|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
Okinawa World (Culture Kingdom Gyokusendo)
สถานที่ท่องเที่ยว : Okinawa World (Culture Kingdom Gyokusendo), Japan พิกัด GPS : 26° 8' 25.68" N 127° 44' 55.35" E
Okinawa World เป็นธีมปาร์คแห่งหนึ่งในโอกินาว่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งนึงที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวโอกินาว่า
Okinawa World ที่อยู่ : 1336 Tamagusuku Maekawa, Nanjo-city, Okinawa Prefecture 901-0616 เปิดทุกวัน 9.00 - 17.00 น.(ปิดจริง ๆ 18.00 น.แต่ให้เข้าแค่ 17.00 น.ค่า)
Okinawa World ตั้งอยู่ที่เมืองนันโจเดินทางมาจากเมืองนาฮะไม่ไกลมาก นั่งรถมาไม่ถึงชม.ก็ถึงแล้ว จริง ๆ มีอีกหลายแห่งที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวคล้าย ๆ กันนะคะ เช่น ริวกิวมูระ แต่ไม่ได้มีอยู่ในโปรแกรมทัวร์ เอาเป็นว่าใกล้ที่ไหนก็ลองแวะไปที่นั่นค่ะ โดยรวมจะคล้าย ๆ กันแตกต่างกันที่รายละเอียดเล็กน้อย
ที่นี่มีค่าเข้าชมนะคะ ซื้อตั๋วเข้าได้บริเวณนี้ค่ะ ราคาตั๋วมีหลายแบบแฮะ - Premium Pass (Open Greeting Pass & Voucher for 1,000 yen) ผู้ใหญ่ 2,300 เยน เด็ก 1,600 เยน - Open Greeting Pass (include Cave & Kingdom Village & Habu Museum) ผู้ใหญ่ 1,650 เยน เด็ก 830 เยน - Gyokusendo Kingdom Village (Include Cace & Kingdom Village) ผู้ใหญ่ 1,240 เยน เด็ก 620 เยน
อันนี้ราคาตั๋วอีกแบบ อ่านไม่ออกเหมือนกันว่าพิเศษกว่ายังไงแต่เราอ่านภาษาจีนออกตัวนึงที่เขียนว่า 1 ปี คิดว่าน่าจะเป็นตั๋วแบบเข้าชมกี่ครั้งก็ได้ตลอด 1 ปีนะ แบบที่ 1. Open Greething Pass Course(Cave-Kingdom Village-Habumuseum) ผู้ใหญ่ 3,000 เยน เด็ก 1,500 เยน (4-14 ปี) แบบที่ 2 Kingdom Village Course only เดินชมได้เฉพาะรอบ ๆ หมู่บ้าน ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็ก 500 เยน (4-14 ปี)
ของเราทางทัวร์เค้าจัดการให้ เป็นแบบ Gyokusendo Kingdom Village ใบบนเป็นตั๋ว ใบล่างเป็นแผนผัง เก๋อ่ะมีภาษาไทยด้วยยยยย
จากทางเข้าจุดแรกที่เราแวะชมคือถ้ำ Gyokusendo เป็นถ้ำเก่าแก่อายุกว่า 300,000 ปี
ทางเข้าถ้ำต้องลงไปด้านล่างแต่ไม่ต้องห่วงที่นี่เค้าทำทางเดินในถ้ำดีมาก ทางลงเป็นบันได ด้านในมีทางเดิน และทางออกมีบันไดเลื่อน ลืมการเดินถ้ำแบบที่เราคุ้นชินไปได้เลยค่ะ ที่นี่แม้แต่ผู้สูงอายุก็เดินได้สบาย ๆ
ด้านในถ้ำจะชื้น ๆ แล้วก็มืดเป็นบางมุม แต่โดยรวมแล้วเดินได้สบาย ๆ ตอนที่เราไปอากาศด้านนอกเย็นมากค่ะ มีฝนตกด้วย พอเข้าด้านในก็เลยรู้สึกว่าอุ่นดี แต่ถ้าไปช่วงหน้าร้อนก็อาจจะรู้สึกว่าร้อนไปนิด
ในถ้ำมีความยาว 5 กิโลเมตร ส่วนทางเดินในถ้ำระยะทางประมาณ 850 เมตร บางมุมก็จะจัดไฟจัดแสงสวย ๆ แบบนี้
หินงอกหินย้อยบางจุดก็อยู่ในระยะประชิดทางเดินมาก เรียกได้ว่าได้เห็นแบบใกล้ชิดสุดๆ ใครพกกล้องไปสามารถถ่ายรูปในถ้ำได้นะคะแต่ระวังน้ำหยดจากเพดานด้วย
พอจบการทัวร์ถ้ำ ขึ้นมาด้านบนก็จะมีรูปถ่ายที่เราถ่ายบริเวณหน้าทางเข้าเรียงรายรอรับเราอยู่ ถ้าใครอยากได้เป็นที่ระลึกก็ 1,100 เยน ส่วนใครไม่อยากได้ก็เดินผ่านไปได้เลยจ้า
ออกจากถ้ำถึงเวลาเดินสำรวจด้านบนแล้วค่ะ ที่โอกินาว่าเวิล์ดนี่ก็กว้างนะคะ ถ้าใครไม่ชอบเดินลองใช้บริการ Segway Guide Tour ดูก็ได้ค่ะ ขับเคลื่อน 2 ล้อดูไม่ยากนะ แต่เสียดายไม่มีเวลาลอง
จุดแรกที่เราจะเจอคือสวนผลไม้ ที่โอกินาว่าภูมิอากาศไม่หนาวมากเหมือนเมืองอื่น ๆ นะคะ ผลไม้ที่เราได้เห็นก็จะเป็นผลไม้เมืองร้อนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี อย่างมุมนี้ก็จะเป็นสัปปะรด
วนิลาบีน
มะละกอ
บ้านโบราณ
ถัดมาก็จะเป็นร้านขายของฝาก
ผลไม้อบแห้งน่าตาคุ้นเคยเนอะ สัปปะรด มะละกอ นอกจากนี้ก็ยังมีของฝากขึ้นชื่ออื่น ๆ ของโอกินาว่าด้วย ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้ชินสุโกะ
สาหร่ายอุมิบุโดหรือองุ่นทะเล มะระทอดทำคล้าย ๆ มันฝรั่งทอด มีกล้วยอบแห้งด้วยอ่ะ
แยมผลไม้ , ส้มซีกัวซ่า
ไอศครีมบลูซีล แอบเห็นข้าง ๆ มีขายอ้อยกับน้ำมะพร้าวด้วยนะ คล้ายบ้านเราฝุด ๆ
ถัดมาก็จะเป็นมุมเครื่องปั้นดินเผา นักท่องเที่ยวสามารถทดลองทำเครื่องปั้นดินเผาฝีมือเราเองได้ที่นี่ ใครไม่อยากทำเครื่องปั้นดินเผาก็เลือกเป็นระบายสีเครื่องปั้นดินเผาแทนก็ได้ แต่มีค่าใช้จ่ายนะคะ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกทำอะไร เค้าจะมีป้ายราคาเขียนไว้ค่ะ
ใครที่ไม่ถนัดทำแต่ถนัดซื้อก็เชิญที่ร้านด้านข้างได้เลย มีเครื่องปั้นดินเผาให้เลือกซื้อมากมาย
ใกล้ ๆ กันเป็นโรงเป่าแก้วริวกิว
ที่มุมนี้นักท่องเที่ยวก็สามารถเป่าแก้วด้วยตัวเองได้ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่นกัน
ใกล้ ๆ กันมีร้านอาหาร ออกแนวอาหารทานเล่นมากกว่ากินจริงจังนะ เป็นเนื้อวัวเสียบไม้ขายคู่กับเบียร์ แต่ตอนเราไปยังเช้าอยู่เลยยังไม่ค่อยมีคน
ใกล้ ๆ ร้านเมื่อกี้จะมีร้านขายของ สินค้าด้านในก็จะเป็นพวกเครื่องแก้วริวกิว
ของที่ระลึกต่าง ๆ อย่างตัวซีซาร์ก็เป็นสัญลักษณ์อย่างนึงของโอกินาว่า ได้กลับมาคู่นึงด้วย หน้าตาทะเล้นดี
เดินทะลุร้านค้าออกมาอีกทางจะมีทางขึ้นไปด้านบน ที่นี่เค้าทำทางเดินดีมากนะ บังคับให้ผ่านร้านของฝากตลอด 55
ขึ้นมาเจอร้านดักอีก 555 เสียทรัพย์อีกหล่ะ ร้านด้านบนนี้จะเป็นที่นั่งพักประมาณว่าเดิน+ทำกิจกรรมเหนี่อยก็มาแวะนั่งทานน้ำทานขนม
มีซาตะอันดากิด้วย แต่เราไม่ได้ซื้อกินหรอกนะ มีในบุฟเฟต์หลายมื้อเลย
ใกล้ ๆ กันมีมุมของฝากด้วย ออกแนวพวกของกินอีกหล่ะ แต่ก็ชอบนะ ขนมของที่นี่ก็จะเน้นทำจากวัตถุดิบขึ้นชื่อ มีคิทแคทมันม่วงด้วย
ขนมแนวลูกอม
ปลาหมึกก็น่ากินนะ
ข้าวเกรียบกุ้งอันนี้อร่อยมาก Ebisenbei ของ Shimatogarashi เค้ามีให้ชิมเลยไปยืนชิม กลิ่นกุ้งมาเต็ม กรอบกรวม ๆ มีรสเผ็ดนิด ๆ ก็เลยจัดกลับมาเป็นของฝากตัวเอง ชอบ ๆ มี 2 ขนาด 18 ชิ้น 648 เยน และ 30 ชิ้น 1,080 เยน ที่เที่ยวที่แรกก็เสียตังค์แระ อิอิ
ออกจากร้านมาก็จะเจอโรงย้อมผ้า ในโบชัวร์เขียนว่าสีที่ใช้ย้อมผ้ามาจากต้นไม้ชนิดหนึ่ง ย้อมแล้วจะออกมาเป็นสีน้ำเงินหรือสีฟ้าเหมือนกับสีน้ำทะเลของโอกินาว่า
อันนี้คืออะไรไม่แน่ใจ ได้แต่เดินผ่านแล้วถ่ายไว้ แต่ดูในแผนผังแถว ๆ นี้จะมีโซนหัตถกรรมกระดาษสาเดา ๆ ว่าน่าจะใช่นะ
โซนนี้น่าจะเป็นพวกหัตถกรรมทอผ้า
ช่วงนี้เริ่มเดินแบบทำเวลาแล้วเพราะใกล้ถึงเวลาแสดงโชว์เลยต้องเร่งสปีดการเดินหน่อย ก็จะไม่ค่อยได้แวะนะคะ แค่เดินผ่าน มุมนี้พอมาดูทีหลังถึงรู้ว่าเป็นร้านบุกุบุกุชายะ เป็นชาสไตล์โอกินาว่ามีฟองขาว ๆ ฟู ๆ โปะบนชา เสียดายมากอยากมาชิมอีกซักรอบแต่ไม่รู้ว่ามีด้วยนี่สิ ใครอยากรู้ว่าว่าบุกุบุกุชาเป็นยังไงดูได้จากรีวิวเก่าของเราจ้า //www.bloggang.com/mainblog.php?id=cheunmeun&month=05-04-2014&group=16&gblog=10
หลังนี้ไม่ได้เดินเข้าไป แต่แอบส่องเห็นมีคุณลุงนั่งเล่นซันชิน(shashin)อยู่หน้าบ้าน คุ้น ๆ ว่าสามารถเข้าไปทำซันชินฝีมือเราเองกลับไปเป็นของที่ระลึกได้ (มีค่าใช้จ่าย)
ระหว่างทางมองเห็นตู้หยอดเหรียญรีบบึ่งเข้าไปก่อน นึกว่าตู้กาชาปองที่แท้เป็นตู้หยอดเหรียญซื้ออาหารปลา 55
มุมของที่ระลึกเป็นพวกเสื้อยืด กระเป๋าผ้าเพนท์ลาย
เดินเลยมาอีกหน่อยจะเป็นส่วนของ Ryukyu Studio เป็นการใส่ชุดบิงกาตะถ่ายรูป อันนี้เราเคยเห็นเพื่อนเรามาถ่ายกันที่นี่ก็หมายมั่นปั้นมือว่าจะมาถ่ายมั่ง
เลี้ยวเข้าไปเลยค่ะ คุยกับเค้าไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ก็ชี้ ๆ ป้ายราคา 500 เยน จนท.เค้าจะเอาตะกร้ามาให้เราใส่พวกของใช้ส่วนตัวแล้วให้เราเข้าไปเลือกสีชุด แล้วจนท.ก็จะมาแต่งตัวให้ แป๊บเดียวเรียบร้อย
เค้าถ่ายโดยใช้กล้องของเราเองนะคะ ถ่ายให้ประมาณ 4 รูป ส่วนกล้องของทาง Studio ก็มีเค้าจะแต่งภาพให้เล็กน้อยถ้าเราจะเอาก็จ่ายเพิ่ม ไม่แน่ใจราคาเท่าไหร่ เพราะเราไม่ได้ซื้อกลับมาค่ะ ในรูปนี่ดอกไม้ตรงเอวเป็นหมวกนะคะ ตอนแรกเพื่อนถามดอกไม้ทำไมใหญ่จัง ดู ๆ แล้วเหมือนเข็มขัดเนอะ 55
บริเวณนี้เป็น Okinawa Culture Center ด้านในเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณ ความเป็นมาของอาณาจักรริวกิว และมีซีซาร์มากมายให้ชม เห็นในโบชัวร์แจ้งว่าจะเข้าไปชมส่วนนี้ต้องเสียค่าเข้าชมเช่นกัน จริง ๆ อยากเข้านะแต่ไม่มีเวลา มากับทัวร์ก็แบบนี้แหละ เที่ยวได้ไม่จุใจเลย ข้ามตลอดดดดด
จริง ๆ จากจุดนี้เดินไปอีกหน่อยก็จะเจอโรงกลั่นเหล้า เห็นแว๊บ ๆ ว่ามีงูดองเหล้าด้วย แต่ใกล้เวลาการแสดง Eisa แล้วก็เลยต้องเดินผ่านไปโดยปริยายแล้วรีบจ้ำให้ถึงลานแสดง Eisa ไปถึงมีนักท่องเที่ยวจับจองที่นั่งกันกว่าครึ่งแล้ว เราก็เดินเข้าไปหาที่นั่งหน้า ๆ จะได้ดูการแสดงได้ใกล้ชิด แต่ไม่มีภาพมาฝากนะคะ ที่นี่เค้าห้ามถ่ายรูปและภาพเคลื่อนไหวขณะทำการแสดง แต่ถ้าจบการแสดงแล้วเข้าไปถ่ายรูปแอ๊คท่ากับนักแสดงได้ค่ะ (เราอดเพราะทัวร์เรียกให้ไปทานข้าว) การแสดงถ้าให้อธิบายก็เหมือน ๆ กับการโชว์กลอง+ซันชิน+การเชิดสิงโต ดูแล้วรู้ได้เลยว่าเป็นวัฒนธรรมที่มีรากฐานมาจากทางเมืองจีน
การแสดง Eisa มีวันละ 4 รอบ คือ 10.30 น. / 12.30 น. /14.30 น. และ 16.00 น. นอกจากการแสดง Eisa แล้วยังมี Habu Show หรือโชว์งู มีวันละ 5 รอบ 11.00 น. / 12.00 น. / 14.00 น. / 15.30 น. และ 16.30 น. ใครอยากดูการแสดงไหนก็ไปได้ตามเวลาและสถานที่แสดงที่ระบุในโบชัวร์จ้า
เดี๋ยวตอนหน้าจะพาไปทานอาหารบุฟเฟต์กันค่า
Create Date : 07 เมษายน 2558 |
Last Update : 22 เมษายน 2558 12:43:29 น. |
|
14 comments
|
Counter : 4961 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Hathi วันที่: 7 เมษายน 2558 เวลา:21:09:18 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 8 เมษายน 2558 เวลา:14:45:31 น. |
|
|
|
โดย: mariabamboo วันที่: 10 เมษายน 2558 เวลา:8:57:37 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 11 เมษายน 2558 เวลา:9:37:34 น. |
|
|
|
โดย: Tristy วันที่: 11 เมษายน 2558 เวลา:11:03:58 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 12 เมษายน 2558 เวลา:5:07:09 น. |
|
|
|
|
|
|
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน
|
|
|
|
|
|
|