สังคมเมืองสมัยนี้จะหาบรรยากาศแบบที่คนโบราณเขาว่ากันคงยากนะครับ ไอ้ที่ว่าคนไทยน้ำใจงาม ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีอะไรแบ่งปันกัน.. ในยุคที่อะไรเร่งรีบแบบนี้ เรื่องน้ำใจงามอะไรนี่เหมือนจะเป็นวิญญาณที่จับต้องไม่ได้เอาซะเลย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานคร...
เอาเรื่องแถวบ้านผมเป็นตัวอย่างก็แล้วกัน บรรยากาศบ้านทาวเฮ้าส์ที่มีผนังติดกัน จอดรถต่อแถวกัน ซอยก็แคบ ทำอะไรก็แสนลำบาก แต่การอยู่ร่วมกันในที่แบบนี้ยิ่งลำบากเข้าไปใหญ่ กฏเกณฑ์ต่างๆ ถูกงัดเอาออกมาใช้กันตามแต่ใครจะคิดค้นได้.. เรื่องสนุกๆ ก็เลยโผล่ออกมาเรื่องๆ ตามแต่ว่าใครจะมารยาทตลาดหรือความอดทนต่ำกว่ากัน...
ไอ้ซอยแคบๆ แบบที่จอดรถหน้าบ้านคนละคันก็ไปไหนไม่ได้แล้วเนี่ย บางบ้านมีรถแม่ง 2 คัน.. บางบ้านเอาพื้นที่จอดรถที่มีไปทำผนัง ทำห้องรับแขก ทำห้อง foyer ไว้ใส่รองเท้าก่อนออกจากบ้าน โอ้ว พระเจ้า.. ไหนจะที่วางถังขยะหน้าบ้านที่มักจะวางออกมาเกะกะหน้าบ้านคนอื่น ใช้มาตรฐานการวัดที่ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมราวกับตัวเองเป็นรัฐบาล คือถ้าใครละเมิดกฏ กูจะด่า แต่กูทำได้ เพราะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ อะไรประมาณนี้
เรื่องการเข้าจอดรถในซอยนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นการฝึกถอยรถที่ดีที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้.. อันนี้จากประสบการณ์ส่วนตัวบางทีต้องถอยแบบซิกแซก การถอยจอดเข้าซองตามที่ริมถนนหรือตามที่จอดรถในห้างนี่ถือเป็นทักษะระดับอนุบาลสำหรับผมซึ่งชินกับการถอยระดับโลกของซอยนี้ไปเลย... แจ๋วไหมเล่า.. บางทีเหมือนเล่นเกมประเภทแก้ปัญหา เช่นต้องเข็นรถคันนี้ไปก่อน แล้วเราถอยเข้าซองนี้ แล้วเข็นกลับมาเปิดช่อง แล้วกลับมาเข็นอีกคันกลับ.. แก้ปัญหาเขาวงกตอาจใช้แรงน้อยกว่านี้มาก
มองๆ ดูปัญหาเพื่อนบ้านนี่มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างบอบบาง sensitive มากๆ.. แต่จะมองแบบภาพใหญ่ๆ ก็จะเห็นว่ากรณีแบบนี้เกิดขึ้นตลอดเวลาไม่เฉพาะแต่ข้างบ้านเท่านั้น บางทีมันก็เกิดกับ
- ประเทศเพื่อนบ้าน
- เพื่อนร่วมสำนักงาน
- เพื่อนร่วมชั้นเรียน
- ดาวเพื่อนบ้าน
- ลองดูกรณีประเทศเพื่อนบ้านสิครับ สิงคโปร์เคยว่ามาเลย์ --- มาเลย์มันตัดน้ำประปาเลย ไทยว่ามาเลย์ พี่แกก็สวนกลับทันที.. บางทีก็มีการออกข่าวให้ร้ายกัน แต่เวลาเจอหน้ากันก็ยิ้มแย้มแจ่มใส
- เพื่อนประเทศเดียวกันที่อยู่ต่างแดนก็คล้ายๆ กับเพื่อนบ้านดีๆ นี่แหละครับ.. แต่มักจะมีการสร้างก๊กเหล่าเกิดขึ้น บางคนโดนเกลียดโดยไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรผิดไปตอนไหน.. ซวยกันไป
- บรรยากาศที่สำนักงานหรือห้องเรียนนี่ก็ใช่ย่อยนะครับ.. การทำงานร่วมกับคนร้อยพ่อพันแม่ต่างจิตต่างใจบางทีก็กระทบกันโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือเผลอไปเหยียบตาปลาพี่เขา แค่นี้ก็มีการแอบกัด หรือไม่ให้ความร่วมมือในการทำงานแล้ว.. บางทีก่อให้เกิดบรรยากาศมาคุขึ้นมาซะงั้น .. เฮ้ย มันแย่มากเลยนะครับเนี่ย..
- ดาวเพื่อนบ้านก็ใช่ย่อยครับ.. บางทีก็มามีอิทธิพลต่อโลกของเรา บางทีสะท้อนแสง บางทีมีผลกับดวงชะตา โดยเฉพาะกับเหล่าผู้บริหารประเทศที่มักจะมีเรื่องกับดาวเพื่อนบ้าน ก็พวกดาวพระศุกร์(เข้า)ดาวพระเสาร์(แทรก).. หรือดาวหางที่ชอบวิ่งไม่เป็นระบบ เดี๋ยวๆ ก็จะวิ่งมาชนโลก เฮ้ย มึงจะเอาไงวะ ... เดี๋ยวก็สูญพันธุ์กันพอดี...
หลายครั้งหลายหนก็พาลให้ต้องแก้ปัญหาด้วยการ.. เออ ช่างหัวแม่งดีกว่า.. กับคนบางจำพวกนี่ พูดไปก็ไม่เข้าใจและไม่เข้าหูมันนะครับ.. ต้องปล่อยๆ มันไป.. คนเรามีหลายจำพวก จะให้เข้าใจเหตุผลมันก็คงไม่ได้ซะทุกคน บางคนก็ไม่อยากรับฟัง หรือรักษาผลประโยชน์ตัวเองมากกว่าประโยชน์ของส่วนรวม..
เอ คล้ายๆ ท่านผู้นำยังไงไม่รู้สิ เขียนๆ ไปแล้วนี่
รับเลี้ยงเลย
คิดไปคิดมาเด็กบ้านนอกอย่างเราคงไปอยู่บางกอกลำบากแฮะ
และทักษะการขับรถของข้าพเจ้า...โอ้ว