ชีวิตจะมีสุข... หากไม่รู้อะไรบางอย่าง
ผ่านไปเรียบร้อยแล้วนะครับ สำหรับเทศกาลลดจำนวนประชากรไทย.. นับเป็นเทศกาลที่แสดงออกหลายๆ อย่างเลยนะครับ นอกเหนือจากขนบประเพณีที่กล่าวเอาไว้ในหนังสือ เช่นการแสดงออกของฮอโมนเพศ การแสดงออกทางความรุนแรงในจิตใต้สำนึก การปฏิบัติสิ่งต่างๆ ด้วยสัญชาติญาณทางเพศ ฯลฯ
เห็นข่าวจำนวนคนตายและอุบัติเหตุมากมายแล้วก็ได้แต่ปลงในความ
สบาย สบาย ของชาวไทยเรานะครับ.. มีแต่คำว่า
มาตรการ หรือคำว่า
รณรงค์ แต่ไม่มีกฎหมายที่เคร่งครัดมาควบคุมคนเหล่านี้.. แย่จริงๆ..
หลายครั้งหลายคราก็ให้ได้มาคิดว่า ถ้าเราไม่รู้ข้อมูลข่าวสารบางอย่าง ชีวิตเราอาจจะอยู่อย่างมีสุขขึ้นไปได้อีกเยอะเลยนะครับ เอ๊ะยังไง ฟังดูแปลกๆ รึเปล่า.... เช่น
- ถ้าเราไม่รู้ว่ามีการตายกันเยอะ เราก็คงคิดว่า ประเพณีสงกรานต์มันดีจริงๆ
- ถ้าเราไม่ได้ข่าวคนตายมากๆ เพราะการเมา เราก็คงคิดว่าคนไทยใจดีและรักสงบ
- ถ้าเราไม่ได้รู้เบื้องลึกว่า นักการเมืองผู้บริหารประเทศเรารวยด้วยการเหยียบหัวคนจน เอาเงินภาษีเราไปทำมิดีมิร้าย เราก็คงอยู่อย่างมีความสุขต่อไป
- ถ้าเราไม่เคยไปเห็นเมืองที่เขาเจริญแล้วว่ามีสวัสดิการสังคมดีขนาดไหน เราก็คงพอใจกับสภาพชีวิตแบบไทยๆ ที่เราเป็นอยู่
- ถ้าเราไม่เคยได้ยินข่าวนักการเมืองประเทศอื่นลาออกเพราะมีข่าวไม่ดีแค่เล็กน้อย เราก็คงยอมรับได้ที่นักการเมืองไทยหน้าด้านไม่ยอมลาออกและเอาผิดไม่ได้ซักที
- ถ้าเราไม่ไปเห็นคนเที่ยวตามที่กลางคืนว่าหื่นแค่ไหน เราก็คงคิดว่า ฝรั่งมันฟรีเซ็กซ์และคนไทยแสนจะเรียบร้อย
- ถ้าเราไม่ได้รู้ว่าผู้หญิงที่น่ารักคนนั้นเป็นกระเทย เราก็คงมีความสุขต่อไปที่ได้เห็นหล่อนเดินโฉบไปมา
- ถ้าเราไม่รู้ว่าผู้ชายเหล่านั้นเป็นเกย์ เราก็คงคิดว่ามีคนหล่อล่ำอยู่เยอะจังในบ้านเมืองนี้
- ถ้าเราไม่รู้ว่าแฟนเรามีกิ๊กหรือแฟนเราเจ้าชู้ เราก็คงยังรักกันต่อไป และมีความสุขกับชีวิตคู่อันราบรื่น
- ถ้าเราไม่ได้รู้ว่าประเทศบางประเทศเรียนฟรีถึงปริญญาตรี เราก็คงจะพอใจกับการศึกษาแบบล้าหลังของเรา
- ถ้าเราไม่ได้รู้ว่ารถไฟที่ออสเตรเลียขนาดว่ายังใหม่ๆ อยู่ ก็ยังเปลี่ยนรุ่นให้ใหม่ขึ้นอีก เราก็คงจะคิดว่ารถไฟเราก็พอใช้ได้
- ถ้าเราไม่ได้ไปนั่งรถไฟใต้ดินของเมืองที่เจริญแล้ว เราก็คงคิดว่า ระบบขนส่งมวลชนเราดี
- ถ้าเราไม่เคยไปเดินที่ทางเท้าเมืองนอกที่แสนจะเรียบ เราก็คงยอมรับกับทางฟุตบาตรบ้านเราที่แสนจะขรุขระ
- ถ้าเราไม่ได้ไปเดินสวนสาธารณะเมืองนอกที่มีมากมาย เราก็คงคิดว่า สวนสาธารณะบ้านเรามีเพียงพอแล้ว
- ถ้าเราไม่ได้เห็นภาพคนจนที่แสนลำบากในหลายๆ ที่ เราก็คงคิดว่าประเทศเราเจริญแล้ว ไม่มีความลำบาก
- ถ้าเราไม่รู้ว่าคนที่ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้คนระดับรากหญ้าครั้งละบาทเป็นคนที่ขึ้นเงินเดือนตัวเองเป็นเท่าตัวระดับแสน เราคงคิดว่าคนพวกนี้จริงใจกับคนจน
- ถ้าในช่วงเดือนก่อนเรามัวแต่ดูละครหลังข่าวเราคงไม่รู้ว่า มีคนเป็นแสนออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยและอีกหลายล้านคนไม่พอใจผู้นำเหลี่ยมจัด
เอาหูไปนา เอาตาไปไร่บ้าง อีกไม่กี่สิบปีเราก็ตายจากโลกนี้ไปแล้ว รู้มากเครียดมาก ก็ตายเร็วนะ... (ประชดๆ)
นั่งดูละครน้ำเน่า อ่านหนังสือแอบถ่ายดารา ฟังเรื่องลับๆ โม้บ้างไม่โม้บ้างตามหน้าข่าวบันเทิง ก็มีความสุขไปวันๆ หน้าไม่แก่ หัวไม่ล้าน นอนตายอย่างสบายใจ.... ดีกว่า (รึเปล่าไม่รู้สินะ)..
แต่รู้แล้วมันก็ต้องมีผลอะไรบ้างแหละน่า
อย่างน้อยก็อาจจะสะกิดใจเล็กๆ ให้เอาชนะ
ชนะได้หรือไม่นั่นอีกเรื่องหนึ่ง
ปล. แต่ก็คิดบ่อยๆนะ ว่าไม่รู้บ้างก็น่าจะดี ไม่รู้ก็ไม่ต้องทุกข์ เกิดมาไม่กี่ปีก็ตาย อย่างเช่นคนเป็นมะเร็งเป็นต้น คนที่รู้ว่าตัวเองจะอยู่ได้อีกสามเดือน กะคนสมัยรัชกาลที่สอง ที่ค่อยๆบ๊ายบายชีวิตตัวเองไป ก่อนวันที่หลับตาลงเป็นครั้งสุดท้าย อาจจะทำขนมตาลรื่นเริงอยู่กะลูกกะผัวกะเมียก็เป็นได้ แล้วใครมีความสุขกว่ากันนะ