วันนี้เป็นการเดินทางท่องเที่ยววันที่ 2 ในโอกินาว่าของเราค่ะ
โปรแกรมยาวเหยียดเหมือนเดิม แต่วันนี้จะเที่ยวอยู่ในเมืองนาฮะกันนี่แหละ
เช้ามาก็ทานอาหารเช้าที่รร.อิ่มท้องแล้วก็ออกเดินทางได้ค่า
พาหนะของเราวันนี้ยังคงใช้รถตู้เช่นเคย
ที่แรกที่เราจะไปคือปราสาทชูริ หรือชูริโจ ใครมาโอกินาว่าแล้วไม่มาที่นี่พลาดเลยนะคะ
แม้แต่คนญี่ปุ่นเองยังอยากมาที่นี่เลย ข้อมูลจาก marumura อีกแล้วครับทั่น อิอิ
10 อันดับปราสาทที่คนญี่ปุ่นอยากไปมากที่สุด ปราสาทชูริอยู่อันดับ 3 จ้า
การเดินทางไปที่นี่ถ้าขับรถไปก็ใส่ชื่อสถานที่หรือใส่เบอร์โทรลงไปได้เลย เดี๋ยว GPS นำไปเช่นเคย
Shurijo Castle : 1-2 Kiniyo-cho, Shuri, Naha City Okinawa 903-0815
TeL : 098-886-2020
ส่วนใครที่เที่ยวแบบไม่มีรถก็นั่งโมโนเรลลงสถานีชูริ (Shuri Eki)
แล้วเดินอีก 15 นาที ตามแผนที่เลยค่ะ
ถ้าไม่อยากเดินเยอะก็นั่งบัสสาย 8 ไปลงที่ Shurijo-mae เดินต่ออีกแป๊บเดียวก็ถึงค่ะ
เวลาเปิด-ปิดของที่นี่
เม.ย. มิ.ย., ต.ค. พ.ย. : 08.30 19.00 น.
ก.ค. ก.ย. : 08.30 20.00 น.
ธ.ค. มี.ค. : 08.30 18.00 น.
ในรูปเป็นแผนผังโดยรอบของปราสาทค่ะ ค่อนข้างกว้างเลยทีเดียว
ที่นี่เค้ามีกิจกรรมสนุก ๆ ให้เล่นด้วยค่ะ
Shuri Castle Stamp Rally จะเป็นแผ่นพับสำหรับสะสมตราประทับที่อยู่ตามจุดต่าง ๆ
โดยจะมี 2 เส้นทาง คือแบบสั้นใช้เวลาประมาณ 30 นาที และแบบละเอียดยิบใช้เวลา 1.30 ชม.
เรามีเวลาไม่มากนะเลยต้องใช้เส้นทาง 30 นาทีค่ะ แต่ก็สะสมตราไปได้แป๊บเดียว
เจอกรุ๊ปทัวร์ใหญ่ ๆ มาพร้อม ๆ กัน เลยเลิกเล่นวิ่งนำหน้าไปดีกว่า อิอิ
เข้ามาจุดแรกตรงนี้จะมีมรดกโลก 1 จุด
มรดกโลกที่ว่านี้ก็คือประตูหิน Sonohyan-utaki Ishimon
ซึ่งสร้างจากการแกะสลักหินปูนโดยช่างในอาณาจักรริวกิว ถือว่าเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง
ระยะทางกว่าจะถึงตัวปราสาทไกลพอสมควร
แต่เราชอบนะ มีวิวมีปราสาทชั้นนอกให้ได้เดินชมและถ่ายรูปกัน ด้านหน้าประตูในรูปเป็นที่ประทับตราค่ะ จะมีกระจายอยู่ทั่วทุกจุดเลย
มองลงไปด้านล่างหน่อย วิวสวยเชียวค่ะ
เดินเข้าไปอีกจะถึงจุดจำหน่ายตั๋วเข้าชมปราสาท
เลือกซื้อได้จากตู้อัตโนมัติหรือจากจนท.
ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่คนละ 800 เยน เด็กโต 600 เยน
เด็กเล็ก 300 เยน ต่ำกว่า 6 ขวบเข้าฟรีค่ะ
ทางเข้าอยู่ด้านหน้าไม่ไกลจากที่จำหน่ายตั๋วค่ะ
แผนผังของตัวปราสาทแบ่งเป็น 4 อาคารหลัก
ด้านหน้าสุดเป็นส่วนของทางเข้า Houshinmon
ขวามือคือ Nanden/Bandokoro
อาคารหลักตรงกลางคือ Seiden และซ้ายมือคือ Hokuden
แอบแวะเข้าห้องน้ำก่อนจะเข้าปราสาท ก๊อกน้ำที่นี่เก๋ดีนะ
มาถึงแล้วปราสาทซูริ พอดีว่าตัวปราสาทจะหันหน้าไปทางทิศตะวันตก
เราไปช่วงสาย ๆ แดดก็จะอยู่ด้านหลังปราสาทพอดี เลยออกจะย้อนแสงไปหน่อย
ปราสาทชูริจะมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนปราสาทใด ๆ ในญี่ปุ่น
เพราเป็นสถาปัตยกรรมแบบโอกินาว่าผสมกับจีน
ปราสาทหลังนี้เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นใหม่ เนื่องจากของเดิมถูกทำลายลงในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ถ่ายรูปกับปราสาทชูริจนหนำใจแล้วก็เดินเข้าไปในอาคารเพื่อชมศิลปะวัฒนธรรม
ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ของอาณาจักรริวกิว
จุดนี้ต้องถอดรองเท้าใส่ถุงแล้วหิ้วเข้าไป และด้านในเค้าไม่ให้ถ่ายรูปนะคะ
แต่มีตรงจุดที่เป็นบัลลังค์เนี่ยรู้สึกว่าเค้าจะอนุญาติให้ถ่ายรูปได้นะคะ เพราะเห็นนักท่องเที่ยวยืนถ่ายกันเต็มเลย แล้วเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ตรงนั้นเค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร
อาคารจำลอง
ฐานรากอาคารเดิมที่สร้างของใหม่ขึ้นหลังจากโดนสงคราม
พอเดินมาที่อาคารซ้ายมือ คือ Hokuden
ก็จะอนุญาติให้ถ่ายรูปได้แล้ว ด้านในอาคารจะแสดงเกี่ยวกับเหตุการ์ณสำคัญ ๆ ในอดีต
สุดท้ายก็จะเป็นร้านขายของที่ระลึก
ของที่ระลึกหลากหลายเหมือนเคยค่ะ
น่าซื้อทั้งนั้นเนอะ
เสื้อยืดที่นี่จะออกจีน ๆ หน่อย
สำหรับใครที่มาเที่ยวที่นี่ไม่อยากให้พลาดไฮไลต์อีกอย่าง นั่นก็คือ
การฟ้อนรำแบบราชสำนักริวกิว (Bingata Dance)
ที่นี่เค้าจะมีการแสดงเป็นรอบ ๆ คือ11.00, 14.00, 16.00
เราเห็นกลุ่มวัฒนธรรมเค้าไปตรงกับช่วงที่มีการแสดงพอดี เลยได้ดู
ส่วนกรุ๊ปเราเป็นกลุ่มอาหารก็กินแห้วไปแทนละกันนะ อดดูค่าต้องรีบไปที่อื่นต่อ แง่งงงงงง ไว้มีโอกาสไปใหม่จะไม่พลาดเลยคอยดู 55
ตอนหน้าไปมึนเมากันต่อที่โรงงานผลิตเหล้าอาวาโมริ ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากปราสาทชูริจ้า