Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
17 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 

. . . ตลาดหุ้นร่วง กังวลข่าว รัฐประหาร . . .

...

ตลาดหุ้นภาคเช้าทรุดต่อเนื่อง กังวลข่าว 2 ก.ค.แม้วรัฐประหารนองเลือด

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 มิถุนายน 2551 11:00 น.

ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ ยังคงปรับลดลงต่อเนื่อง เปิดการซื้อขายภาคเช้าปรับลดลงทันทีเกือบ 4 จุด โดยมีแรงกดดันจากเงินเฟ้อโลก และราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นเกือบ 140 ดอลลาร์/บาเรล ขณะที่กระแสข่าวรัฐประหาร 2 ก.ค.ที่กระหึ่ม สร้างความวิตกกังวลต่อบรรยากาศการลงทุน

ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) วันนี้ (17 มิ.ย.) ดัชนีเปิดตลาดเช้าปรับตัวดิ่งลงในแดนลบทันทีเกือบ 4 จุด โดยเมื่อเวลา 10.50 น. ดัชนีอยู่ที่ระดับ 784.04 จุด ลดลง 3.55 จุด มูลค่าการซื้อขาย 2,081.45 ล้านบาท นักวิเคราะห์คาดผลกระทบเงินเฟ้อ และราคาน้ำมันยังเป็นตัวแปรสำคัญ โดยเมื่อคืนนี้ ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กในสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 139 ดอลลาร์ต่อบาเรล

ส่วนปัจจัยใหม่ที่เข้ามากระทบได้แก่ข่าวการรัฐประหาร 2 ก.ค.นี้ โดยผู้เชี่ยวชาญหลายด้านประเมินว่า รัฐบาลอาจทำการรัฐประหารตัวเอง เพราะไม่สามารถนำพาประเทศฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจไปได้ และนำมาซึ่งความรุนแรงถึงขั้นนองเลือด ขณะที่อดีตนายกรัฐมนตรี (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) ก็เริ่มออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง และมีการกล่าวถึงวันที่ 2 ก.ค. โดยระบุว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

ภาวะการซื้อขายหุ้น รอบเช้า บรรยากาศซบเซาซึมลงตั้งแต่เปิดตลาด โดยมีแรงขายของนักลงทุนไทย และต่างชาติ เพราะผวาวิกฤติเศรษฐกิจโลกจากอัตราเงินเฟ้อที่ราคาน้ำมันแพง แม้ว่าราคาน้ำมันจะยังอยู่ที่ 134 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ระหว่างการซื้อขายวิ่งไปแตะ 139 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ดัชนีร่วงไป 8.14 จุด หรือ 1.03 % มาอยู่ที่ 779.45 จุด มูลค่าซื้อขาย 5,329 ล้านบาท

...








 

Create Date : 17 มิถุนายน 2551
5 comments
Last Update : 17 มิถุนายน 2551 14:18:06 น.
Counter : 542 Pageviews.

 

งานการอ่ะ ทำมั่งน่ะเพ่ อิอิอิ
จะได้มีตังค์ ซื้อนมให้ลูก
ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

โดย: แม่ลูกติด IP: 202.57.173.217 17 มิถุนายน 2551 13:06:12 น.  

 

...

โกลด์แมน แซคส์ ระบุค่าเงินหยวนของจีนจะแข็งค่าอีก 10% เงินเฟ้อจะลดเหลือ 5-6% และเศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่องในอัตรา 9-10%

วาณิชย์ธนกิจอันดับหนึ่งของโลกอย่างโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า สกุลเงินหยวนของจีนจะแข็งค่าขึ้นอีกประมาณ 10% ในปีนี้ และคาดว่ารัฐบาลจีนจะใช้มาตรการสกัดกั้นเงินเฟ้อ

นักวิเคราะห์โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เงินหยวนพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดเมื่อเทียบกับ 10 สกุลเงินหลักๆในเอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่น

ขณะที่เงินสกุลอื่นๆ อ่อนค่าลง อันเนื่องมาจากราคาน้ำมัน และอาหารที่พุ่งสูงขึ้นจนทำให้เกิดเงินเฟ้อไปทั่วภูมิภาคนั้น จีนกลับมีความแตกต่างเนื่องจากธนาคารกลางจีนใช้มาตรการด้านการเงินที่เข้มงวดมากกว่า และจริงจังมากกว่า

โกลด์แมน แซคส์ ยังคาดการณ์อีกว่า อัตราเงินเฟ้อของจีนจะร่วงลงแตะระดับ 5-6% ภายในปีนี้ หลังจากธนาคารกลางจีนสั่งการให้สถาบันการเงินภายในประเทศเพิ่มสัดส่วนสำรองสภาพคล่องแล้ว 5 ครั้งในปีนี้ และประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว 6 ครั้งในปี 2550

คาคว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวขึ้น 9-10% ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ซึ่งจะทำให้จีนสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ภายในประเทศ และคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะไม่เข้าสู่วงจร boom and bust cycle อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดว่า ค่าเงินหยวนของจีนจะแข็งขึ้นแตะระดับ 6.3 หยวนต่อดอลลาร์ภายใน 12 ปีข้างหน้านี้ จากระดับปัจจุบันที่ 6.9027 หยวนต่อดอลลาร์ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน

...

 

โดย: loykratong 17 มิถุนายน 2551 13:48:36 น.  

 

กระทรวงพาณิชย์ยังไม่พิจารณาขึ้นราคาน้ำมันถั่วเหลือง-น้ำมันปาล์ม

โดยทีมข่าว INN News 16 มิถุนายน 2551 20:40:19 น.

อธิบดีกรมการค้าภายใน ยืนยัน ยังไม่พิจารณาปรับขึ้นราคาน้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันปาล์มบรรจุขวด เพื่อไม่ให้เป็นภาระซ้ำเติมผู้บริโภค

จากกรณีที่สมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลือง เตรียมยื่นหนังสือมายังกรมการค้าภายใน ขอปรับราคาน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวด ขนาด 1 ลิตร อีกขวดละ 8.50 บาท

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า จากการพิจารณาราคาถั่วเหลือง ซึ่งกรมติดตามอย่างต่อเนื่อง ว่าราคายังทรงตัว ไม่ได้มีการขยับราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 1 เดือนแล้ว และยังไม่มีแนวโน้มการปรับราคาเพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นหากทางสมาคมเสนอขอปรับราคามายังกรมจริงทางกรมอาจจะยังไม่มีการพิจารณาปรับราคาให้

รวมทั้งน้ำมันปาล์มบรรจุขวดขนาด 1 ลิตรด้วย หลังจากมีข่าวเตรียมเสนอขอปรับราคาเพิ่มขึ้นอีกขวดละ 6.50 บาท โดยจะขอรอดูราคาผลปาล์มดิบในตลาดอีกครั้งหนึ่งว่าจะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร มีเหตุผลเพียงพอที่จะขอปรับราคาเพิ่มขึ้นหรือไม่ เพื่อไม่ไห้เป็นภาระซ้ำเติมผู้บริโภค ในภาวะที่ราคาสินค้าหลายชนิดปรับราคาเพิ่มขึ้น อย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จากราคาน้ำมัน

...

 

โดย: loykratong 17 มิถุนายน 2551 15:37:13 น.  

 

ครม.อนุมัติค่าครองชีพข้าราชการระดับต้นเพิ่มอีก 500 บาท และอนุมัติมาตรการช่วยเหลือผู้รับเหมาก่อสร้าง รวมถึงเพิ่มค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงเป็นกว่า 36,000 ล้านบาท

นางสาวศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ปรับขึ้นค่าครองชีพข้าราชการระดับต้น(ข้าราชการ ระดับ 1-5 ) จากเดิมที่จะได้รับคราวละ 1,000 บาท เป็น 1,500 บาท สำหรับข้าราชการระดับต้นที่มีเงินเดือนไม่เกิน 11,700 บาท นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้ปรับเงินเดือนทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และลูกจ้างที่เงินเดือนไม่ถึง 8,200 บาท เพิ่มเป็น 8,700 บาท

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. ได้พิจารณาช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างและผู้ประกอบการอาชีพอื่นที่ทำสัญญากับราชการ และได้รับผลกระทบจากค่าวัสดุก่อสร้างและค่าขนส่ง รวมทั้งน้ำมันและเหล็กเส้น

โดยให้พิจารณาปรับปรุงการคำนวณเงินเพิ่มลดค่างานก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่าเค) ให้มีความเป็นธรรม โดยให้ระงับใช้ค่าส่วนเกินบวกลบร้อยละ 4 เป็นการชั่วคราว จนกว่าสำนักงบประมาณจะศึกษาและปรับสูตรวิธีการคำนวณค่าเคได้แล้วเสร็จ

รวมทั้งให้ขยายเวลาของสัญญาการก่อสร้างที่ได้เสนอราคาหรือลงนามไปแล้ว และยังดำเนินอยู่ เพื่อเป็นการลดและยืดเวลาความต้องการเหล็กให้น้อยลง และเป็นการตรึงราคาวัสดุก่อสร้างให้นานขึ้น ส่วนกรณีการงดหรือยกเว้นหรือให้คืนค่าปรับ ไม่ว่าด้วยเหตุใด ให้แก่ผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งได้ถูกปรับจากความล่าช้าของงานจนเลยกำหนดสัญญา โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึง 1 ตุลาคม 2550

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการอื่นที่ไม่ใช่งานก่อสร้าง แต่ได้รับผลกระทบจากค่าขนส่ง น้ำมันและค่าแรง ที่ปรับสูงขึ้นผิดปกติ หากจะขอยกเลิกสัญญาสามารถทำได้โดยไม่ถือว่าเป็นผู้ละทิ้งงาน และให้ทางราชการเพิ่มงบก่อสร้าง หรืองบประมาณจากโครงการที่มีต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และหากผู้ประกอบการประสงค์จะขายสินค้าต่อทางราชการ ให้ขยายเวลาสัญญาออกไปได้อีก 250 วัน เพื่อชะลอการแย่งซื้อวัสดุในตลาดที่มีราคาสูงขึ้น และประสบปัญหาขาดแคลนในปัจจุบัน

พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติ ปรับค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงบางใหญ่-บางซื่อ โดยได้ปรับวงเงินค่าก่อสร้างของงานโยธาจาก 31,217 ล้านบาท เป็น 36,055 ล้านบาท พร้อมปรับค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการสำหรับงานโยธาวงเงิน 1,248 ล้านบาท เป็น 1,296 ล้านบาท โดยมีข้อสังเกตในเรื่องการประมาณค่าก่อสร้างโครงการต่าง ๆ ให้ใช้เกณฑ์การคำนวณต่อหน่วยที่ใช้ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเพื่อให้วงเงินสะท้อนข้อเท็จจริงมากที่สุด และหลังจากนี้ การดำเนินการรถไฟฟ้าทุกเส้นทางจะมีการกำหนดราคากลางก่อนการเปิดประกวดราคาเป็นเวลาไม่เกิน 45 วัน เพื่อให้ราคากลางใกล้เคียงกับต้นทุนการก่อสร้างมากที่สุด

ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวจะใช้กับโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐบาลอีกหลายโครงการทั้งในส่วนที่เริ่มการประมูลแล้ว และในส่วนที่ยังไม่มีการประมูล

...

ครม.ยังไม่พิจารณาโครงการเช่ารถเมล์ปรับอากาศเอ็นจีวี 6,000 คัน ของ ขสมก. ออกไปก่อน เพื่อจะได้พิจารณาอย่างรอบคอบ

ที่ประชุม ครม. ยังไม่พิจารณา แผนปรับโครงสร้าง ขสมก. ที่จะมีการปลดระวางรถของขสมก. ที่มีอยู่ 3,000 คัน แล้วจะเช่ารถปรับอากาศที่ใช้ ก๊าซ NGV จำนวน 6,000 คัน มาทำการเดินรถแทน

พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พิจารณากรณีแผนปรังปรุงบริหารจัดการ และการบริการขนส่งมวลชนกรุงเทพขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพว่า ก่อนการพิจารณาเรื่องนี้ควรให้กระทรวงคมนาคมนำรายละเอียด และขั้นตอนการประกวดราคาที่โปร่งใสตรวจสอบได้ นำเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งทางรางและระบบขนส่งมวลชนเพื่อพิจารณาโดยนำความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณมาประกอบการพิจารณาก่อนนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยย้ำว่ารายละเอียดทุกอย่างต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงสาเหตุที่ถอนโครงการจัดเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 6,000 คัน ออกจากการพิจารณาของที่ประชุมครม.ว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ต้องการให้พิจารณาโครงการให้รอบคอบอีกครั้ง ก่อนเสนอให้ ครม.พิจารณาต่อไป

นายสันติ ยืนยันว่า การถอนโครงการดังกล่าวออกจากการพิจารณาของ ครม. ไม่ได้เป็นการถอนเพื่อหนีการอภิปรายของฝ่ายค้าน หลังจากมีการเตรียมนำประเด็นจัดเช่ารถเมล์ 6,000 คัน มาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เนื่องจากโครงการจัดเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 6,000 คันนี้ ถือว่าโปร่งใส และพร้อมชี้แจงทุกประเด็นที่ฝ่ายค้านสงสัย

สำหรับประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตในโครงการดังกล่าวถึงข้อเปรียบเทียบระหว่างการซื้อ หรือเช่ารถเมล์ 6,000 คันนั้น นายสันติ กล่าวว่าไม่ได้เป็นประเด็นที่นำมาซึ่งการถอนการพิจารณา โดยกระทรวงคมนาคมขอยืนยันว่าแนวทางในการจัดหารถด้วยวิธีเช่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด เนื่องจากจะทำให้มีเจ้าภาพชัดเจนในการบริหารการซ่อมบำรุงรถ หลังจากจัดซื้อมาแล้ว และเมื่อแผนการจัดหารถมีความพร้อมกระทรวงคมนาคมก็จะเร่งเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.โดยเร็วที่สุด

...

แท็กซี่เตรียมปรับค่าโดยสารอัตราใหม่สัปดาห์นี้
กรมการขนส่งทางบก คาดว่ารถแท็กซี่จะเริ่มจัดเก็บค่าโดยสารอัตราใหม่ได้ในสัปดาห์นี้

นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ รักษาการ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะทำงานพิจารณาการกำหนดอัตราค่าโดยสารของรถแท็กซี่ เห็นชอบแนวทางให้ผู้ประกอบการสามารถปรับค่าโดยสารในอัตราใหม่ คือ 1 กิโลเมตรแรก 35 บาท และเพิ่มอีก 50 สตางค์ทุกกิโลเมตร โดยได้นำเสนอความเห็นให้นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พิจารณาไปแล้ว และเชื่อว่า ภายใน 1-2 วันนี้ กระทรวงคมนาคม จะมีประกาศกฎกระทรวงให้ผู้ประกอบการสามารถจัดเก็บค่าโดยสารอัตราใหม่ได้

ก่อนที่จะจัดเก็บค่าโดยสารในอัตราใหม่ ผู้ประกอบการทุกรายจะต้องนำรถแท็กซี่ไปปรับเปลี่ยน หรือตั้งค่ามิเตอร์เพื่อให้เป็นไปตามอัตราใหม่ โดยกรมการขนส่งทางบกได้เตรียมอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการ โดยจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำยังบริษัทเอกชน 9 ราย ที่ได้รับอนุญาตจากกรมฯ เป็นผู้จำหน่าย ติดตั้ง และปรับตั้งค่ามิเตอร์รถ ซึ่งเมื่อผ่านกระบวนการปรับตั้งค่ามิเตอร์แล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่ของกรมฯ จะตรวจสอบ หากได้มาตรฐานตามกฎหมายกำหนด จะอนุญาตให้จัดเก็บค่าโดยสารในอัตราใหม่ได้

ส่วนประเด็นที่กลุ่มสหกรณ์แท็กซี่สยาม ออกมาเรียกร้องขอปรับค่าโดยสารเต็มเพดานที่ขอมา หรือขอขึ้นค่าโดยสารร้อยละ 20 จากเดิมที่คณะทำงานอนุมัติให้ร้อยละ 12-14 หากภาครัฐมีการลอยตัวราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) นั้น

นายชัยรัตน์ กล่าวว่า ขอให้ผู้ประกอบการรอความชัดเจนในการกำหนดราคาก๊าซแอลพีจีก่อน แต่อยากจะเตือนผู้ประกอบการแท็กซี่ว่า การปรับค่าโดยสารครั้งเดียวจำนวนมาก จะทำให้ประชาชนลดปริมาณการใช้ สุดท้ายจะทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบเอง

นอกจากนี้ ในอนาคตกรมการขนส่งทางบกมีแนวคิดจะจำกัดปริมาณรถแท็กซี่ เพื่อให้มีปริมาณเหมาะสม โดยกรมการขนส่งทางบก จะว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อศึกษาว่า จำนวนรถแท็กซี่ที่เหมาะสมในกรุงเทพฯ และปริมณฑลควรมีปริมาณเท่าใด โดย

ปัจจุบันมีรถแท็กซี่ จดทะเบียนในระบบกว่า 90,000 คัน แต่มีรถแท็กซี่วิ่งให้บริการและเข้ามาต่อทะเบียนภาษี ประมาณ 65,000 คัน

...

กลุ่มผู้พิการทางสายตาและทุพพลภาพ ที่ปักหลักปิดถนนทางเข้าออกนายกรัฐมนตรี ยอมรับข้อเสนอส่งตัวแทนเข้าเจรจาที่ทำเนียบรัฐบาล

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้พิการทางสายตา และทุพพลภาพ ปิดทางเข้าออกซอยนวมินทร์ 81 ทางเข้าบ้านนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ยุติหวยออนไลน์ และให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล

พ.ต.อ.สุวัจน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บังคับการตำรวจจราจร ได้เข้าเจรจากับผู้ชุมนุม เพื่อให้ส่งตัวแทนผู้ชุมนุม 10 คน เข้าพบนายประพนธ์ มิลินทจินดา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งผู้ชุมนุมรับข้อเสนอ โดยส่งตัวแทน 5 คน ขึ้นรถตู้ที่นครบาลจัดให้ไปเจรจาที่ทำเนียบรัฐบาล โดยแกนนำอีก 5 คน ยังคงปักหลักพร้อมผู้ชุมนุมอยู่ที่เดิม รอผลการเจรจา

ในที่สุด ผู้ชุมนุมยอมสลายการชุมนุม หลังจากนายประพนธ์ ยอมรับหนังสือข้อเรียกร้องจากกลุ่มผู้ชุมนุม และรับปากจะส่งถึงมือนายกรัฐมนตรี โดยวันนี้( 18 มิ.ย.) กลุ่มเครือข่ายผู้พิการต่อต้านหวยออนไลน์แห่งชาติ ประมาณ 1,000 คน นำโดยนายสมชาย เอนกวงศ์ ประธานเครือข่ายผู้พิการต่อต้านหวยออนไลน์แห่งชาติ นัดรวมตัวกันหน้ากองสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อรับฟังคำตอบจากรัฐบาล ซึ่งหากคำตอบที่ได้ไม่น่าพอใจก็จะปักหลักชุมนุมต่อไป

ตอนสายวานนี้(17 มิ.ย.) กลุ่มต่อต้านหวยออนไลน์แห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตาประมาณ 300 คน ได้เดินทางไปที่บริเวณซอยโอฬาร 2 ถนนนวมินทร์ ซึ่งเป็นซอยบ้านของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี โดยเรียกร้องให้รัฐบาลระงับ หรือเลื่อนการออกหวยออนไลน์ ในเดือนกันยายนนี้ออกไปก่อน เพราะเกรงว่า ผู้พิการทางสายตาจะไม่มีงานทำ

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. นายสมชาย ปัญญาเอกวงศ์ ตัวแทนกลุ่มต่อต้านหวยออนไลน์ พร้อมด้วยกลุ่มผู้พิการกว่า 10 คน ได้ยื่นหนังสือต่อนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา แสดงตนในฐานะเป็นผู้ริเริ่มรวบรวมรายชื่อประชาชนไม่น้อยกว่า 20,000 รายชื่อ เพื่อถอดถอนนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกจากตำแหน่ง

นายสมชาย ระบุว่า การที่รัฐบาลประกาศจำหน่ายสลากพิเศษเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว ด้วยเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติ (หวยออนไลน์) ตั้งแต่งวดวันที่ 1 กันยายน 2551 เป็นต้นไปนั้น ถือเป็นการแปรรูปรัฐวิสาหกิจอย่างหนึ่ง และสร้างความไม่เป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้าสลากรายย่อย และคนพิการ ที่จะได้รับผลกระทบ เนื่องจากกลุ่มผู้พิการไม่สามารถหาเลี้ยงตนเองได้ ดังนั้นทางกลุ่มจะคัดค้านเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด

...


กระทรวงอุตสาหกรรม สั่งปิดโรงงานปล่อยมลพิษย่านสมุทรปราการแล้ว 11 แห่ง

นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้รับรายงานจากสำนักงานกระทรวงอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบปัญหาโรงงานก่อมลพิษที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในแม่น้ำเจ้าพระยาแถบจังหวัดสมุทรปราการ

เนื่องจากพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการขยายตัวของโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งมีปริมาณประชากรในพื้นที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนโรงงาน ก่อให้เกิดปัญหาปริมาณขยะที่สะสมมากขึ้น ทำให้มีปัญหาการร้องเรียนจากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในช่วงที่ผ่านมา

ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการฯ ดังกล่าวกำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบโรงงานที่มีปัญหาสิ่งแวดล้อม หากพบว่าโรงงานใดก่อปัญหาสิ่งแวดล้อมในระดับรุนแรงจะพิจารณาออกคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการ เพื่อดำเนินการปรับปรุงแก้ไขระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพ และไม่ก่อมลพิษกับสิ่งแวดล้อม

ที่ผ่านมาได้พิจารณาสั่งหยุดประกอบกิจการโรงงานในจังหวัดสมุทรปราการแล้ว 11 แห่ง ส่วนโรงงานที่มีปัญหาไม่รุนแรงได้พิจารณาออกคำสั่งให้ปรับปรุงแก้ไขโรงงาน โดยมีการสั่งปรับปรุงแก้ไขโรงงานไปแล้ว 75 แห่ง จากจำนวนโรงงานที่มีทั้งหมดกว่า 6,000 แห่ง

...


ธปท.ระบุ เบื้องต้นสถาบันคุ้มครองเงินฝากจะเก็บค่าธรรมเนียม 0.4% ต่อปี

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เผยว่า ในเบื้องต้น สถาบันคุ้มครองเงินฝากจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมนำส่งเพื่อคุ้มครองเงินฝาก จากสถาบันการเงินต่างๆ ที่รับเงินฝากในอัตรา 0.4% ต่อปี ซึ่งเท่ากับที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟู และพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เรียกเก็บอยู่ในปัจจุบัน

นายพงศ์อดุล กฤษณะราช ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์และติดตามฐานะ สายกำกับสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวว่า ตามกฎหมายให้เก็บได้ตามความเสี่ยง แต่เบื้องต้นจะเก็บอัตราตายตัว 0.2% (ต่อ 6 เดือน) หลังจากนั้นจะดูตามความเสี่ยง ใครเสี่ยงมากก็จ่ายมาก เสี่ยงน้อยก็จ่ายน้อย

สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ซึ่งเกิดขึ้นตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) สถาบันคุ้มครองเงินฝาก จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 สิงหาคม นี้

โดยกำหนดให้ในปีที่ 1 ที่กฎหมายบังคับใช้ ยังมีการคุ้มครองเงินฝากเต็มจำนวน 100%, ปีที่ 2 คุ้มครอง 100 ล้านบาท, ปีที่ 3 คุ้มครอง 50 ล้านบาท, ปีที่ 4 คุ้มครอง 10 ล้านบาท และปีที่ 5 เป็นต้นไป จะคุ้มครอง 1 ล้านบาท

นอกจากนี้ กฎหมายยังเปิดช่องให้คณะกรรมการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก และรัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกา เพื่อเพิ่มหรือลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากได้ตามความเหมาะสม หากในอนาคตอาจมีความจำเป็นต้องเพิ่มวงเงินคุ้มครองเงินฝากมากขึ้น เพื่อให้ผู้ฝากเงินเกิดความมั่นใจ แต่ต้องไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ในกฎหมาย

นายพงศ์อดุล คาดว่า ภายหลังจากที่สถาบันคุ้มครองเงินฝากมีผลบังคับใช้แล้ว ในปีแรกคงไม่มีการโยกเงินฝากออกจากสถาบันการเงินมากนัก เนื่องจากยังมีการคุ้มครองเงินฝากเต็มจำนวนอยู่

อย่างไรก็ตาม ธปท.ได้ให้ธนาคารพาณิชย์เขียนแผนรองรับ หลังจากมีการใช้พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝากแล้ว โดยให้นำส่งมายังธปท.ภายในวันที่ 15 ก.ค.51

...



 

โดย: som IP: 203.146.31.234 17 มิถุนายน 2551 18:33:17 น.  

 


ข่าวมากมายหลากหลายดีจังค่ะ

วันนี้ช่วงเช้าค่าเงินบาทอ่อนค่ะ หลุดจากกรอบแตะที่ 33.40/Dollar แล้วนะคะ พอช่วงบ่ายๆ ถึงกลับมาแตะที่ 33.30/Dollar ไม่ทราบว่ามีอัศวินขี่มาขาวหรือเปล่า ตลาดทุนกับตลาดเงินสัมพันธ์กันนะคะ ประเด็นหลักน่าจะมาจาก Offshore ค่ะ รอดูพรุ่งนี้และวันต่อๆ ไปว่าจะแตะที่ 34.00/Dollar หรือเปล่า ?

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ...


 

โดย: ทิวาจรดราตรี 17 มิถุนายน 2551 22:07:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


loykratong
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






ไม่มีอะไรขึ้นตลอด
ไม่มีอะไรลงตลอด
...ไม่มี the end of the world ...

Web Site Hit Counters

ราคาทองคำ
 

ราคาทองคำต่างประเทศ



Friends' blogs
[Add loykratong's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.