ช่วงนี้ฝนตกแทบทุกวัน เช้าและเย็นเวลาเลิกงาน รถติด ฯลฯ ไปไหนอย่าลืมยืดอกพกร่มนะครับ
คนไทยรุ่นใหม่และรุ่นกลางเก่ากลางใหม่มักใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 เสมอ ก็อันเนื่องมาจากเรามีวิชาภาษาอังกฤษตั้งแต่อนุบาลจนถึงระดับปริญญาตรี ยิ่งบางที่การเข้าเรียนระดับปริญญาโทหรือเอกนั้นยังขอดูผลการสอบภาษาอังกฤษทั้ง IELTS หรือ TOEFL ทั้งๆ ที่ก็คนสอนก็คนไทยด้วยกันทั้งนั้น แต่เหมือนว่าผลสอบภาษาอังกฤษมันเป็นการการันตีอะไรบางอย่างสำหรับชาวไทยร่วมสมัย
พูดถึงเรื่องภาษาที่ 2 อย่างอังกฤษแล้วก็ได้เห็นมาตั้งแต่แบเบาะละนะครับ จริงๆ ก็ต้องถือว่าดีที่เราเรียนเป็นภาษาที่ 2 เพราะมันเป็นเหมือนเครื่องมือในการสื่อสารกับคนเกือบทั้งโลกและมีระดับความซับซ้อนน้อยกว่าภาษาจีน (ซึ่งอาจจะมีคนใช้มากกว่ารึเปล่า ไม่แน่ใจ)..
ตั้งแต่เด็กๆ ที่เราได้เรียนภาษาอังกฤษจากคุณครูที่โรงเรียนแบบสำเนียงไทย ซึ่งก็ไม่เป็นไรครับ ขอให้สร้างความเข้าใจหลักภาษาซะก่อนจะดีกว่า เพราะหลายล้านคนพอไม่ค่อยชอบมันก็จะลืมๆ มันไป ที่เห็นๆ ในชีวิตประจำวันเลยค่อยข้างสับสนว่ามันจะเอายังไงกับภาษาอังกฤษดี เช่นมาตรฐานของภาษาอังกฤษที่พวกเราใช้กันนี่ ควรจะมีมาตรฐานที่แน่นอนกว่านี้จะดีไม๊
เช่น เราก็เรียนกันตั้งแต่เด็กๆ แล้วละนะครับว่า
P ใช้แทน
พ, Ph ใช้แทน
ฟ แต่ไหง
พระโขนงดันเขียนเป็น Phrakanong (
ฟระโขนง) หรือ
วัดโพธิ์ ดันเขียนว่า Wat-Pho (วัด
โฟ) <--- วันก่อนดูในรายการ Amazing Race ชาวต่างชาติได้ภารกิจไปวัดโพธิ์ มันบอกกับแท๊กซี่ว่า Go to
วัดโฟหรือสถานีอ่อนนุช แต่อดีตกาลนานนมเราก็เคยเขียนว่า
On-Nuch แต่จู่ๆ วันนึงก็มีคนมาเขียนใหม่ว่า
On-Nut ทั้งๆ ที่แต่เด็กแต่เล็ก Nut ที่แปลว่าถั่วนั้นอ่านว่า
นัท (กลายเป็น ออน นัท บนถั่ว)
ซอย
แจ่มจันทร์ก็เขียนว่า
ChamChand ทั้งๆ ที่ตอนเด็กๆ คุณครูก็สอนว่า
Ch ให้อ่านว่า
ช นะจ๊ะเด็กๆ ถ้า
จ ให้ใช้ตัว
J ซึ่งก็น่าแปลกใจที่คนไทยไม่ใช้ตัว J
(JamJun) ง่ายๆ ซึ่งทำให้คำว่า เจริญใจ กับ เจริญชัย เขียนเป็นภาษาอังกฤษแบบคนไทยเขียนเหมือนกัน (ChareonChai) หรือพี่น้องว่าไงกันครับ
ภราดร ศรีชา
แฟน (Srichaphan) ฝรั่งมันก็งงครับ แต่ก็เอามาแปลงให้กับแฟนเทนนิสไทยในสนามว่าเป็น
ศรีชาแฟน Sricha-
fan ซะเลยให้มีความหมายเป็นแฟนของศรีชา ก็ฮากันไปอีกแบบ
จริงๆ ยังมีเรื่องการใช้ภาษาที่แปลกๆ อีกเช่นชื่อของสถานที่หรือนามสกุลซึ่งบางทีก็ใช้ภาษาสันสกฤตหรือภาษาบาลีมาเป็นตัวตั้งก่อนจะแปลงเป็นภาษาอังกฤษ เช่น
สุวรรณภูมิก็ดันเขียนว่า
Suwanabhumi หรือ
ศรีนครินทร์ พี่ท่านเขียนว่า
Srinakarindra (จะอ่านกันรู้เรื่องไม๊) เบียร์สิงห์ ฝรั่งเรียกว่า
เบียร์สิงหา เพราะมันเขียนว่า Singha Beer
นสพ.ไทยรัฐ คนไทยเราแปลเป็น
Thai-Rath (หนูไทย) ทำไมไม่เทียบกับคำว่า But (บัท) แล้วเอา
Rut เป็นรัฐ ก็ง่ายๆ
จริงๆ ต้องเลือกเอาละครับว่าเราจะเขียนภาษาอังกฤษให้ใครอ่าน.. จะเขียนให้ฝรั่งอเมริกัน หรืออังกฤษอ่าน หรือจะเขียนให้แขกที่เรียนภาษาโบราณเช่นสันสกฤตมาอ่าน.. ซึ่งด้วยความเข้าใจของผมเราจะคุ้นเคยกับอเมริกันชนมากว่า เพราะฉะนั้นเวลาเขียนทับศัพท์ก็เขียนให้มันเข้าใจง่ายๆ หน่อยนะครับ ส่วนภาษาอังกฤษก็ยึดเอารูปแบบอเมริกันมาใช้ให้หมดเลยดีไม๊ เพราะบางทีหลายๆ ครั้งจะเจอแบบสไตล์อังกฤษ เช่นคำว่า Centre (center) หรือ Colour (color) ที่เป็นแบบอังกฤษ... ตกลงแล้วแต่อารมณ์หรือไงนะครับ เดี๋ยวสไตล์อังกฤษ เดี๋ยวอเมริกัน หรือแล้วแต่ว่าคนเขียนจบจากประเทศไหน
นี่ยังไม่ได้พูดถึงพวกหลายคนที่ชอบพูดไทยคำ-อังกฤษคำ แต่พอให้พูดเต็มประโยคแม่งดันพูดไม่ได้ เคยเจอนะครับที่เพื่อนของเพื่อนคนนึงบอกว่า เจ้านาย(ทำร้านเพชร)บอกให้พูดแบบไทยปนอังกฤษเพราะมันดูมีภูมิความรู้.. โอ้วพระเจ้า มีคนคิดเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย
ประเทศซึ่งไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใคร (ตอนพม่าเผากรุงศรีเราไม่นับ) มีอีกหลายบริษัทในประเทศที่คนทำงานเป็นคนไทย ที่สื่อสารกันด้วยข้อความภาษาอังกฤษ แปลความคิดไทยเป็นอังกฤษ แล้วอ่านข้อความอังกฤษแล้วแปลเป็นความคิดแบบไทยๆ... เปลืองพลังงานหน่อย แต่ก็ได้รอยหยักในสมองเพิ่ม ก็ไม่เลวๆ
ยังไงก็ Enjoy และ Chill Out นะครับ No Worry เรื่องจิ๊บๆ Take Care และ Good Day
So long ไว้ว่างๆ จะ Write something เพื่อ Entertain หรือ Show ภูมิ หรือน่ารำคาญ บางทีก็ Boring ปนๆ กันไป mix up นะครับ friends..