Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
9 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 

. . . เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 5 เดือน . . .

เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 5 เดือน

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด จัดทำบทวิเคราะห์ในหัวข้อ “เงินบาทร่วง...อ่อนค่าสุดรอบ 5 เดือนเทียบกับดอลลาร์ฯ” โดยระบุว่า ในช่วงเช้าของวันที่ 9 มิ.ย. เงินบาทอ่อนค่าลงอย่างหนักหลังตลาดในประเทศเปิดทำการ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนใกล้ระดับ 33.40 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

โดยเงินบาทถูกกดดันจากแรงซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐฯอย่างต่อเนื่องจากทั้งฝั่งผู้นำเข้า และนักลงทุนต่างชาติ หลังจากเงินบาทอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วผ่านระดับ 33.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม เงินบาทฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยมายืนที่ระดับประมาณ 33.20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงต่อมา โดยได้รับแรงหนุนจากแรงขายเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าเป็นการเข้าแทรกแซงจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อลดความผันผวนของค่าเงิน

ทั้งนี้ เงินบาทถูกกดดันจากปัจจัยลบหลายปัจจัย ประกอบด้วย
1. แรงซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐของผู้นำเข้า โดยเฉพาะบริษัทน้ำมันท่ามกลางสภาวะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกทะยานขึ้นทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง

2. ความกังวลต่อความอ่อนแอของดุลการค้า และดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งตัวเลขล่าสุดสะท้อนว่า ดุลการค้าของไทยในเดือนเมษายน บันทึกยอดขาดดุลรายเดือนสูงที่สุดในรอบ 12 ปีที่ระดับ 1.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ ดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนเดียวกันบันทึกยอดขาดดุลสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2548 ที่ระดับ 1.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

3. แรงซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งสอดคล้องกับการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นไทย โดยมีนักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ขายสุทธิ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาดูประเด็นความไม่แน่นอนทางการเมืองอย่างใกล้ชิด

4. แนวโน้มความอ่อนแอของค่าเงินในภูมิภาค อันเนื่องมาจากปัญหาเงินเฟ้อ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และความอ่อนแอของดุลการค้า และ

5. แรงกดดันเงินเฟ้อในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นเกินคาดเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ประเด็นที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดซึ่งอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาทในระยะถัดไป คือ แนวโน้มของเศรษฐกิจสหรัฐและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะน้ำมัน โดยหากราคาน้ำมันยังคงพุ่งสูงขึ้น ก็ย่อมจะกดดันฐานะดุลการค้าของหลายประเทศในเอเชียรวมทั้งไทย ซึ่งจะส่งผลกดดันต่อเนื่องไปยังค่าเงินในเอเชียรวมทั้งเงินบาท

นอกจากนี้ ยังมีเรื่อง ความอ่อนแอของฐานะดุลการค้าของไทยในปี 2551 แนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี ท่ามกลางปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ ตลอดจนแนวโน้มความอ่อนแอของสกุลเงินในภูมิภาค อาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาทในระยะถัดไป

อย่างไรก็ตาม แรงกดดันต่อการอ่อนค่าของเงินบาทอาจลดน้อยลง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี 2551 เนื่องจากดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยอาจฟื้นตัวขึ้นตามฐานะดุลการค้าและดุลบริการจากปัจจัยทางฤดูกาล
นอกจากนั้น ปัญหาการเมืองในประเทศของไทยเอง ก็อาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติและค่าเงินบาทด้วยเช่นกัน

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การอ่อนค่าของเงินบาทประมาณ 33.30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ มาจาก 2 สาเหตุหลัก คือ เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และนักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทย และมีการเคลื่อนย้ายเงินทุนออกนอกประเทศ ยืนยันไม่มีความผิดปกติ ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง และไม่พบความผันผวนของค่าเงินบาท

ส่วนที่น่ากังวล คือ ผลกระทบจากการนำเข้าน้ำมัน เพราะเมื่อเงินบาทอ่อนค่าการนำเข้าน้ำมันก็จะแพงขึ้น แต่รัฐบาลได้มีการเตรียมการไว้แล้ว

ทางรัฐบาลได้เตรียมจัดงานมหกรรมสินค้าราคาถูกระหว่าง 17-20 กรกฎาคมนี้ อิมแพค เมืองทองธานี โดยงานนี้จะมีการนำถังก๊าซเอ็นจีวีราคาถูกมาเปิดตัวครั้งแรก โดยมีราคารวมค่าติดตั้งประมาณ 30,000 บาท จะเปิดให้ประชาชนสามารถจองในงานได้

นอกจากนี้ รัฐบาลจะแจกคูปองให้กับคนยากจนเพื่อใช้ในการซื้อสินค้าและค่าบริการขนส่งต่าง ๆ โดยรัฐบาลกำลังกำหนดคำนิยามของคนยากจน เพื่อจะแจกคูปองให้เพื่อช่วยเหลือด้านรายจ่าย รวมทั้งในงานนี้จะมีการจับรางวัลเพื่อแจกรถยนต์อี 85 คันแรกด้วย
...




 

Create Date : 09 มิถุนายน 2551
8 comments
Last Update : 9 มิถุนายน 2551 19:22:19 น.
Counter : 506 Pageviews.

 

กระทรวงคมนาคม เสนอแผนจัดเช่ารถเมล์ 6,000 คันเข้า ครม. วันนี้(10 มิ.ย.)

รมช.คมนาคม จะนำแผนจัดเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 6,000 คัน และแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ในวันนี้(10 มิ.ย.)

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในวันนี้( 10 มิ.ย.) กระทรวงคมนาคมจะเสนอแผนปรับโครงสร้างองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งครอบคลุมถึงรายละเอียด การจัดเช่ารถเมล์โดยสารใช้ก๊าซเอ็นจีวี 6,000 คัน เพื่อเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเพื่อขอความเห็นชอบ หลังจากที่ได้หารือในที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งทางรางและระบบขนส่งมวลชนแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยเชื่อมั่นว่าแผนฟื้นฟูกิจการดังกล่าว จะช่วยให้ฐานะการเงินของ ขสมก.ที่มีผลขาดทุนสะสม 70,000 ล้านบาท สามารถลดภาระขาดทุนลงถึงร้อยละ 50 ใน 10 ปีข้างหน้า และหากไม่ปรับโครงสร้างกิจการตามแผนฟื้นฟูนี้ ใน 10 ปีข้างหน้า ขสมก.จะมีผลขาดทุน สะสม สูงถึง 1.4 แสนล้านบาท

ส่วนประเด็นการจัดเก็บค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสาย และให้รถเมล์ทั้งหมดเป็นรถปรับอากาศ นายทรงศักดิ์ชี้แจงว่าราคาที่มีการกำหนดเบื้องต้น คือ 15 บาทตลอดสาย 30 บาทตลอดวัน และ 900 บาทตลอดเดือนนี้ คำนวณจากพฤติกรรมการใช้รถ ซึ่งทุกคนจะต้องใช้ทั้งไป และกลับ เฉลี่ยประชาชนจะเดินทางต่อคน คนละ 2.8 เที่ยว เมื่อนำมาหารเฉลี่ยกับราคาตั๋วตลอดวัน 30 บาท ประชาชนจะใช้รถเมล์ในราคาถูกลง

สำหรับแผนปรับโครงสร้างของ ขสมก.ครั้งนี้ จะมีการยกเลิกระบบรถเมล์ร้อนที่มีอยู่ 3,000 คัน ออกไปทั้งหมด แล้วนำรถปรับอากาศที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิงจำนวน 6,000 คัน เข้ามาวิ่งแทนโดยใช้ระบบเช่าแทนการซื้อ และจะมีการปรับลดเส้นทางเดินรถของ ขสมก.ลงจากเดิมที่มีอยู่กว่า 200 เส้นทาง ให้เหลือ 145 เส้นทาง เพื่อลดปริมาณรถบนท้องถนน แต่ยืนยันว่าทั้ง 145 เส้นทางนั้นจะครอบคลุมทุกพื้นที่ พร้อมทั้งประกาศว่ารถใหม่ทั้ง 6,000 คันจะเข้ามาวิ่งให้บริการในระบบได้ในเดือน พ.ค.ปีหน้าแน่นอน

นอกจากนี้ ยังมีแผนให้ส่วนลดกับผู้สูงอายุในอัตราร้อยละ 50 ของค่าโดยสารปกติ ขณะที่เด็กนักเรียนจะให้ส่วนลดในอัตราร้อยละ 33 ของค่าโดยสารปกติ อีกทั้งจะมีการจัดทำตั๋วโดยสารแบบระบบ E-Ticket ตั๋ววัน และตั๋วเดือน ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางลงได้ และยอมจอดรถไว้เพื่อมาโดยสารรถสาธารณะกันมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณการจราจรที่แออัดลดน้อยลงไปด้วย

ส่วนการที่พรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกมาระบุว่า การจัดหารถเช่า 6,000 คัน มีนักการเมืองได้ประโยชน์กินเปล่าคันละ 1 ล้านบาทนั้น ถือว่าเป็นการกล่าวหาที่เลื่อนลอย เนื่องจากหากแผนการดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ก็ต้องมีการจัดทำร่างสัญญาเงื่อนไขการเช่า หรือทีโออาร์ และจัดประกวดราคาแบบอิเล็กทรอนิกส์ขึ้น จึงจะมีรายละเอียดว่าจะเช่าคันละเท่าไหร่ การเปิดประกวดราคาโปร่งใสหรือไม่ ซึ่งเมื่อถึงขณะนั้นทุกฝ่ายสามารถเข้ามาตรวจสอบได้

...

 

โดย: loykratong 9 มิถุนายน 2551 19:24:03 น.  

 

คณะกรรมการส่งเสริมSME ออกมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ช่วยธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อมฝ่าวิกฤต

คณะกรรมการส่งเสริมเอสเอ็มอี ออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน ให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 3% เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการผลิต ผ่านสถาบันการเงินอย่าง “เอสเอ็มอีแบงก์” และ “บสย.”

นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ได้พิจารณาแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม และวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาราคาน้ำมันแพง อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น และต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตเพิ่มขึ้นมากเป็นการเร่งด่วน

โดยจะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ประมาณ 3% ระยะเวลากู้ 5 ปี เพื่อให้เอสเอ็มอี สามารถนำไปใช้เป็นเงินทุนในการปรับปรุงประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการผลิต เช่น การปรับเปลี่ยนไปใช้เครื่องจักรทันสมัยและประหยัดพลังงาน โดยจะนำเงินจากกองทุนเครื่องจักร (Machine Fund) เข้ามาอุดหนุนส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปกติ ซึ่งเงินของกองทุนเครื่องจักรที่จะนำมาอุดหนุนส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยนั้นมีเพียงพอแน่นอน

นอกจากนี้ จะเร่งผลักดันให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ( เอสเอ็มอีแบงก์), บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และสถาบันการเงินบางแห่ง เข้าไปสนับสนุนเงินกู้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี

รมว.อุตสาหกรรม ยังได้มอบนโยบายให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ปรับแผนปฏิบัติการระยะยาวในการพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยจะมีการจัดลำดับความสำคัญของอุตสาหกรรมที่ภาครัฐจะเข้าไปส่งเสริมและสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอและแฟชั่น กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ และกลุ่มอุตสาหกรรมเซรามิค

นายสุวิทย์ กล่าวว่า การส่งเสริมเอสเอ็มอีที่ผ่านมาทำแบบกระจัดกระจาย และเป้าหมายบางอย่างที่ตั้งไว้ไม่เป็นไปตามที่กำหนด จึงต้องหันกลับมาเน้นการส่งเสริมเอสเอ็มอีแบบเป็นรายกลุ่ม หรือ คลัสเตอร์ โดย สสว.จะต้องจัดลำดับความสำคัญว่า จะสนับสนุนเอสเอ็มอีกลุ่มใดก่อน และหลัง และจะสนับสนุนให้เอสเอ็มอีกลุ่มนั้นๆ สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนได้อย่างไร โดยแผนปฏิบัติการดังกล่าวจะต้องดำเนินการให้เสร็จภายในเดือนมิ.ย.นี้

ที่ประชุมยังได้หารือถึงการส่งเสริมด้านการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งไม่ใช่เฉพาะการจัดงานแสดงสินค้าหรืองานแฟร์เท่านั้น แต่จะต้องพิจารณาไปถึงขั้นที่ว่าดำเนินการอย่างไร ที่จะให้เอสเอ็มอีสามารถจำหน่ายสินค้าได้ตลอดทั้งปี เช่น สนับสนุนให้มีการจัดตั้งศูนย์จำหน่ายสินค้าเอสเอ็มอีทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งผลักดันให้สินค้าเอสเอ็มอี สามารถเข้าไปวางจำหน่ายในห้างค้าปลีกสมัยใหม่หรือโมเดิร์นเทรดได้ทั่วโลก

...

 

โดย: loykratong 9 มิถุนายน 2551 19:26:23 น.  

 



IMPORTER ลำบากแทน EXPORTER ซะแล้วนะคะ

และแล้วในที่ BOT ก็คงจะขี่ม้าขาวมาช่วย

พรุ่งย่อมดีที่สุด อิอิอิ


 

โดย: ทิวาจรดราตรี 9 มิถุนายน 2551 23:15:00 น.  

 

ความเคลื่อนไหวการปรับราคาช่วงบ่ายวานนี้ (10 มิ.ย.)

ราคาน้ำมันเบนซิน 95 มีราคาแตกต่างกันถึง 4 ราคา โดยสถานีบริการน้ำมันเพียวมีราคาขายเบนซิน 95 แพงที่สุดลิตรละ 42.59 บาท

สยามสหบริการ, ปิโตรนาส ถูกกว่าสถานีบริการน้ำมันเพียวลิตรละ 20 สตางค์ ที่ระดับราคา 42.39 บาท
เชลล์, เอสโซ่, ภาคใต้เชื้อเพลิง หรือ พีที จำหน่ายเบนซิน 95 ถูกกว่าสถานีบริการน้ำมันเพียวลิตรละ 1 บาท โดยจำหน่ายที่ระดับราคา 41.59 บาท

ปตท.และคาลเท็กซ์ จำหน่ายเบนซิน95 ในราคาถูกที่สุดลิตรละ 40.79 บาท ต่างจากสถานีบริการน้ำมันเพียวลิตรละ 1.80 บาท

สำหรับน้ำมันเบนซิน 91, แก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 รวมถึงน้ำมันดีเซล สถานีบริการน้ำมันปตท., บางจาก, และ คาลเท็กซ์ จำหน่ายน้ำมันราคาต่ำกว่าปั๊มอื่นๆลิตรละ 80 สตางค์

โดยมีราคาน้ำมันเบนซิน 91 ลิตรละ 39.69 บาท,
แก๊ซโซฮอล์ 95 ลิตรละ 36.09 บาท
แก๊ซโซฮอล์ 91 ลิตรละ 35.29 บาท และ
ดีเซลลิตรละ 39.74 บาท

...

 

โดย: som IP: 203.146.31.234 10 มิถุนายน 2551 15:11:57 น.  

 

กระทรวงพาณิชย์จัดงานมหกรรมธงฟ้า ลดค่าครองชีพ 13-15 มิ.ย.นี้

กระทรวงพาณิชย์มีกำหนดจัดงานมหกรรมธงฟ้า...มหาชน ระหว่างวันที่ 13-15 มิถุนายนนี้ บริเวณตลาดธนบุรี หรือสนามหลวง 2 ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น.

โดยนำสินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาดร้อยละ 20-40 มาจำหน่าย เช่น เนื้อสุกรคุณภาพ ปลอดสารเคมี น้ำตาลทราย กิโลกรัมละ 20 บาท ข้าวสารถุงละ 129 บาท

...

 

โดย: som IP: 203.146.31.234 10 มิถุนายน 2551 15:17:39 น.  

 

แพทย์แนะคอบอลนอนหัวค่ำ - กินอาหารรสจืด

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 มิถุนายน 2551 11:54 น.

แพทย์หญิงชนิกา ตู้จินดา กุมารแพทย์ เตือนว่า การดูฟุตบอลถึงเช้าจะส่งผลเสียต่อร่างกาย ทำให้เพลียง่ายเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ ทั้งยังส่งผลถึงประสิทธิภาพการทำงานโดยเฉพาะงานที่เกี่ยวกับการควบคุมเครื่องจักรหรือของมีคม โดยแนะนำว่า ควรพักผ่อนในช่วงหัวค่ำ ทานอาหารย่อยง่าย รสไม่จัด ทำให้กระเพาะอาหารทำงานเต็มประสิทธิภาพ ที่สำคัญไม่ควรดื่มสารกระตุ้นทั้งกาแฟและสุรา เนื่องจากจะยิ่งทำให้หัวใจเต้นเร็ว หากง่วงจัดระหว่างทำงานหาเวลาพัก 10-15 นาที จะทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นได้

ด้านกรมสุขภาพจิต เตือนว่า ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หากชมเกมที่ตื่นเต้นอาจควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ถึงขั้นเสียชีวิตจากหัวใจวาย ขณะที่นักเรียนควรทำตารางการชมเพื่อไม่ให้กระทบการเรียน ที่สำคัญพ่อแม่ผู้ปกครอง และผู้ใกล้ชิดจะต้องคอยสังเกตพฤติกรรมการใช้เงินของเด็กๆ เพื่อป้องกันการเล่นพนันบอล

...

 

โดย: mgr IP: 203.146.31.234 10 มิถุนายน 2551 15:41:09 น.  

 

อนุมัติขึ้นค่าเรือโดยสารตั้งแต่ 25 มิ.ย.นี้ เป็นต้นไป

คณะกรรมการกำกับกิจการเรือโดยสาร อนุมัติผู้ประกอบการเรือโดยสารปรับขึ้นค่าโดยสาร สำหรับเรือด่วนเจ้าพระยา และเรือด่วนคลองแสนแสบ ระยะละ 2 บาท เรือธรรมดา ระยะละ 1 บาท และเรือข้ามฟากอนุมัติเฉพาะท่าเรือขนาดเล็กที่มีจำนวนผู้โดยสารไม่ถึง 5,000 ราย ให้ปรับขึ้นค่าโดยสารได้ในอัตราคนละ 50 สตางค์ มีผลวันที่ 25 มิถุนายนนี้

นายประสงค์ ตันมณีวัฒนา อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับกิจการเรือโดยสาร กล่าวภายหลังการประชุมว่า คณะกรรมการกำกับกิจการเรือโดยสารได้อนุมัติให้ผู้ประกอบการเรือโดยสารปรับขึ้นค่าโดยสารได้ตามข้อเรียกร้อง

โดยให้ปรับขึ้นค่าโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยา และเรือด่วนคลองแสนแสบ อีกระยะละ 2 บาท จากฐานราคาเดิมที่ 10 บาท เรือธรรมดาระยะละ 1 บาท จากฐานราคาเดิม 10 บาท และเรือข้ามฟาก เพิ่มอีกคนละ 50 สตางค์ เฉพาะท่าเรือขนาดเล็กที่มีผู้โดยสารไม่เกิน 5,000 คนต่อวัน

ส่วนท่าเรือขนาดใหญ่ให้ตรึงค่าโดยสารไปก่อน ประกอบด้วยท่าเรือ 6 แห่ง คือ ท่าช้าง-วัดระฆัง, ท่าช้าง-วังหลัง, ท่าพระจันทร์เหนือ-วังหลัง, ท่าพระจันทร์เหนือ-รถไฟ, ท่าพระจันทร์เหนือ-ปิ่นเกล้า, ท่าปิ่นเกล้า-ฝั่งธนฯ-ฝั่งพระนคร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป

นายประสงค์ กล่าวว่า หลังจากปรับค่าเรือโดยสารครั้งนี้ กรมการขนส่งทางน้ำฯ จะเจรจาขอให้ผู้ประกอบการตรึงค่าโดยสารช่วยเหลือประชาชน ไปจนกว่าราคาน้ำมันดีเซล จะถึงลิตรละ 45 บาท จึงจะมีการพิจารณาค่าเรือโดยสารอีกครั้ง

นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางน้ำฯ ได้หารือร่วมกับผู้ประกอบการเรือโดยสารถึงข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการที่ต้องการให้ภาครัฐอุดหนุนลดราคาน้ำมันดีเซล ลงลิตรละ 3 บาท เพื่อให้การช่วยเหลือเช่นเดียวกับผู้ประกอบการรถร่วมบริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) เพื่อสนับสนุนการตรึงค่าเรือโดยสารดังกล่าว ซึ่งกรมการขนส่งทางน้ำฯ จะนำไปหารือร่วมกับกระทรวงคมนาคมต่อไป
...

 

โดย: som IP: 203.146.31.234 10 มิถุนายน 2551 16:52:26 น.  

 


เงินบาทอ่อนค่าลงทุกวันๆ

วันนี้อ่อนค่ากว่าเมื่อวานเพราะช่วงเช้านักลุงทุนต่างชาติเทขาย USD. พระเอกขี่มาขาวมาช่วยพยุงค่าเงินบาทตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะคะ

 

โดย: ทิวาจรดราตรี 10 มิถุนายน 2551 22:46:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


loykratong
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






ไม่มีอะไรขึ้นตลอด
ไม่มีอะไรลงตลอด
...ไม่มี the end of the world ...

Web Site Hit Counters

ราคาทองคำ
 

ราคาทองคำต่างประเทศ



Friends' blogs
[Add loykratong's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.