ก็ทั้งๆ ที่รู้อยู่.....
ช่วงนี้ระดับความถี่ในการเขียน blog ดูลดลงอย่างน่าตกใจเลยนะครับสำหรับตัวผม... พอดีช่วงนี้มีเรื่องให้ต้องสะสางมากกว่าที่เคย น่าแปลกจริงๆ.. (สงสัยจะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นทุนนิยมมากขึ้น)
เคยเขียนบ่นเรื่องละครน้ำเน่าไทยๆ ไปหลายรอบ ไม่นานมานี้ทางรัฐก็ได้ออกระบบการจัด Rate มาใช้ในวงการทีวี ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีทีเดียวครับ ถือเป็นก้าวแรกที่รอคอยมาชาติกว่า...... อย่างไรก็ตามพอวันก่อนได้ไล่เปิดดูรายการทีวี มันก็ไม่เห็นจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย มีแต่เรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ เหมือนเคยๆ เป็นมา....
วันก่อนเปิดทีวีมาตอน 1 ทุ่มต้นๆ เจอเสียงกรี๊ดของนางอิจฉาเข้าอย่างจัง เฮ้ย อะไรกันนี่ ประเทศนี้ผ่านมากี่สิบปีก็ยังเป็นนิยายแบบนี้อยู่อีกหรือนี่... ลองเช็คดูชื่อละครมันก็ไม่เหมือนเดิมนะครับ ละครมันเปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆ พล๊อตเรื่องมันก็เปลี่ยนไป นางเอกเปลี่ยนคน เนื้อหาอาจเปลี่ยนไป
เนื้อเรื่องอาจเปลี่ยนไป แต่..... พระเอกยังโง่เหมือนเดิม..... นางอิจฉาก็ยังแต่งตัวเซ็กซี่เหมือนเดิม กรี๊ดเหมือนเดิม ทำหน้าทำตาได้เว่อร์เหมือนเดิม คอยเกาะพระเอกเหมือนเดิม ทำตัวไร้สาระได้เหมือนเดิม มีฉากยั่วเหมือนเดิม ..... นางเอกก็ยังใสซื่อเหมือนเดิม อาจฉลาดขึ้น แต่ก็ยังดีเลิศเหมือนเดิม... คนใช้ก็ยังคอยมาช่วยด่าให้ฝ่ายนางเอก แม่พระเอกก็ต้องเจ้ายศเจ้าอย่างเหมือนเดิม... ไม่ว่าเรื่องจะเปลี่ยนไปยังไง องค์ประกอบเหล่านี้ก็ยังมีเหมือนเดิม
เหมือนว่า ทั้งๆ ที่รู้อยู่... แต่ก็ดูกันต่อไป.. ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวร้ายคือใคร (ไม่ต้องคิดมากก็รู้).... รู้ว่าสุดท้ายพระนางก็ต้องได้กัน (แต่ก็ยังลุ้น).... รู้ว่าคนใช้คือคนที่คอยมาเล่าเรื่องตอนที่เราอาจคิดไม่ทัน (ผู้จัดละครคงคิดว่าคนดูไม่ฉลาด)... รู้ว่าต้องมีการด่ากันทั้งเรื่อง (วันก่อนเปิดมาดูรอบหัวค่ำ ก็ด่ากันตั้งแต่เปิดมา.. เปิดมาอีกรอบหลังข่าว ก็ด่ากัน กรี๊ดใส่กัน..)
ส่วนไอ้โลโก้
น ที่แปลว่า
แนะนำ ที่แปะอยู่ด้านล่างของจอที่แบบว่าผู้ปกครองควรแนะนำบุตรหลานเนี่ย... แนะนำยังไงครับ..
แนะนำว่า ละครน่ะลูก ชีวิตจริงเขาไม่ด่ากันอย่างนี้หรอก หรือแนะนำว่า ดูๆ เอาไว้ โตขึ้นลูกต้องทำให้ได้อย่างเขา หรือ ลูกจ๋า ถ้าผู้ชายดีๆ เราต้องจับมันให้ได้... หรือ ละครพวกนี้ก็คล้ายๆ กับการเมืองไทยบางคนแหละลูก ลูกรู้ๆ อยู่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง แต่ลูกก็ต้องทนดูต่อไป... เป็นต้น
นี่ยังไม่พูดถึงพล๊อตเรื่องที่วนเวียนอยู่ไม่กี่แบบนะครับ (ขนาดไม่ค่อยได้สนใจละคร)
1
ระลึกชาติได้.. ประเภทชาติก่อนตายแล้วชาตินี้ยังไม่เสื่อมรัก หรือตามมาหลอกหลอน มาทวงรัก... โอ้ว... เห็นบ่อยเชียว
2
มีสองบุคลิก.. หรือมีฝาแฝด คนนึงร้าย คนนึงดี คนนึงเซ็กจัด อีกคนดีเลิศ หรือบุคลิกตอนกลางวันอย่าง ดึกๆ อย่าง
3
ประเภทนางเอกอยากพลิกบทบาทเป็นคนเซ็กจัด... อันนี้ก็เห็นบ่อย ตอนนี้ก็เห็นมีอยู่.. ตกลงมันแสดงถึงอะไรในชาติบ้านเมืองเรารึเปล่านะครับ (เห็นนางเอกเล่นมาหลายรุ่นแล้วครับ)
4
ละครศักดินา... พระเอกร่ำรวย มีชาติตระกูลแต่โง่ ส่วนนางเอกมีเชื้อเจ้า แต่คนไม่รู้ บางทีพระเอกหรือนางเอกก็ชอบปลอมตัว แต่คนจะไม่รู้นะว่าจริงๆ รวย ผิวพรรณดีๆ แบบนี้หน้าตาดีๆ แบบนี้ก็เป็นคนจนได้นะจะบอกให้
5
ละครศักดินาย้อนยุค... คุณหลวง คุณพระ เอาทาสเป็นเมีย ไปเมืองโน้นเมืองนี้ก็มีสาวๆ รุม (คงไม่ได้สื่อถึงอะไรในสังคมเรา)
6
ละครผี... ขาดไม่ได้ในสังคมไทยชนบท.. รอบนอกเขาชอบดูกัน เราต้องเน้นคนกลุ่มใหญ่
ฯลฯ
ยิ่งพักหลังไม่กี่ปีมานี้ละครก็ยังทำหน้าที่ผูกสัมพันธ์ครอบครัวไว้ด้วยกัน.. ยังไงนะ.. ก็เมื่อก่อนเมียๆ จะนั่งดูละคร ลูกนั่งดูด้วย คุณพ่ออาจไม่สนใจ ... แต่พักหลังเขาจะหานางร้ายขาวอวบแต่งตัวโชว์ๆ นางเอกหน้าอกบึ้มมาเข้าฉาก.. คุณผู้ชายก็เลย เอ๊ะ ละครดีเหมือนกันนี่ (หื่น).. ทำให้ครอบครัวรักกัน ดูละครกันได้สองสามชั่วโมงไม่เบื่อ...
พอก่อนดีกว่านะครับ... มีหลายเรื่องที่สังเกตเห็น ซึงเราก็รู้ๆ กันอยู่นะครับว่าเป็นยังไง...
ทั้งๆ ที่รู้ แต่ก็ทนดูกันไป ก็ไม่มีทางเลือกนี่ครับ (ทั้งการเมือง ทั้งละคร)
ก็อย่างว่าแหละ ถ้ามองโดยรวมทั้งประเทศแล้วนั้นนะ ประชากรในประเทศส่วนใหญ่ก็ยังมีระดับฐานะปานกลางลงมาถึงล่าง(B-C) ระดับความรู้ส่วนใหญ่ถ้าวัดแล้วโดยเฉลี่ยก็ยังไม่ใช่ระดับปริญญาตรีกันเล้ยยย....เพราะฉะนั้น ฟรีทีวีที่เราดูกันอยู่ทุกวันนี้ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่ได้เปิดหูเปิดตาประชาชนได้ แต่สำหรับรายการในทีวีนั้นเค้าก็สำรวจมาจากความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่นั่นแหละจ้า....กี่ปีๆ ประชาชนก็ยังช๊อบ..ชอบ ดูละครน้ำเน่า พระนางแสนจะอินโนเซนส์ เปิดป้ายเกมส์โชว์ คณะตลกที่ออกมามุขซ้ำๆ ซอกแซกล้วงลึกดารา อะไรแนวๆนี้ และแนวเดิมๆ มากี่ยุคกี่สมัย ก็ไม่เปลี่ยน .......
พวกเจ้าของช่องก็ไม่กล้าเสี่ยงขาดทุนมาก ไม่กล้าลุกขึ้นมาทำรายการที่ประเทืองสมอง ประลองปัญญา กันมากนักเพราะเหตุผลเดียวก็คือ กลัวไม่มีประชาชีดู และก็จะไม่มีโฆษณา ผลพวงไปถึงไม่มีรายได้เข้ามา ก็เจ้งกันไปเป็นแถบๆๆ
แต่ก็มีนะอยู่ช่องนึงที่เค้าลุกขึ้นมาเปลี่ยนแลงรูปแบบรายการโดยรวมของช่องให้เป็นไปตามสโลแกนว่า "สังคมอุดมปัญญา" คงคุ้นๆกันเนอะ ช่องนั้นนะ สัดส่วนรายการแล้วแทบไม่มีรายการพวกละครน้ำเน่า วาไรตี้เปิดป้ายมากนัก เพราะเค้าคัดรายการพอสมควร ....
โดยสรุปช่องสังคมอุดมปัญญาที่ว่านี้นะ พอวัดเรตติ้งรวมเทียบกับช่องอื่นๆ แล้วก็ถือว่าสู้ไม่ได้เลย แต่ถ้าถามถึงผลประกอบการรายได้นั้น ได้กำไรมากกว่าช่องที่มีละครฮิตๆ ซะอีก เพราะเค้าไม่มีต้นทุนในการผลิตมากเท่ากับพวกที่ผลิตละครกัน เพราะฉะนั้นเค้าเลยยังคงสโลแกนนี้เอาไว้อยู่ ก็เลยยังพอมีรายการมีสาระให้ดูอยู่บ้างในช่วงเวลาที่มีละคร(น้ำเน่า) ........
ยาวไปนิดนะจ๊ะพี่ท่าน.......ก็บ้านน้องไม่มี UBC นินา แต่ชอบดูรายการมีสาระนะ...บางจังหวะก็แว๊บไปดูนางอิจฉาเซ็กซี่กรี๊ดๆๆๆๆ บ้างนะจ๊ะ