เลยรีบหยิบรูปมาปัดฝุ่นเคลียร์ของเก่าให้จบก่อน
ลงรีวิวร้านอาหารไปครบละ เหลือแต่ที่เที่ยว แหะ ๆ
ทริปนี้ 3 วัน 2 คืนเช่นเคย เดินทางด้วยนกแอร์ ขึ้นที่ดอนเมือง
ค่าตั๋วคนละ 1,070 บ/เที่ยว เราเลือกนกแอร์เพราะราคาไม่แพงมาก โหลดกระเป๋าฟรี
และมีอาหารว่าง+เครื่องดื่มให้ แต่ตอนนี้ราคาตั๋วถูกสุดไม่มีแล้วนะ
จะมีแค่หิ้วกระเป๋าขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 7 กก.+ น้ำฟรี 1 ขวดเล็ก
ถ้าจะโหลดกระเป่าต้องจ่ายเพิ่ม
ไปเชียงใหม่สิ้นเดือนนี้เลยได้ลองเปลี่ยนสายการบินเลย 5555
ไฟล์ทนี้บินเครื่อง 737 ที่นั่งแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 3 ที่นั่ง
ไม่กว้างไม่แคบจนเกินไป
นัดรับรถ-คืนรถที่สนามบินเชียงใหม่นี่แหละ เช่าวันละ 1,500 บ. 3 วัน
ถ้าซื้อพวกคูปองรถเช่าตามงานท่องเที่ยวจะถูกกว่านี้
แต่นี่ไม่มีใครซื้อไว้เลย จ่ายเต็มไปจ้า
จุดหมายแรกคือไปกินก่อนเลยค่า มาถึงก็สาย ๆ แล้ว จัดอาหารเที่ยงเลยละกัน
ร้านแรกในทริปคือร้าน โอ้กะจู๋ ที่ตอนนี้บุกกทม.เริ่มมีหลายสาขาแล้ว
ฮอตฮิตมากมาย ได้ข่าวว่าคิวยาวทุกสาขาเลย
จากนั้นแวะไปจิบกาแฟชื่อดังของเชียงใหม่กันที่
อิ่มท้องแล้วขอแวะวัดพระธาตุดอยคำซักหน่อย
นี่ไปเชียงใหม่แวะวัดนี้มา 2 รอบแล้วยังไม่สำเร็จ
สงสัยเราจะบนไม่รู้เรื่องวกไปวนมา
สิ้นเดือนนี้ไปแก้ตัวอีกรอบค่า อิอิ
เวลาบนต้องบนด้วยมะลิ จะกี่พวงก็ว่าไป พอสำเร็จแล้วก็มาแก้บน
คนที่เค้าบนแล้วได้ก็มาแก้บนกันมีทั้งหลักร้อยหลักพัน หลักแสนก็มีมาแล้วนะ
แต่เรายังไม่มีโมเมนท์นั้น เศร้าแปร๊บบ 555
อย่าลืมแวะชมวิวมุมสูงกันด้วยนะคะ
ก่อนเข้าที่พักแวะซื้อไอศครีมคลายร้อนกันนิดนึง
จากวัดก็มาเช็คอินเข้าที่พัก
พักผ่อนกันซักนิดเย็น ๆ ก็ออกไปหาข้าวกินที่
แล้วกลับมาเดินช็อปปิ้งแถวประตูท่าแพ
ของซื้อของขายเพียบ เดินเมื่อยจนต้องแวะนวดฝ่าเท้ากันเลย
กลับที่พักสลบแยกย้ายกันนอนค่า
มื้อเช้ามาฝากท้องแถวนุเสาวรีย์สามกษัตริย์
กลับมาแถวนิมมานเพิ่มคาเฟอีนเข้าเส้นเลือดซักหน่อย
ร้านนี้คอกาแฟต้องห้ามพลาด
หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ถนนแม่ริม - สะเมิง
ไปเที่ยวกันที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
ค่าเข้าผู้ใหญ่คนละ 40 บ. + ค่ารถยนต์คันละ 100 บ.
แผนผังของสวนพฤกษศาสตร์ทั้งหมด (เนื้อที่ประมาณ 6,500 ไร่)
ภายในสวนพฤกษศาสตร์มีหลายจุดให้แวะให้เที่ยวชม
แต่เราไม่ได้เที่ยวครบทุกจุดนะ
จุดแรกที่แวะคือ Canopy Walks หรือทางเดินเหนือเรือนยอดไม้
ความยาวประมาณ 369 ม. สูงประมาณ 20-25 ม.
ก่อนเข้าไปก็ศึกษากฎกติกากันซักหน่อย
ไม่ควรสวมส้นสูงนะคะ เพราะทางเดินไม่เหมาะกับรองเท้าแบบนั้น
ทางเดินเป็นตระแกรงตามภาพเลย แต่ทำจากเหล็กก็ดูทนทานดีค่ะ
บางช่วงจะมีพื้นและกำแพงเป็นกระจก ก็จะหวาดเสียวนิด ๆ แต่ไม่อันตรายใด ๆ
ระหว่างทางก็สามารถศึกษาต้นไม้และสัตว์ที่อยู่รอบ ๆ ได้
จากนั้นก็แวะไปที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ (Natural Science Museum)
กลุ่มเราขับเลย Glasshouse Complex ไปอ่ะ ใครมีเวลาอย่าลืมแวะด้วยนะคะ
พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติก็จะจัดแสดงนิทรรศการความรู้ต่าง ๆ
เข้าไปทีแรกเหมือนย้อนวัยไปเป็นเด็ก นึกถึงตอนไปทัศนศึกษาพิพิธภัณฑ์
ไฮไลต์ของที่นี่อยู่ตรงนิทรรศการภาพถ่าย 3 มิติ และมุมถ่ายรูปนี่แหละ มีเยอะมาก
พวกบ้ากล้องกดกันไปเป็นร้อยรูป 555
อยากเที่ยวต่อแต่ท้องร้องแล้วก็เลยขับไปฝากท้องกันที่
จากนั้นก็ขึ้นไปที่ม่อนแจ่ม ไปทุกครั้งก็ไปเช่าชุดชาวเขาใส่ถ่ายรูปนะ
อุดหนุนซื้อของนิด ๆ หน่อย ๆ
ใครอยากซิ่งฟอร์มูล่าวันม้งแบบในรูปก็ได้นะ
นั่งคนเดียว 50 บ. 2 คน 80 บ.
ขึ้นไปจิบชา-กาแฟชมวิวสวย ๆ กัน
ชา-กาแฟเฉย ๆ นะ แต่วิวคือดียยย
มาหน้าร้อนก็สวยไปอีกแบบจ้า
มื้อเย็นรีบบึ่งกลับมาที่นิมมานมากินอาหารเหนือกันที่
อิ่มแสนอิ่มแต่ยังสามารถไปกินขนมกันต่อได้
กลางคืนเพื่อนลากออกมา Warm Up อันนี้ไม่มีรูปแระ อิอิ
มื้อเช้ากินแถวนิมมานค่ะ จริง ๆ ร้านยังไม่เปิดแต่ก็ใจดีให้กลุ่มคนหิวโซได้กิน 55
ขึ้นดอยสุเทพไปไหว้พรธาตุดอยสุเทพกันค่ะ
ปกติมาที่นี่เดินขึ้นตลอด ครั้งนี้เพื่อนพาขึ้นรถรางไฟฟ้าก็ไม่แพงนะคนละ 20 บ.
ใครนุ่งสั้นต้องเช่าผ้าสวมทับนะคะ
มาแล้วต้องแวะ สวยงามมาก ๆ
ขากลับเดินลงมาชิลล์ ๆ ไม่เหนื่อยเท่าเดินขึ้นจ้า
แวะกาดต้นพยอมซื้อของฝาก ส่วนมากเราจะแวะร้านแม่หนิม
หมูกระจกเอาจริง ๆ แล้วซื้อร้านไหนก็ได้แหละ เค้าเอามาแพ๊คติดยี่ห้อร้านกันเอง
หรือจะซื้อจากร้านที่ทอดใหม่ ๆ ก็ได้ อร่อยดี
ชานี่ก็ซื้ประจำมีทั้งแบบ 3 ห่อร้อย และแบบที่แพงกว่านั้น
มะม่วงตากแห้งอร่อย นี่ว่าจะไปซื้ออีก
ส่วนพวงกุญแจนกฮูกซื้อที่ม่อนแจ่มจะถูกกว่าด้านล่างนิดหน่อยค่า
มื้อสุดท้ายก่อนไปสนามบินแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มปตท.กองบิน 41 แล้วก็ฝากท้องกันที่นี่เลย
ขากลับใช้บริการนกแอร์เช่นเคยค่า
ถึงที่หมายโดยสวัสดิ์ภาพ เก็บน้ำหนักกลับมาเป็นของฝากเพราะทัวร์กินกันเหลือเกิน
แต่ยังไม่จุใจ ปลายเดือนนี้เจอกันใหม่นะเชียงใหม่
See Ya
พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติน่าสนใจมาก