ตรงนี้เราจะได้ชิมกันนะคะว่าเหล้าอาวาโมริรสชาติเป็นยังไง (ทัวร์พามามึนแต่เช้า อิอิ)
เหล้าอาวาโมริเป็นเหล้าที่ผลิตจากข้าวโดยการกลั่น ซึ่งต่างจากสาเกที่ใช้การต้ม
ตรงจุดนี้ถ้าใครชิมแล้วชอบก็ซื้อติดไม้ติดมือกลับไปได้เลยค่า
หลังจากนั้นก็เดินทางกันต่อมาที่ผามันซาโมะ
บริเวณนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นจุดชมวิว ตอนที่ไปลมค่อนข้างแรง
อากาศเย็นมากกกกก
ใครมาที่นี่ก็ต้องมาถ่ายรูปตรงจุดนี้ นั่นก็คือหน้าผามันซาโมะ มองดูแล้วจะคล้าย ๆ รูปหัวช้างค่ะ
น้ำทะเลสีสวยจังงงงง
หนาวมากต้องเอาหนาวเข้าข่ม 555
เคยดูรีวิวจำได้ว่าที่ผานี้มีตู้ไอศครีมกูลิโกะ
ช่วงนั้นกูลิโกะเอาไอศครีมเข้ามาขายเมืองไทยด้วยแต่หากินไม่ได้ซักแท่ง
มาถึงถิ่น หนาวแค่ไหนก็จะกินคร่า
พวกตู้อัตโนมัติพวกนี้บางทีหยอดเหรียญลงไปเครื่องก็ไม่รับ
ลองเปลี่ยนเหรียญดูนะคะ เราหยอดไปหลายรอบไม่ได้นึกว่าอดกินแล้ว
พอเปลี่ยนเหรียญเท่านั้นหล่ะกดได้เลย
โคนแท่งละ 160 เยน แบบเวเฟอร์ 130 เยน
ชาเขียวอร่อยดีไม่หวานมาก เวเฟอร์ไม่ค่อยอร่อยแต่ตัวไอศครีมอร่อยจ้า
กินไอศครีมอยู่เดินไปเจอน้องแมวเลยแอบแชะมานิดนึง
แมวเชื่องมากใครเดินผ่านไปผ่านมาก็ลูบหัว นั่งนิ่งให้เกาคางเลยจ้า
แต่ท่าทางจะหนาวเหมือนกันนะ ขนตั้งเชียว
ต่อจากผามันซาโมะก็ไปต่อกันที่ร้านโอกาชิโคเต็น เค้าพาเรามากินอีกแล้ว
หลังจากกินอิ่ม ช้อปเรียบร้อยก็เดินทางต่อมาที่โมโตะบุ เพื่อชมเทศกาลดอกซากุระค่า
ปีก่อนเรามาหลังวันจัดงาน 1 วัน + เจอฝนตกด้วย
ปีนี้โชคดีมาช่วงจัดงานพอดี ฝนก็ไม่มีด้วยจ้า
ซากุระที่เขาโมโตะบุจะปลูกอยู่ 2 ข้างทาง ใช้การเดินขึ้นเขาชมทิวทัศน์ไปเรื่อย ๆ
ปีที่แล้วมาตอนฝนตกเลยนึกว่าฝนทำให้ดอกร่วง
แต่มาปีนี้ถึงได้เห็นว่า ฝนไม่ตกดอกก็ยังน้อยอยู่ดี
ถ่ายไกล ๆ ไม่ค่อยสวย ต้องถ่ายใกล้ ๆ จ้า
ซากุระที่โอกินาว่าจะสีเข้มหน่อยนะคะ
หลังจากถ่ายรูปกับซากุระจนหนำใจแล้วทางทัวร์ก็พาเราไปต่อที่ Okinawa Churaumi Aquarium
แล้วก็พาเข้าที่พักที่ Rizzan Sea-Park Hotel
เช้าวันรุ่งขึ้นทานอาหารที่รร.แล้วเดินทางกันต่อมาที่ปราสาทซาคิมิ
ปราสาทนี้เป็นปราสาทโบราณที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
แต่จะเรียกปราสาทเราก็เรียกได้ไม่เต็มปากนัก เพราะเหลือแต่ส่วนที่สร้างด้วยหิน
ก็จะมีแค่ส่วนที่เป็นฐานเท่านั้น ตัวปราสาทอะไรไม่มีเหลือแล้วค่ะ
ต่อจากนั้นก็เดินทางไปที่อนุสาวรีย์ของท่านไทคิ ซึ่งเป็นพ่อค้าคนแรกของชาวริวกิว
ที่เดินทางไปทำการค้ากับเมืองจีนจนประสบผลสำเร็จสร้างฐานะให้ร่ำรวยขึ้นมาได้
โดยมากจะมาขอพรให้ประสบความสำเร็จในการค้ากันค่ะ
จุดนี้จะมีส่วนของประภาคาร บริเวณนั้นก็จะเป็นจุดชมวิว
จุดนี้อยู่ใกล้ ๆ ประภาคาร น้ำทะเลค่อนข้างแรง แต่ไม่อันตรายมาก
ส่วนใหญ่จะมานั่งถ่ายรูปกันตรงโขดหินนี้
ที่ท่องเที่ยวกลางแจ้งแบบนี้ต้องมีไอศครีม แม้อากาศจะเย็นก็ยังขายได้เรื่อย ๆ นะคะ
เห็นคนเดินเข้าออกตลอด
Blue Seal เจ้าเก่าเจ้าเดิมจ้า
แต่เดี๋ยวก็จะไปทานอาหารกลางวันกันแล้วก็เลยไม่ซื้อดีกว่า
มื้อกลางวันเรามาทานกันที่ EM Wellness Resort Costa Vista
ทานเสร็จเรียบร้อยเตรียมตัวไปช้อปปิ้งแล้วจ้า เดินทางต่อกันมาที่เมืองชาตัน
เรามาช๊อปกันที่อเมริกันวิลเลจ ย่านที่มีชาวอเมริกันอาศัยอยู่มาก
ร้านค้าก็มีหลากหลายแต่ที่รีบวิ่งเข้าไปก่อนก็ร้าน 100 เยนนี่แหละ
ขนมเพียบ
หลาย ๆ อย่างซื้อมาแล้วต้องมาซื้ออีก เพราะที่ร้านนี้ถูกกว่าในคอมบินิและซุปเปอร์
เรามัวแต่ช้อปนะเลยไม่ค่อยได้ถ่ายอะไรมา 55
หลังจากช้อปกันพอหอมปากหอมคอ ยังไม่หมด ทัวร์ก็พาไปที่เมกะดองกิโฮต้ต่อ
สาขานี้มีชั้นเดียวนะคะ แต่กว้างมาก ช้อปเพลินเลย
เราหากาชาปองมาหลายห้าง สุดท้ายมาเจอที่ดองกี้นี่แหละเยอะสุด
ในดองกี้ก็จะมีหมดทั้งเครื่องสำอางค์ ขนม ของกิน ของใช้
อย่างมุมนี้เป็นผงโรยข้าว มาที่ไรซื้อกลับไปเพียบ เพื่อนชอบ เราก็เลยซื้อตาม 55
DHC ยอดฮิต มีคนฝากซื้อตลอด
กาแฟ Maxim นี่ก็ซื้อทุกครั้ง แบบซอง 150 กรัม 498 เยน
กับแบบซอง+ขวด 100+80 กรัม 498 เยนราคาเท่ากัน
แบบหลังคุ้มกว่าแต่หนักกว่า เลือกหิ้วกันตามสะดวกค่า
ช้อปกันจนกระเป๋าฉีก ทัวร์ก็พาเรามาทานอาหารเย็นกันที่ไดกงโนฮานะ
บุฟเฟต์ออแกนิกส์ที่เคยรีวิวไว้เมื่อปีก่อน
หลังจากนั้นก็กลับที่พักที่แรกคือ DoubleTree by Hilton
เช้าก็เช็คเอาท์ออกจากรร.ไปเที่ยวที่สุดท้ายก่อนเตรียมตัวกลับละค่า
ที่สุดท้ายที่มาก็คือสวนฟุคุชูเอน (Fukushu-en Garden)
เป็นสวนสาธารณะที่ชาวฮกเกี้ยนสร้างขึ้นเป็นที่ระลึกครบรอบ 70 ปีของการสร้างเมืองนาฮะ
และเป็นที่ระลึกในโอกาสครบรอบ 10 ปีของการสถาปนาเป็นบ้านพี่เมืองน้องกับเมืองฮกเกี้ยน
ภายในสวนก็จะเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบจีน
มาเที่ยวโอกินาว่าหลาย ๆ อย่างจะมีความเป็นจีนมากกว่าญี่ปุ่นเนื่องจากอยู่ใกล้ไต้หวันและจีนมาก
ในอดีตก็มีการติดต่อซื้อขายกันตลอดจึงรับเอาวัฒนธรรมต่าง ๆ เข้ามาด้วย
มาประเทศเดียวเหมือนได้ไป 2 ประเทศ อิอิ
รูปปั้นหิน
มุมน้ำตก
หลังจากนั้นก็เดินทางสู่สนามบินนาฮะเตรียมตัวกลับกันแล้ว
ทัวร์พาโหลดกระเป๋าเสร็จแล้วเข้าตม.เลย ไม่ได้ช้อปด้านนอกอีกหล่ะ
ด้านในแถวเกตก็มีร้านเล็ก ๆ ร้านเดียว อดช็อปปปปปปป
ครั้งนี้เราเดินทางกลับด้วยสายการบินไชน่า แอร์ไลน์ CI-121
อาหารมื้อเที่ยงบนเครื่องหน้าตาประมาณนี้จ้า รสชาติใช้ได้เหมือนเคย
แวะไปเปลี่ยนเครื่องที่ไต้หวัน มีโอกาสละลายเงินเยนอีกนิดในดิวตี้ฟรี
ที่ไต้หวันเค้ารับเงินเยนด้วยค่ะ สบายหล่ะ แต่สุดท้ายไม่ได้ซื้อไร
พี่ที่ไปด้วยได้ซะงั้น เหลือเศษนิดหน่อยก็หยอดน้ำฝรั่งมาชิมเล่น
น้ำแบบฝรั่งน่วม ๆ อ่ะ 55
ต่อเครื่องจากไต้หวันไปสุวรรณภูมินั่งไฟลท์ CI835 รอเปลี่ยนเครื่องไม่นานดี ชม.นิด ๆ
มื้อเย็นบนเครื่องเป็นสปาเกตตี้
ส่วนอีกเมนูเป็นข้าวไก่อบ รสชาติโอเคทั้ง 2 แบบจ้า
ถึงเมืองไทยโดยสวัสดิภาพด้วยข้าวของพะรุงพะรัง
ตอนหน้ามาเปิดถุงช้อปปิ้งกันจ้า