เช้าวันที่ 5 ของทริป เราตื่นเช้าจากโรงแรมจิ้งหรีดย่าน Old Cairo ที่วุ่นวาย กินอาหารเช้าบนดาดฟ้าของโรงแรมที่มีแค่ขนมปัง ไข่ต้ม และกาแฟ เราออกเดินทางจากโรงแรมโดยแวะรับเพื่อนร่วมทางเพื่อเดินทางลงใต้สู่เมืองเมมฟิสเมืองเก่าของอียิปต์
สภาพในซอยที่โรงแรม Arabian Night ย่าน Old Cairo
เมื่อมุ่งหน้าตามถนนออกจากเมืองสภาพแวดล้อมเริ่มสงบลงและไม่วุ่นวายเหมือนในเมืองไคโร เส้นทางลงใต้ไม่เรียบนักและมีคลองแบ่งกลางระหว่างถนนขาเข้าและขาออก ความสกปรกยังมีให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ ทั้งขยะตามท้องถนนและขยะในลำคลองซึ่งบางจุดบนผิวน้ำมีขยะรวมตัวกันราวกับเป็นพื้นดิน และมีจุดที่เราเห็นวัวตายลอยน้ำอยู่ น่าสยองมาก ผู้คนในชนบทยังใช้ชีวิตอยู่อย่างเรียบง่ายเหมือนในอดีต สามีกินข้าวเช้าและออกไปทำสวนทำไร่ กลางวันภรรยาทำอาหารไปนั่งกินหันใต้ต้นไม้และนอนกลางวัน เย็นกินข้าวร่วมกันทั้งครอบครัวพูดคุยเรื่องสัพเพเหระ บ้านนอกแถบนี้เราจะเห็นรถเทียมม้าและลาอยู่ทั่วไป บ้างก็ขี่ลาเปล่าๆ ขนผักผลไม้เหมือนในยุคโบราณ แต่จักรยานในประเทศนี้จะแทบไม่เคยเห็น ตลอดทริปรู้สึกจะเห็นจักรยานอยู่ 3 คันเห็นจะได้
คลองกลางถนนเส้นลงใต้สู่ Memphis มีขยะให้เห็นตามตลิ่ง
ชาวบ้านในเขตบ้านนอกยังใช้ยานพาหนะพลังงานสะอาดอยู่
Memphis - เมืองหลวงเก่าของยุคโบราณ
ไม่นานเราก็มาถึงเมมฟิสเมืองหลวงเก่าของอียิปต์โบราณ 20กม.ทางตอนใต้ของเมืองไคโรเพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่เก็บเทวรูปและรูปสลักหินต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของฟาห์โรรามเสสที่ 2 (Rameses II) โดยภายในตัวอาคารที่เปิดโล่งเราจะพบกับรูปหินสลักขนาดมหึมาของกษัตริย์รามเสสขนาดยาว 11เมตรที่นอนราบอยู่กับพื้นซึ่งจริงๆ แล้วรูปสลักหินนี้ยืนตรงอยู่แต่ส่วนฐานและเท้าจนถึงข้อเท้าอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ที่อังกฤษ สภาพที่เราเห็นนั้นขนาดที่มันนอนราบอยู่กับพื้นยังยิ่งใหญ่และสวยงามปราณีตมาก เราใช้เวลาฟังไกด์ของเราอธิบายข้อมูลต่างๆ ทั้งสัญลักษณ์ต่างๆ และประเพณีและออกเดินชมประติมากรรม โลงหินและเทวรูปต่างๆ ที่หลงเหลือแต่ยุคโบราณ
รูปสลักหินขนาดใหญ่ของกษัตริย์รามเสสที่ 2
เทียบสัดส่วนกับรูปสลักหินขนาดยักษ์
สฟิงค์ที่แกะจากหินอ่อนอะลาบัสต้า Sphinx of Memphis
สภาพเทวรูปหินต่างๆ ในบริเวณพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่เมมฟิส
Saqqara ปิรามิดขั้นบันได
เราออกจากเมมฟิสและมุ่งหน้าสู่ปิรามิดขั้นบันไดซัคคาร่า (Saqqara) ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก ลักษณะสภาพภูมิประเทศก็เฉกเช่นเดียวกับที่กิซ่าคือเป็นทะเลทรายแห้งแล้ง ตามคำบอกเล่าคือเขามักสร้างสุสานไว้ในแถบทะเลทรายเพราะมันแห้งแล้ง (เหมือนไร้ชีวิต) และผู้คนอยู่อาศัยในบริเวณใกล้แหล่งน้ำ (ที่มีชีวิต) ตลอดเส้นทางจะเป็นพื้นที่เกษตรกรรมปลูกต้นปาล์มและอินทผาลัม
เมื่อเข้ามาถึงเขตของซัคคาร่าภายในบริเวณทะเลทรายจะพบกับวิหารขนาดใหญ่ที่ภายในมีเสาปาปิรุส (Papyrus Column) ขนาด 3 คนโอบที่จัดวางเป็นคู่ยาวไปจนถึงพื้นที่ภายในซึ่งส่วนใหญ่เสาจะหักไม่สมบูรณ์ (เหลือเพียงครึ่งเสา) ซึ่งจะเป็นลานกว้างและมีปิรามิดโบราณแบบขั้นบันไดอยู่ แน่นอนว่าต้องมีแขกขายของอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ คอยกวนใจ
บริเวณวิหารทางเข้าที่สร้างด้วยหินสีส้มสูงตระหง่านที่ต้องเดินผ่านเพื่อเข้าสู่ลานกว้างภายในซึ่งเป็นที่ตั้งของปิรามิดขั้นบันได
ทางเดินภายในวิหาร (Entry Colonnade) ซึ่งเป็นทางเข้าสู่ลานปิรามิด
เสา Papyrus Column และสภาพภายในบริเวณทางเดินในวิหาร
เราเดินผ่านวิหารจนมาถึงลานทรายกว้างใหญ่ที่มีปิรามิดของกษัตริย์โซเซอร์ (Zoser) อายุประมาณ 4700ปี!! ที่สร้างโดยสถาปนิกเอกในยุคนั้นคืออิมโฮเทป (Imhotep) ซึ่งฮอลิวู๊ดเอาไปปรุงแต่งเป็นมัมมี่จอมโหดในหนัง The Mummy 1 และ 2
ปิรามิดขั้นบันได (Step Pyramid) ของกษัตริย์โซเซอร์ และหมาอียิปต์
ปิรามิดขั้นบันไดโบราณอายุ 4700 ปี + เจ้าของบล๊อก และลา
เราเข้ามานั่งฟังคำบรรยายเกี่ยวกับการสร้างปิรามิดของคนโบราณและเรื่องราวต่างๆ ที่บริเวณลานหน้าปิรามิดและเดินเล่นถ่ายรูปหลังจากนั้น เพื่อนร่วมทริปชาวเยอรมันที่เดินเล่นกับลูกชายเจอแขกท้องถิ่นทักทายเรารีบเดินหนี ได้ยินแขกพูดเยอรมันได้และเห็นจัดหมวกแขกให้ลูกชายใส่ถ่ายรูปกับอูฐ หลังจากนั้นก็เห็นคุณแม่ชาวเยอรมันหยิบกระเป๋าเงินออกมาจ่ายให้แขกและต่อรองกัน เรียกว่าทุกคนในขบวนทริปโดนแขกตื้อและหลอกมาครบทุกคนแล้ว
หลุมลึกประมาณ 28เมตร ช่องทางเดินสู่ด้านล่างซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสุสานจำลองของกษัตริย์ในยุคก่อน
ผนังกำแพงหินรอบปิรามิดขั้นบันได
หลังจากเยี่ยมชมปิรามิดขั้นบันไดแล้วเราจึงเดินทางออกมาเพื่อแวะรับประทานอาหารกลางวัน (หัวละ 60ปอนด์ไม่รวมน้ำเปล่า) ระหว่างทางๆกด์ขอให้เราแวะชมโรงเรียนทำพรม (carpet school) ที่เขาบอกว่าเป็นที่สอนเด็กเวลาเลิกเรียนและสร้างรายได้แก่เด็ก แต่เมื่อเราไปถึงก็เห็นมีแต่คนแก่นั่งทอพรมโชว์อยู่ 3-4คน หลังจากนั้นจึงนำเราไปนั่งที่ตัวร้านด้านบนและเลี้ยงน้ำชากาแฟแก่พวกเรา และเริ่ม้ปิดการขาย เราพยายามเดินหลุดออกจากวงแต่ก็มีเซลมาคอยตามตื้นจนในที่สุดเราก็ได้ซื้อกระเป๋าพรมมา2ใบจนได้
ช่างทำพรม งานระยะยาวที่ต้องค่อยๆ ทำ
หลังจากนั้นเราจึงเดินทางกลับสู่ไคโรและแวะรับประทานอาหารกลางวันตามที่ระบุไว้ก่อนแต่ต้องจ่ายเงินเพิ่มและเมื่อกินกันจนเสร็จแล้วจึงเดินทางขึ้นเหนือสู่ที่พัก
ไก่ย่างประเทศไหนๆ ก็อร่อยครับ
หลังจากกลับมาที่พักทางโรงแรมได้ทำการย้ายห้องพักเรามาที่ชั้น2 เนื่องจากห้องแรกนั้นแอร์เสีย เมื่อได้นั่งพักผ่อนแล้วเราจึงออกเดินสู่ตลาดข่านอัลคาลิลี่ (Khan El Khalili) ที่คลาคล่ำซึ่งเดินไปไม่ไกลจากที่พักนัก ตลาดนี้สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 เป็น Caravanserai หรือเรียกว่า Khan โดย Emir Djaharks el-Khalili (Caravanserai คือที่หยุดพักของกองคาราวานหรือพ่อค้านักแลกเปลี่ยนตั้งแต่อดีตกาล)
ภาพพิมพ์ของ Khan El Khalili ในอดีตกาล จาก //egypttrips.blogspot.com/2008/09/medieval-bazaar.html
ภาพซุ้มประตูตั้งแต่ยุคกลางในศตวรรษที่ 14 จนถึงปัจจุบัน พอดีวันที่เจอซุ้มประตูนี้ไม่ได้พกกล้องไปด้วย ภาพจาก //www.flickr.com/photos/chaiyuenleong/2970361229/
ภายในมีของขายมากมายและแน่นอนว่ามีคนมาคอยถามไถ่ทักทายคุณอยู่ตลอดเวลาจนน่ารำคาญ ทั้งเชื้อิญทั้งยัดเยียดและต้องต่อราคาทุกครั้งในการซื้อของ ภายในตลาดเป็นทางเดินไม่กว้างนักมีร้านอยู่ตลอดทางซ้ายขวาและมีซอยเชื่อมต่อกันหลายซอย ระหว่างซอยจะมีซุ้มประตูโบราณแบบยุคกลาง (Medieval age) อยู่ 2-3 แห่งที่สวยงามมาก ทำให้นึกไปถึงกำแพงเมืองยุคโบราณ
ตลาดข่ายอัลคาลิลี่ Khan El Khalili ที่คึกคัก
ซุ้มประตูยุคกลางภายในซอยตลาดข่านอัลคาลิลี่ (อันที่สวยไม่ได้ถ่ายมา 555)
ที่บริเวณด้านหน้าตลาดมีร้านอาหารรวมตัวกันหลายร้านพร้อมเมนูภาษาอังกฤษ หลังจากเราเดินเล่นซื้อของจนหิวแล้วเราจึงคิดจะแวะมาลองชิม แต่ระหว่างที่ยืนเลือกร้านอยู่นั้นคนเรียกแขก(ที่เป็นแขก)ร้านนึงก็มาเชื้อเชิญให้เข้า ในขณะที่คนเชียร์แขกร้านข้างๆ ก็มาตะโกนด่ากับคนเชียร์แขกร้านนี้จนเรารีบเดินหนี ส่วนใหญ่เขาไม่ใช้ผู้หญิงทำงานเพราะฉะนั้นการเชื้อเชิญซื้อสินค้าหรือร้านอาหารจะมีแต่ชายฉกรรจ์ที่เสียงดังและดูดุๆ บ่อยครั้ง (สไตล์แขก) ลองนึกถึงเวลาไปเดินพันทิพย์แล้วมีชายฉกรรจ์มาเดินขนาบแล้วชวนซื้อหนังโป๊ แม่งดูน่ากลัวนะครับ
สุดท้ายแล้วเราจึงแวะซื้อไก่ย่างราคา40ปอนด์ในร้านใกล้ๆ ซึ่งอร่อยดี ซื้อน้ำกระป๋องที่ร้านใกล้โรงแรม (ที่ประเทศนี้ไม่มีเบียร์ขายทั่วไป) และเดินกลับมานั่งกินที่ดาดฟ้าโรงแรมที่เงียบสงบ
ผ่านไปอีกวันในไคโรที่แสนวุ่นวาย ฮ่าๆ
ถ้าหนังโป๊คนขายเป็นพริตตี้สาว น่าจะขายดีนะ เวลาเดินมาใกล้ๆ แล้ว เรียก โป๊ไหมพี่