. . .ธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าสัวใหญ่ ซีพี แนะใช้ทฤษฎี 2 สูง . . .
ธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าสัวใหญ่ ซีพี แนะใช้ทฤษฎี 2 สูง แก้ปัญหาเศรษฐกิจต้องขึ้นเงินเดือน-ค่าจ้างให้ประชาชน พร้อมกับดันราคาสินค้าเกษตรให้สูงขึ้น โดยไม่ต้องกังวลปัญหาเงินเฟ้อ เพราะจะทำให้รัฐฯได้ภาษีเพิ่มขึ้น มีการวิจัยและพัฒนาการผลิตมากขึ้น ทำให้ในที่สุดราคาสินค้าจะปรับลงมาในระดับที่เหมาะสม
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์(ซีพี) กล่าวในการสัมมนา "ทางเลือกสุดท้าย ทางรอดของประเทศ โดยกล่าวถึงการใช้ทฤษฎี 2 สูง คือ รายได้ประชากรสูง และสินค้าเกษตรราคาสูง นายธนินท์ กล่าวว่า ถ้าสินค้าเกษตรราคาดี จะทำให้เกษตรกรมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ในต่างประเทศมีแต่อุดหนุนให้สินค้าเกษตรมีราคาสูง ไม่มีประเทศใดทำให้ราคาสินค้าเกษตรอยู่ในระดับต่ำ
นอกจากนี้รัฐต้องเพิ่มรายได้ให้ประชากร ทั้งข้าราชการ ลูกจ้างบริษัทเอกชน ตามราคาสินค้าที่สูงขึ้น เพื่อให้มีกำลังซื้อสินค้า ทำให้รัฐมีรายได้ภาษีเพิ่มมากขึ้น ทางด้านผู้ผลิตเมื่อผลิตสินค้าแล้วตลาดมีกำลังซื้อ ก็จะมีการทำวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของตลาด เมื่อถึงจุดที่อุปสงค์และอุปทานสมดุลกัน ราคาสินค้าจะลดลงได้
นายธนินท์กล่าวว่าการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และค่าแรงงานจะไม่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ เพราะภาวะเงินเฟ้อหมายถึงว่าประชาชนมีเงิน แต่ซื้อของไม่ได้ ดังนั้นควรปล่อยให้ราคาสินค้าสูงขึ้นตามความเป็นจริง และช่วยให้ประชาชนมีรายได้สูงขึ้นไปพร้อมๆ กัน เพื่อจะได้มีกำลังซื้อ
นายธนินท์ ยกตัวอย่างกรณีของรัฐบาลญี่ปุ่น ที่ปล่อยให้ราคาสินค้าแพง แต่รายได้ประชากรก็อยู่ในระดับสูง ญี่ปุ่นใช้ทฤษฎีนี้คือพยายามทำให้สินค้าแพง แต่ประชาชนมีเงินเหลือ ซึ่งประชาชนจะประหยัดการใช้เงินโดยอัตโนมัติ และมีการออมเงิน
ส่วนทฤษฎี 2 ต่ำ คือ รายได้ต่ำ ราคาสินค้าต่ำนั้น ไม่มีประเทศไหนนำไปใช้แล้วมั่งคั่ง ทฤษฎีนี้ถูกนำไปใช้ในประเทศสังคมนิยม เช่น จีน และรัสเซีย ซึ่งตอนนี้ก็ได้เปลี่ยนเป็นทฤษฎี 2 สูงหมดแล้ว เพราะทฤษฎี 2 ต่ำทำให้ประชาชนเกียจคร้าน
กล่าวคือ เมื่อประชาชนยากจนมีรายได้น้อยก็ไม่มีกำลังซื้อสินค้า เมื่อผู้ผลิตผลิตสินค้าแล้วไม่มีคนซื้อ ก็ไม่มีการพัฒนาการผลิตหรือใช้เทคโนโลยี ทางภาครัฐก็ขาดรายได้จากภาษี และทำให้ไม่สามารถขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการได้ ก็จะทำให้ความมั่งคั่งของชาติลดลง
แต่ทฤษฎี 2 สูงทำให้ประชาชนมีทางเลือก มีเงิน มีกำลังซื้อ การพัฒนาด้านเทคโนโลยีก็เกิดขึ้น และในที่สุดราคาสินค้าเกษตรจะถูกลงมาเองตามธรรมชาติ อย่างเมื่อก่อนไก่เป็นอาหารคนรวย แต่ตอนนี้ไก่กลับมีราคาถูกกว่าหมู เนื่องจากรัฐบาลไม่เข้าไปแทรกแซงราคา ทำให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตทำให้ต้นทุนต่ำลง คนกล้าลงทุนมากขึ้น
นายธนินท์ กล่าวว่า ปัจจุบันถือเป็นยุคทองของการเกษตร โดยเฉพาะข้าวที่มีราคาดี แต่ทำไมชาวนาจึงยากจน ซึ่งรัฐบาลต้องดูแล หากราคาข้าวจะถูกลงต้องให้ราคาน้ำมันลดลงก่อน เพราะอาหารมนุษย์จะมีราคาถูกกว่าอาหารของเครื่องจักรได้อย่างไร
"ข้าวจะไม่มีทางถูกลง ยกเว้นราคาน้ำมันลดลง หรือผู้บริหารประเทศบริหารผิดพลาด เพราะหากข้าวมีราคาถูก ชาวนาไปปลูกมันสำปะหลังหรือยางพาราดีกว่า เนื่องจากขายได้ราคาดีกว่า ทำให้วันหนึ่งข้างหน้าประเทศไทยอาจต้องนำเข้าข้าวจากต่างประเทศ ที่ดินที่ปลูกข้าวสามารถนำไปใช้ปลูกพืชชนิดอื่นๆได้ แต่ที่ดินที่ปลูกพืชอย่างอื่นไม่สามารถนำมาใช้ปลูกข้าวได้"
นายธนินทร์ ยกตัวอย่าง กำไรต่อปีของเกษตรกรที่ปลูกพืชแต่ละชนิด ว่าถ้าปลูกข้าวหอมมะลิปีละครั้งจะมีกำไรไร่ละ 4,500 บาท ขณะที่เทียบกับการปลูกยางพาราจะมีกำไรไร่ละ 24,300 บาทต่อไร่, ปาล์มน้ำมัน กำไรไร่ละ 8,175 บาท และ มันสำปะหลัง มีกำไรไร่ละ 5,000 บาท ถ้าไม่ทำให้ราคาข้าวสูงเกษตรกรอาจเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นที่กำไรดีกว่าแทนได้
นายธนินท์ ระบุว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีการบริโภคข้าวมากกว่า 400 ล้านตันต่อปี ขณะที่ประเทศไทยส่งออกข้าวประมาณ 9 ล้านตันต่อปี และทุกปีจะมีผู้บริโภคข้าวเพิ่มขึ้นจนผลิตแทบไม่ทัน แต่จะทำอย่างไรให้ข้าวมีราคาแพงขึ้น รัฐบาลต้องรวมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกข้าว เช่น เวียดนาม จีน และอินเดีย เพื่อร่วมกันกำหนดราคาข้าวในตลาดโลก
นายธนินท์ ชี้ว่าผู้ขายข้าวต้องเป็นผู้กำหนดราคาขาย ไม่ใช่ให้ประเทศผู้ซื้อเป็นผู้กำหนดราคา นอกจากนี้ เราต้องช่วยกันซื้อแพงและขายแพง โดยประเทศไทยควรเก็บสต็อกข้าวไว้ประมาณ 5 ล้านตัน และส่งออก 4 ล้านตันแต่ขายในราคาที่สูง ให้ได้มูลค่าเท่ากับการส่งออก 9 ล้านตัน ก็จะเท่ากับเรามีข้าวฟรีเก็บไว้ถึง 5 ล้านตัน
นายธนินท์ กล่าวว่า ขอให้ไปศึกษาดูว่าในโลกนี้ประเทศที่พัฒนาแล้ว มีประเทศใดบ้างที่แทรกแซงราคาสินค้าเกษตรให้ถูกลง มีแต่อุดหนุนให้ราคาเกษตรมีราคาแพงขึ้น เพราะหากรัฐบาลนำเงินไปทำให้สินค้าเกษตรถูกลง เกษตรกรก็ไม่มีเงินใช้สอยจับจ่ายส่งผลให้ธุรกิจ บริการ การค้าไม่หมุนเวียน สุดท้ายโรงงานปิด แต่หากประชาชนมีเงินใช้สอย ธุรกิจทุกอย่างจะขับเคลื่อนตามไปด้วย สุดท้ายรัฐบาลจะเก็บภาษีได้เพิ่มอย่างทวีคูณ มีการจ้างงานเกษตรกร ทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่แน่นอน หรือเกษตรกรสามารถกลายเป็นนักธุรกิจ ซึ่งสุดท้ายเกษตรกรจะร่ำรวยขึ้น
เทคโนโลยีทางการเกษตรมีความก้าวหน้าระดับโลกแล้ว หากรัฐบาลไม่เข้ามาควบคุมราคารับรองว่าสินค้าเกษตรจะไม่ขาดแคลน แต่ถ้ารัฐบาลเขามาควบคุมราคาแล้วของจะไม่มี ราคาสินค้าจะดิ่ง นักลงทุนจะไม่กล้าลงทุน และแบงก์จะไม่อยากปล่อยกู้"
นอกจากนี้ นายธนินท์ ยังประกาศสนับสนุนให้รัฐบาลเตรียมความพร้อมในการดำเนินโครงการตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และศึกษาเรื่องการตัดต่อพันธุกรรมพืช (GMO) อีกด้วย
ส่วนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ แต่อาจเกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวบ้าง
Create Date : 02 มิถุนายน 2551 |
|
11 comments |
Last Update : 2 มิถุนายน 2551 19:26:00 น. |
Counter : 901 Pageviews. |
|
|
|
ทฤษฎี 2 สูงเป็นแนวความคิดที่ดี แต่ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้มีแต่ซีพีหรือเปล่า ที่เพิ่มเงินค่าครองชีพแก่พนักงาน1,000 บาทตามทฤษฎี 2 สูง ธนาคารพาณิชย์ก็มี SCB, TMB, KBANK. เท่านั้นเอง
ขอบคุณข่าวเศรษฐกิจดีๆ ค่ะ