ไม่ได้เขียนบล็อกนานมาก บางทีไม่มีแรงจูงใจที่จะเขียนแล้ว มันคงคล้ายๆ จะหมดมุขหรือหมดไฟ หรือ ฯลฯ
แต่พอดีวันนี้มันมีเรื่องที่อยากเขียน อยากระบาย.. จริงๆ ก็คิดไว้ว่าจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับประโยคที่ว่า
“คนไทย ถ้าตั้งใจทำอะไรแล้ว ก็ไม่แพ้ชาติอื่น”ซึ่งคนที่เคยอ่านบล็อกนี้ก็คงพอจะรู้นะครับว่าผมหมายถึงอะไร.. (คงไม่ได้มาชมอะไรกันแน่ๆ) 555
ส่วนเรื่องที่ต้องการจะระบายในวันนี้มันเป็นเรื่องใกล้ๆ ตัวคนกรุงเทพตาดำๆ แบบพวกเราครับ เรื่องที่เราต้องทนๆ อยู่ทุกวัน หลายคนคิดว่า ก็รถมันติดอะ จะไปเครียดทำไม เครียดไปแล้วได้อะไรขึ้นมา
ก็นั่นนะสิครับ ผมจะไปคิดแทนคนอื่นทำไม... โดยส่วนตัวแล้วผมก็เป็นพวกกลัวรถติดขึ้นสมองอยู่แล้ว จะพยายามหาหนทางไปไหนมาไหนให้ได้เร็วที่สุดและเสียเวลาน้อยที่สุด เรียกว่าให้เสียพลังงานและเวลาน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น ขับรถไปทำงานซึ่งอยู่ห่างไป 2 กิโลในตอนเช้าจะเสียเวลาครึ่งชม. และขากลับตอนเย็นจะเสียเวลาอีกครึ่งชม.หรือ 1 ชม. (แสดงว่าขับรถด้วยความเร็ว 1-2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) (ตกลงนี่กูขับเต่าไปทำงานเหรอเนี่ย) ผมก็จะนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปแทน ทะลุทะลวงซอยซึ่งรถผ่านไม่ได้ แท็กซี่ก็ไม่ช่วยได้ เป็นต้น
แต่ปากซอยบ้านผมครับ แถวเอกมัย วัดธาตุทองสุขุมวิทขาออก รถแม่งติดทุกเย็น จริงๆ ถ้าเห็นแบบนี้ผมก็ไม่อุตริโดดขึ้นรถขับเล่นหรือไปทำอะไรบนท้องถนนหรอกครับ.. สมัยก่อนก็คิดว่า มันคงก่อสร้างรถไฟฟ้ากันอยู่ หรือมันทำสะพานต่างระดับแถวแยกบางนามั้ง.. ที่ไหนได้ครับ ทำเสร็จไปชาติกว่าแล้วก็ยังติด ติดแม่งทุกวันตอนเย็นๆ ค่ำๆ.. เอ.. สรุปแล้วมันติดอะไร
ง่ายๆ ครับ ใต้ BTS อ่อนนุชมีป้ายรถเมล์อยู่ แต่เสือกมีแท็กซี่ไปจอดเรียงเป็นแถวอยู่ซ้ายสุด และแท็กซี่ที่อยากมาจอดด้วยจอดอยู่เลนกลาง ซึ่งเหลือช่องจราจรให้คนที่เสียภาษี 1 ช่องขวา.. รถเมล์ก็ต้องไปรับคน จอดบริเวณไหนดี ไหนจะเลยไปหน่อยมีทางกลับรถขวา แล้วจะเหลืออะไรให้คนบนท้องถนนขับครับพี่น้อง...
แล้วไงครับ ตำรวจมันก็คอยเป่านกหวีดอยู่ คอยโบกอยู่ มันไม่เห็นว่าแท็กซี่ทำผิดกฎ เอาเปรียบคนอื่นๆ เพราะอะไรนะ.. คิดเอาเองครับ.. รถติดนี่เสียน้ำมันไปเท่าไหร่ครับ.. ก็คงไม่กี่สิบบาท คนนั่งแท็กซี่แถวสุขุมวิทก็เสียเงินเพิ่มไปไม่กี่สิบบาท.. สมมติว่ามี 1000 คนต่อวัน แล้วคิดเป็นเดือน เป็นปี มันกี่พันล้าน เผาผลาญน้ำมันปีละกี่ล้านลิตร โลกร้อนขึ้นมีคนสนใจไม๊ครับ... ไม่มีคนสนใจ เขาว่าจะสนใจไปทำไม รถก็ติดอยู่แล้ว คุณจะเครียดไปกับมันทำไม.. โลกร้อนก็ถือถุงผ้าสิจ๊ะ... โอ้วพระเจ้า
ก็มันเป็นซะอย่างนี้สิครับ จะพึ่งใครในบ้านเมืองนี้ให้แก้ปัญหาก็ไม่มี เขตที่รับผิดชอบก็ไม่เคยรับรู้ หรือรับรู้แล้วก็ไม่เคยสนใจ ตำรวจก็เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ แล้วมันก็เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ถนนก็ออกแบบกันแบบนี้ ที่รอรถก็สร้างกันไว้แบบนี้ เดินถนนมองไปเห็นคนยืนทำหน้าตาบอกบุญไม่รับอยู่บนรถเมล์ที่แน่นและอบ ไม่มีใครปริปากบ่นอะไรซักคำ แค่คิดว่าซักวันนึงฉันจะซื้อรถขับให้สบาย จะได้นั่งเย็นสบายในรถ..
จริงๆ ปัญหาพวกนี้แค่ต้องการผู้บริหารบ้านเมืองที่จริงใจ แก้ไม่ยากครับ เห็นแบ่งเขตการปกครองเป็นตั้งหลายเขต ตกลงแบ่งเขตเยอะๆ นี่เพื่อให้เลือกตั้งได้คนเยอะๆ อย่างเดียวรึเปล่า.. คือง่ายๆ ที่ว่าคือแต่ละเขตก็จัดการเขตของตัวเองให้เรียบร้อย กวดขับใช้กฎหมายให้ถูกต้อง เข้มงวด ทางเท้าต้องเรียบ ห้ามขายของในที่ห้าม ห้ามจอดในที่ห้ามจอด กฎจราจรต้องใช้ให้เข้ม.... แค่นี้ประหยัดได้ปีละหลายพันล้านละครับ โลกก็ไม่ร้อน
ดูรูปเดิมๆ แก้ขัดไปก่อนนะครับ
พูดแล้วเครียดโน๊ะ.....