ กระถินเทพา ร่วมด้วยเพื่อใช้ดินให้เกิดประสิทธิภาพในด้านรายได้ ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว

ปลูกไม้สักเพื่อความสุขและเอาไว้สร้างบ้านหลังละล้านจะไม่เครียด ถ้าปลูกไม้สักขายจะเครียดกับกฏหมายป่าไม้และพ่อค้าคนกลางที่กดราคาซื้อถูกๆเพื่อเอาไปขายต่อแพงๆ

พรบ.ป่าไม้ทีเป็นอุปสรรคในการปลูกและใช้ประโยชน์ไม้สัก ที่ยังไม่มีวีระบุรุษหรือเสือกลิ่นสักเข้ามาช่วยแก้ไขให้เกษตรกรมีอิสระเสรี ซื้อง่าย ขายคล่อง เหมือนยางพารา หรือ พืชอื่นๆ ได้แก่

พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ได้กำหนดสักเป็น ไม้หวงห้ามประเภท ก ไม่ว่าจะขึ้นที่ใด เมื่อจะทำการตัด ต้องมีการขออนุญาตและค่าภาคหลวง ซึ่งเมื่อรัฐบาลได้สนับสนุนและส่งเสริมให้ประชาชนปลูกสวนป่า จึงได้ออกกฎหมาย คือ พระราชบัญญัติสวนป่า พ.ศ.2535 เพื่อให้ผู้ปลูกสวนป่า สามารถตัดไม้สัก เพื่อความสะดวก และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพียงแต่มีระเบียบ และขั้นตอนในการปฏิบัติ โดยการขึ้นทะเบียนสวนป่าการแจ้งตัด การจัดทำบัญชีไม้ พระราชบัญญัติสวนป่า พ.ศ.2535 ประชาชนสามารถปลูกต้นสักในที่ของตนเองที่มีกรรมสิทธิ์ได้ สำหรับการตัดไม้สัก หรือการทำไม้ออก ผู้ปลูกต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติสวนป่า พ.ศ.2535 โดยการนำที่ดินที่ปลูกไม้สักไปขึ้นทะเบียนสวนป่า กรมป่าไม้จะออกหนังสือรับรองการเป็นสวนป่า และให้ผู้ปลูกจัดทำรายการบัญชีไม้ (สป.15) ไว้ควบคุมการตัดไม้และใช้สำหรับแสดงเมื่อนำไม้เคลื่อนท พระราชบัญญัติเลื่อยโซ่ยนต์ ประกาศมาใช้เพื่อป้องกัน และปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า โดยควบคุมการมีไว้ในครอบครอง และการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ภาคเอกชนสามารถมีครอบครองได้ โดยขออนุญาต และขึ้นทะเบียนเลื่อย-โซ่ยนต์ กับพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐในแต่ละจังหวัด ซึ่งต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนในการขออนุญาตระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสักกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปลูกสัก ได้แก่
1) พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484
2) พระราชบัญญัติสวนป่า พ.ศ.2535
3) พระราชบัญญัติเลื่อยโซ่ยนต์

อ่านเพิ่มเติม :ไม้สักทอง ไม้บำนาญเพื่อชีวิต //www.monmai.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87/