pass the love forward.... ส่งต่อ(พลังงาน)ความรัก
ค่ำวันเสาร์ ท้องฟ้าดูครึ้มๆ แต่ฝนก็ไม่ตก ยังไงก็คงดีกว่าร้อนระอุแหละนะ
ว่าจะพูดถึงความรู้สึกหรือพลังบางอย่างที่ถูกส่งผ่านออกไป จากคนหนึ่ง ถึงอีกคนหนึ่ง นั่นคือ
ความรักเคยรู้สึกถึงพลังบางอย่างไม๊ครับ ไม่ใช่พลังของอัศวินเจได (the force) หรือพลังของพวกจอมยุทธซุปเปอร์ไซย่าที่ต้องวัดด้วยเครื่องวัด.. พลังที่ว่านี้คือ
ความรักท่านผู้ชม
เอ๊า ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ผมว่ามันเป็นพลังงานอย่างนึงเลยนา.. มันสามารถส่งถึงกันได้ผ่านพลังจิต(คิดถึง)
เวลาเราไปชอบใครเขา เราก็มักจะนึกถึงคนๆ นั้นบ่อยๆ ไปยืนอยู่ในวิถีที่เขาเดินผ่าน ไปแอบยืนมองในตำแหน่งซุ่มยิง ไปหากิจกรรมทำร่วมกัน เช่นไปเรียนพิเศษด้วยกัน ไปดูหนังด้วยกัน หาเรื่องไปทำกิจกรรมของโรงเรียนด้วยกัน.. เป็นต้น
แล้วเวลาเราทำอย่างนั้นมากๆ พลังงาน(รัก) ก็มักจะเดินทางไปสู่ตัวของเขา/หล่อน ได้ไม่ยากเย็นนัก และหากเขา/หล่อน มีใจให้กลับ คราวนี้พลังนั้นมันก็จะสำแดงตัวและเริ่มมีผลต่อระบบขับถ่าย เอ๊ย ระบบความคิดอ่านของคนนั้นๆ และสุดท้ายก็อาจลงเอยด้วยความรัก
แต่ถ้าพลังงานที่ถูกส่งผ่านด้วยกระแสจิตนี้ มันเดินทางไปสู่จุดหมายและเป้าหมายนั้นมีระบบคลื่นหัวใจแตกต่างจากผู้ส่ง เป้าหมายอาจเริ่มรำคาญ และอาจเสนอทางออกให้กับผู้ส่งพลังงาน(รัก)นั้น ให้ไปไกลๆ เส้นทาง(ตีน)ของเป้าหมายนั้น
ลองนึกๆ กันดูหน่อยนะว่าเคยเป็นกันบ้างรึเปล่า
อย่างไรก็ดี พักหลังการปล่อยพลังนี้เริ่มในสื่อ (medium) ที่เปลี่ยนไป โดยเริ่มมีการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกเข้าช่วยกระจายพลังงาน(รัก)นี้ไปสู่เป้าหมาย(เหยื่อ)แทน เช่น สิบกว่าปีก่อนอาจเป็นโทรศัพท์บ้าน คุยกันกระจายเป็นชั่วโมงๆ กว่าพลังงานนั้นจะแทรกซึมเข้าสู่กระดูก
หลังจากนั้นเทคโนฯเริ่มพัฒนา ก็เริ่มมีการส่งเพจ ปี๊ปๆ "คิดถึงนะ" "รักจัง" แหวะ... และหลังๆ ก็เริ่มกระจายตัวสู่ระบบ online เริ่มมี you've got mail โอ๊ะโอ โดยผ่านเครือข่าย internet และการ chat กัน ซึ่งเป็นการปล่อยพลังงานแบบกระจายตัว อาจพลาดไปโดนเป้าหมายอื่นที่ไม่ใช่เป้าหมายหลักได้
ยิ่งเทคโนฯก้าวไกลมากเพียงใด การปล่อยความรักก็ยิ่งเร็วขึ้น แต่ระดับความทานทนของพลังที่เข้าฝังสู่เป้าหมาย(คนที่เล็งไว้) มักไม่ค่อยทน สู้วิธีการเก่าๆ ไม่ได้
พล่ามมาได้หลายบรรทัด ก็หวังว่าจะตรงกับความคิดของเพื่อนๆ บ้างนะครับ
ว่างๆ หาเรื่องมาโม้ใหม่
แรกๆมันก็ตรงอยู่หรอก
การchatนี่ บางครั้งก็ก็อาจเกิดความสยองได้นะ