วันแม่พาแม่ไปเที่ยวไหน หรือไปกินข้าวเย็นกันที่ไหนบ้างเหรอครับ... พอดีแม่ผมไปเยี่ยมญาติที่ต่างประเทศเลยไม่ได้มีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมวันแม่พาไปไหน.. ก็เลยถือเป็นวันหยุดไปพักผ่อนตามประสาคนทำงานวันเสาร์.. ก็ดีครับ...
เมื่อวานตอนเย็นตามร้านอาหารจะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่พาครอบครัวและคุณแม่ไปรับประทานอาหารนอกบ้านกันอย่างเอิกเกริก.. โอ้วพระเจ้าจอร์จ..
มีอยู่แมทช์นึงผมก็พยายามจะพาคุณแม่สุดที่รักไปร่วมฉลองวันแม่เหมือนกัน กะจะพาไปกินอาหารทะเลแถวบางขุนเทียน.. แต่โอ้วแม่เจ้า... รถมันแสนจะติด ก็คิดว่าเหล่าลูกกตัญญูคงคิดแบบเดียวกันหมด ก็เลยติดอยู่ในซอยนั้นอยู่นานทีเดียว จนทนไม่ไหวเลี้ยวเข้าสวนอาหารอะไรซักอย่างแถวนั้นเพื่อประทังชีวิต.. และคิดว่า เอ แถวบ้านกูก็อร่อย สด บรรยากาศดี และถูกกว่านี้นี่หว่า.. หรือถ้าเป็นวันอื่นเราก็คงจะได้อาหารและบริการที่ดีกว่านี้แน่ๆ
พอเจอกับเรื่องราวแบบนี้ทำให้นึกถึงวันสำคัญๆ ต่างๆ ที่มีผลต่อสังคม.. จริงๆ จะว่าไปผมว่าวันต่างๆ เหล่านี้คงไม่ได้แสดงว่าเรารักหรือเคารพในชื่อวันนั้นๆ มากมายนักหรอกนะครับ..
จะว่าไปคนจะรักแม่คงไม่ได้จะมารักกันวันเดียวใช่ไม๊ละครับ... การพาแม่ไปกินข้าวนอกบ้านเราก็คงพาไปกินอยู่เสมอๆ อยู่แล้ว.. แต่ที่มันมีผลต่อจิตใจผมว่ามันคงจะเป็นเรื่องความกดดันทางสังคมมากกว่า
คือวันแม่เนี่ย.. ถึงแม้เราจะบอกว่ารักแม่แค่ไหน แต่ถ้าเราไม่แสดงออกให้สังคมได้รับรู้ แม่อาจจะรู้สึกน้อยใจ เพราะแม่เพื่อนข้างบ้านลูกเขาก็มาพาไปกินข้าว ป้าน้าสาวลูกเขาก็มาพาไปกินข้าว แล้วทำไมลูกเราถึงบอกว่า วันไหนก็เหมือนกันนะแม่ เราก็รักแม่เท่ากันทุกวัน ไม่ได้รักวันนี้เป็นพิเศษแล้ววันอื่นปล่อยแม่นั่งเหงาอยู่คนเดียว ไม่ใส่ใจดูแลแม่......
แต่ไอ้ความกดดันทางสังคมบ้านเรานี่มันแรงอยู่นะครับ.. ลองคิดดู วันลอยกระทงถ้าคุณไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อนร่วมงานคุณจะถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า "ไม่มีใครไปลอยกระทงด้วยหรือ" หวาย ไม่มีใครรัก.. ถึงแม้เราจะไม่ได้คิดว่าการลอยกระทงมันสำคัญต่อจิตใจเราขนาดนั้น แต่เราก็มักจะต้องออกไปร่วมรถติด ออกไปร่วมรับประทานอาหารในที่ๆ คนเยอะๆ บริการห่วยๆ ไปแออัดยัดเยียดโดยที่ไม่ได้สนใจหรอกว่า ลอยกระทงมันทำไปเพื่ออะไร ขอแค่มีของบางอย่างไปลอยน้ำในวันนั้น มันก็ทำให้เรารู้สึกภาคภูมิต่อสังคมมากขึ้นมาแล้ว
หรือจะวันวาเลนไทน์.. ถึงจะบอกแฟนว่า มันก็แค่วันธรรมดาวันนึง วันนี้คงไม่ได้ทำให้เรารักกันมากไปกว่าเดิม หรือ คนมันเยอะนะ ยังไงเราก็รักกันจะตายไปนี่น่า รถติด สารพัด แต่.... ความกดดันทางสังคมมันก็บีบบังคับให้เราต้องทำ... ต้องไปเบียดแย่งกันกิน ต้องพาแฟนไปกินอาหารดีๆ ต้องซื้อดอกไม้ เพราะเดี๋ยวเพื่อนแฟนเขาก็คงจะถามว่า ทำไมแฟนเธอถึงได้ใจร้าย ทำไมแฟนไม่รักเหรอ ทำไมไม่โรแมนซ์เลย หวายๆๆๆ........ทั้งๆ ที่วันวาเลนไทน์ก็คงไม่ได้ทำให้คนรักกันมากขึ้น หรือเราจะรักแฟนเราเฉพาะวันนั้นวันเดียวซะที่ไหน..
ดูๆ ไอ้ความกดดันทางสังคมมันทำให้เราทำอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่จำเป็นอยู่เหมือนกันนะครับ.. เช่น
- ถ้าเราจะแต่งงานเงียบๆ เบื่องานเว่อร์ฉายสไลด์มัลติวิชั่น ก็จะมีคนพูดว่า หวาย จน ไม่ยิ่งใหญ่..
- ถ้าไปเมืองนอกแล้วไม่ซื้อของเยอะแยะเกินเหตุ ก็จะถูกมองว่า หวายขี้เหนียว
- ทำงานแล้วไม่ซื้อรถขับก็ถูกมองว่า สงสัยจะแย่ จน กระจอก อ่อน คงลำบากแน่ๆ ไม่ขับรถ
- ไม่หาเรื่องผ่อนคอนโดฯ ก็ถูกมองว่า ไม่ทะเยอทะยาน ไร้อนาคต...
และด้วยตัวอย่างข้างต้นนี้ จึงทำให้เราซื้อของที่บางทีไม่จำเป็น หรือทำอะไรที่ไม่ได้ต้องทำก็อยู่ได้ บ่อยๆ ไป...
ก็บ่นไปเรื่อยเปื่อยละนะครับ... รู้ว่าคุณๆ ก็รักแม่อยู่แล้วละ.. ดอกมะลิก็คงมีให้อยู่แหงๆ... ใส่เสื้อฟ้าแน่ๆ เมื่อวาน .... แต่ก็หวังว่า ความกดดันทางสังคมคงไม่ได้มีผลต่อการปฏิบัติที่คุณมีต่อคนที่คุณรักเฉพาะวันสำคัญเหล่านี้นะครับ....
มีความสุขในวันหยุดนะครับ..
เห็นด้วยค่ะ รักกัน วันไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมารักวันนี้วันเดียวหรอก
หรือถ้าจะให้ดี รักกันทุกวันตลอดไปดีกว่า มารักวันนี้วันเดียวเนอะ
ในทางกลับกัน ... ถ้ารักแม่ทุกวันเลย เว้นวันนี้วันเดียวจะดีกว่ารีป่าว
พาแม่ไปกินข้าวไหน คงไปใกล้บ้าน เซ็นทรัลฯ ปิ่นฯ เนี่ยแหล่ะค่ะ
ปล. เด๋ว จากินเผื่อพี่บิ๊กเยอะ ๆ นะค่ะ สุขสันต์วันหยุดค่ะ