Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2557
 
12 สิงหาคม 2557
 
All Blogs
 
จากใจแม่ถึงลูก ‘น้อย โพธิ์งาม’ รัก ‘หญิง-รฐา’ ยิ่งกว่าชีวิตตัวเอง



วันแม่แห่งชา่ติปีนี้ "บันเทิงไทยรัฐออนไลน์" ชวนแม่ลูกคนดัง น้อย โพธิ์งาม และหญิง-รฐา มาพูดคุยถึงความรักความผูกพันประสาแม่ลูกที่มีให้กันมายาวนาน งานนี้แม่น้อยเผยเคล็ดลับเลี้ยงลูกสาวจนเป็นคนเก่งอีกคนในวงการบันเทิงด้วย...

วันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปี นอกจากเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ แล้ว คนไทยทุกคนรู้กันดีว่าวันนี้ยังถือเป็น “วันแม่แห่งชาติ” วันดีๆ ที่ลูกๆ ทุกคนได้แสดงความรักที่มีต่อคุณแม่ ผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูจนเติบโตมาถึงทุกวันนี้ “บันเทิงไทยรัฐออนไลน์” เลยอาสาพาคู่แม่ลูกคนดังอย่างนักแสดงตลกอาวุโส น้อย โพธิ์งาม และนักร้องนักแสดงสาวเซ็กซี่มากฝีมือ หญิง-รฐา โพธิ์งาม มาเปิดใจถึงความรักความผูกพันตามประสาแม่ลูกที่มีให้กันมายาวนานหลายปี นอกจากนี้คุณแม่คนเก่งยังเผยเคล็ดลับในการเลี้ยงลูกที่ทำให้สาวหญิงเติบโตเป็นผู้หญิงเก่งและกตัญญูอีกคนของวงการบันเทิงบ้านเราอีกด้วย

วันแม่ปีนี้เป็นยังไงบ้าง มีอะไรเป็นพิเศษไหม?
แม่น้อย : ก็เห็นเขาให้ของขวัญเป็นรถค่ะ ตอนนี้สั่งไปแล้ว หญิงเคยบอกว่าถ้าหญิงได้เงินก้อนนึงจะซื้อรถให้แม่ใช้ เราก็บอกว่าไม่เอาหรอก พอแล้ว แค่นี้ก็เยอะแล้ว แต่หญิงก็บอกว่าหญิงอยากทำให้แม่ค่ะ
หญิง : คือที่ซื้อรถคุณแม่ให้เพราะคุณแม่อยากได้ (หัวเราะ) แต่ตอนนี้รถยังไม่ได้ค่ะ ต้องรอประมาณเดือน ต.ค.ค่ะ เป็นรถยุโรปค่ะ ราคาก็ 7 หลักค่ะ ถามว่าหนักใจไหมเพราะราคาค่อนข้างเยอะเหมือนกันก็ไม่นะ หญิงรู้สึกว่าเราทำงาน ตรงนี้ก็เป็นสมบัติของเราค่ะ ถามว่าปกติในวันแม่ทุกปีมีของขวัญพิเศษให้ตลอดไหม จริงๆ ก็ไม่ได้เจาะจงว่าเฉพาะวันแม่นะคะ ปกติแม่อยากได้อะไรก็ให้อยู่แล้วค่ะ ส่วนมากวันแม่ทุกปีจะไปกินข้าวดูหนังปกติ ชีวิตง่ายๆ ค่ะ ส่วนวันอื่นๆ ถ้าเขาอยากได้อะไรก็ให้อยู่แล้ว ไม่ได้มองว่าต้องให้เฉพาะวันแม่ค่ะ ทุกวันเป็นวันพิเศษของหญิงกับแม่อยู่แล้ว เพียงแต่วันแม่อาจจะพิเศษกว่าหน่อย เราอาจจะพาเขาไปกินข้าว ไปไหว้พระ ให้เวลาเขาเต็มๆ 1 วัน
แม่น้อย : จริงๆ ใจแม่ไม่ได้อยากได้อะไรหรอก แม่อยากให้ลูกแข็งแรง มีงานแล้วก้าวหน้าไป ให้ประชาชนรักเขาตลอดไป ขอให้เขาเป็นที่รักของคนทั่วไปแม่ก็ดีใจแล้วค่ะ ถามว่าปลื้มไหมก็ปลื้มค่ะ ปลื้มที่สุดที่เวลาไปเจอญาติผู้ใหญ่เขาจะบอกว่าทำไมถึงมีลูกดีแบบนี้ ลูกสวย น่ารัก สอนลูกยังไงถึงเป็นแบบนี้

มีวิธีเลี้ยงลูกยังไงถึงทำให้หญิงเป็นผู้หญิงเก่งแบบนี้?
แม่น้อย : จริงๆ เขาเก่งด้วยตัวเองค่ะ แต่บางคนก็บอกว่าไม่ใช่นะ เขาดูลูกต้องดูที่แม่นะ แม่เนี่ยเก่งนะ เราก็บอกว่าไม่ใช่หรอกค่ะ น้อยมีลูกดี เขาคิดเองหมด ก็เป็นเพราะเราทำอะไรให้เขาเห็น สิ่งอื่นใดที่จะทำให้ลูกเราดีเนี่ย เราก็ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้เขาก่อน ให้ลูกไม่ตำหนิเราได้ แล้วพอเราพูดคำเดียวเขาจะเกรงใจเรา เป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ อย่างตอนเด็กเขาใช้เคโระ ซึ่งเราก็โอเค แต่มันเป็นของแพงสมัยก่อน แล้วเขาทำหายได้ทุกวัน พอตื่นเช้ามาเขาก็ขอตังค์ซื้อไม้บรรทัดกับดินสอเคโระ เราก็ถามว่าแล้วที่เคยซื้อไปหายไปไหนหมด เขาก็บอกว่าเพื่อนยืมไปไม่คืนให้เลย เราก็บอกว่าฟังนะหญิง แม่ไม่ได้ว่านะ เอาเงินไปซื้อเลย แต่หญิงต้องรักษาของ ถ้าหญิงไม่รักษาของเนี่ย หญิงเคยบอกว่าอยากนอนอยู่กับคุณแม่เหมือนคนอื่นที่ได้นอนกับคุณพ่อคุณแม่ตอน 2 ทุ่ม หญิงได้นอนกับแม่ตอนตี3 เพราะแม่เลิกจากตลกมา ถ้าหญิงทำอย่างนี้ รับรองหญิงจะไม่ได้นอนกับแม่ตั้งแต่ 2 ทุ่ม แล้วเราไม่ใช่แค่เป็นคุณแม่อย่างเดียว เวลาเขามีปัญหาเรื่องเพื่อนฝูงเขาในวัยรุ่น เราก็เป็นที่ปรึกษาให้เขาด้วย

มีอะไรบ้างที่หญิงจำมาจากแม่น้อยแล้วนำไปใช้ในการใช้ชีวิต?
หญิง : ตั้งแต่เด็กคุณแม่สอนให้เรารู้จักความพอเพียง สอนให้เรารู้จักไม่เลือกงานค่ะ มีความอดทนกับการทำงาน สอนให้เรามีความสู้ค่ะเพราะว่าจริงๆ แล้วทุกงานที่เข้ามามันต้องใช้พลังใช้ความตั้งใจ แม่เป็นตัวอย่างความตั้งใจในการทำงาน ตั้งใจในการใช้ชีวิตและสู้คน หญิงว่าหญิงได้ตรงนี้มาจากแม่ และก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เรามีโอกาสในการทำงานมากขึ้นทุกวัน เพราะเวลาเราทำงานกับใคร เขาเห็นถึงความตั้งใจ เห็นถึงความสู้ของเรา เขาก็เห็นว่าเราเต็มที่กับงานนะ
แม่น้อย : เยอะมากเลย อย่างคำพูดที่แม่บอกว่า "คนฉลาดต้องอยู่ในใจ" ต้องพูดน้อย ถ้าพูดออกไปมากๆ แล้วระบายเยอะเกินไปจะเป็นคนโง่ มีอะไรก็เก็บไว้ในใจ คิดอยู่ในใจ แล้วลูกจะดีขึ้น อย่างตอนเขาเด็กๆ เขามีเพื่อนที่โกรธเขา แม่สอนเขามา เขาก็จำจากตรงนั้นตลอด คนฉลาดอยู่ที่ใจจริงๆ ค่ะ ขึ้นอยู่กับการตั้งสติของเราว่าจะพูดจะทำอะไรต้องคิดก่อนที่จะทำค่ะ

รู้สึกยังไงที่คนมองว่าแม่น้อยเป็นผู้หญิงเก่ง เลี้ยงลูกจนได้ดี?
แม่น้อย : จริงๆ แต่ก่อนมีคนว่าแม่นะ พอเราเอาใจลูก เขาก็หาว่าแม่เวอร์ เลี้ยงลูกแบบเวอร์ ทำไมต้องคอยรับคอยส่งลูกด้วยตัวเอง อดนอนแทบตาย เล่นตลกก็เลิกดึกแล้ว แต่มันเป็นความสุขของแม่ เป็นความสุขของเราที่ได้ขับรถไปส่งเอง เหมือนกับเรารักสามีน่ะ พอทำกับข้าวให้เขากินได้เยอะก็มีความสุข นี่คือตัวอย่างของเราที่ทำให้ลูกไม่ก้าวร้าวกับเราได้ ถ้าเราไม่ทำอะไรผิดให้ลูกมาว่าเราได้ เขาก็ไม่กล้าว่าเราได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับตัวเรา
หญิง : แต่ตอนนี้สลับที่กันแล้วค่ะ (ยิ้ม) ทำให้หญิงเข้าใจแล้วว่าคนเป็นแม่อยากสร้างสิ่งดีๆ ที่สุดให้กับลูก ตอนนี้หญิงมีหลาน หญิงก็อยากให้หลานได้เรียนโรงเรียนดีๆ เจอสังคมดีๆ หญิงเข้าใจแล้วว่ามันไม่ได้มากน้อยหรอก เวลาเราเป็นคนที่ต้องดูแลครอบครัวเราจะเข้าใจ ถ้าเราไม่เคยดูแลใคร เราไม่เคยเอาชีวิตเราไปผูกไว้กับใครเราจะไม่เข้าใจมันหรอก เมื่อวันนึงเราเป็นหัวหน้าครอบครัว เราจะรู้ว่าเฮ้ย มันต้องมี มันต้องทำ เพราะที่สุดแล้วจะรู้ว่าความมั่นคงของครอบครัวคือความสุขของเขา เราอาจจะต้องยอมเหนื่อยเพื่ออะไรบางอย่าง ความสมบูรณ์แบบของครอบครัว หญิงว่าไม่มีอะไรมากน้อยค่ะ แต่ว่าแค่พอดีๆ นะ

คนมองว่าหญิงเป็นลูกกตัญญู ทำงานเก่ง ช่วยเหลือครอบครัวตลอด?
หญิง : ไม่หรอกค่ะ หญิงรู้สึกว่าทุกคนทำงานเพื่อพ่อแม่อยู่แล้ว หญิงไม่รู้สึกว่าการที่เราเลี้ยงพ่อแม่จะพิเศษกว่าคนอื่น เพียงแต่ว่าชีวิตหญิงอาจจะมีโอกาสได้ทำอะไรมากกว่า เนื่องจากว่าชีวิตหญิงเริ่มจากติดลบค่ะ ไม่ได้เริ่มจากศูนย์ มันก็แค่นั้นเอง หญิงว่า ณ ปัจจุบันนี้บางคนไม่มีโอกาสเท่าหญิง บางคนทำงานน้อยกว่าหญิง เขายังกตัญญูกว่าหญิงก็มีค่ะ บางคนทำงานหนักกว่าหญิงด้วยซ้ำ ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นค่ะ

แต่หลายคนมองว่าครอบครัวดาราน่าจะมีโอกาสมากกว่า น่าจะสบายกว่าคนอื่น ตรงนี้เรามองยังไง?
แม่น้อย : ไม่เลย จริงๆ หญิงไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย ไม่ได้อยากมีเบนซ์ มีบ้านหลังใหญ่ เขาอยากนอนกับแม่ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่ากว่าลูกจะกลับมาจากทำงาน เราก็นั่งคอย นอนดูทีวีตี 3 ตี 4 เขาก็จะบอกว่ายังถ่ายละครไม่เสร็จ คุณแม่นอนไปก่อนนะ แม่ก็นอนคอยตรงหน้าประตูนี่แหละ เรียกว่ากลับกันจากเมื่อก่อน ก็สนองกับที่เราทำกรรมไว้ตอนนั้น (ยิ้ม) เราก็มานึกถึงแม่ๆ ที่เขาห่างลูก มานึกถึงตอนที่ลูกเราเป็นแบบนี้ เราก็คิดว่าเมื่อก่อนตอนที่เรากลับมาจากทำงานดึกๆ เขาก็คงมาคอยเราแบบนี้เหมือนกัน ทำให้เราสำนึกได้เลยค่ะ ฉะนั้นพอมีเวลาว่างต้องทำอะไรพิเศษให้เขา อย่างบางทีก็ทำขนมผลไม้ให้ ถ้าไม่ได้กินที่บ้านก็ส่งขึ้นรถไปเลย ตอนนี้ก็มีเวลาว่างเยอะมาก แต่ก็ไม่เคยไปที่กองถ่ายนะ แม่ไม่เคยตามเขา เขาก็บอกว่าหนูต้องอดนอน แม่ก็รู้ว่ามันเหนื่อยแค่ไหน ก็ลำบาก หญิงทำงานก็ไม่อยากให้แม่พะวง ถ้ามาหญิงก็จะกังวลว่าแม่จะกินหรือยัง นอนหรือยัง ถ้าแม่อยู่บ้าน หญิงก็รู้ว่าแม่นั่งดูทีวีอยู่บ้านค่ะ แต่แม่ก็ยังทำงานอยู่นะคะ ยังทำส้มตำอยู่ค่ะ
หญิง : ความสบายมาพร้อมความเหนื่อยยากอยู่แล้วค่ะ ยิ่งราคาสูงขึ้น งานมันก็ต้องยากตามเลเวลค่ะ ดังนั้นก็ต้องใช้ความพยายาม หญิงเป็นคนทำงานจากความรู้สึกไง บางทีการใช้ความรู้สึกทำงานมันก็เหนื่อยนะ วันนี้ต้องเศร้า วันนี้ต้องหัวเราะยิ้มแย้ม บางทีเรื่องในใจเรามันมีอะไรให้คิดอีกเยอะ แต่ในการทำงานเราคิดไม่ได้ค่ะ มันก็ยากนะคะในแต่ละสายงาน บางคนทำงานหนักกว่าเรา ทำงานชั่วโมงมากกว่าเรา อาจจะได้ผลตอบรับในการทำงานน้อยกว่าเรา แต่เขามีความสุขมากกว่าเรา ได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวมากกว่า เขามีเวลาได้สังสรรค์กับเพื่อนได้คุยกับเพื่อนมากกว่า เราอาจจะต้องเป็นคนที่คุยกับตัวเองมากที่สุด ทุกอย่างมันคือการแลกค่ะ อยู่ที่ว่าเราแลกอะไร ต้องยอมรับความจริงค่ะ

ทุกวันนี้คุณแม่ยังมีอะไรที่ห่วงหญิงไหม?
แม่น้อย : กลัวเรื่องการเสียใจของเขา เขายังไม่เคยเสียใจ อย่างเรื่องความรักเราก็กลัวเรื่องนั้น เพราะเขายังไม่เคยเจอประสบการณ์ตรงนี้ไง ประเภทแอบชอบคนนั้นคนนี้ เรื่องหนุ่มๆ แม่ก็ไม่ได้สกรีนหรอก แต่ตัวเขาจะบอกเลยว่าเขาไม่ว่าง ทำแต่งาน ถามว่าต้องดูให้ด้วยไหมไม่ดูค่ะ เขายังไม่เคยบอกว่าคนไหนๆ มีแต่เรื่องงานอย่างเดียว มีแต่เอาลิสต์งานมาให้ดูแล้วบอกว่าพรุ่งนี้ไปต่างจังหวัด 2 วันกับผู้จัดการนะ เราก็จะเอารถไปเช็ก เปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้สะอาดหอม เวลาเขากลับมานอน เขาชอบบอกว่าชอบนอนที่บ้านเพราะเตียงหอมดี (ยิ้ม)
หญิง : จริงๆ คุณแม่ก็ห่วงทุกเรื่องแหละค่ะ (ยิ้ม) ส่วนเรื่องความรักคงอีกสักพักนึงค่ะ หญิงเชื่อเรื่องพรหมลิขิตค่ะ ถ้ายังมาไม่ถึงก็มาไม่ถีง ถ้ามันมาถึงแล้วหญิงอาจจะคุยแล้วคลิก แป๊บเดียวหญิงอาจจะแต่งเลยก็ได้ แต่ตอนนี้คงยังไม่มีค่ะ

สุดท้ายแล้วมีอะไรอยากบอกกันและกันไหม?
แม่น้อย : อยากบอกว่าแม่รักลูกที่สุด ยิ่งกว่าชีวิตแม่อีก แม่ยอมให้ลูกคนเดียวจริงๆ เรื่องที่อยากให้เขาปรับปรุงไม่มีเลย ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ดีที่สุดแล้ว เขาเป็นเด็กน่ารักมากๆ ค่ะ ไม่ทำความกลุ้มใจให้แม่เลยค่ะ ไม่ได้ยอลูกนะคะ แต่เป็นเรื่องจริงเลย เขาก็รู้ว่าแม่หน้าตาผ่องใสมาก ไม่มีเครียดเลย สบายใจค่ะ
หญิง : อยากบอกคุณแม่ว่าให้ดูแลสุขภาพ หญิงอยากให้คุณแม่อยู่กับหญิงไปนานๆ หญิงอยากให้คุณแม่สอนลูกของหญิงในอนาคต เพราะหญิงเชื่อว่าแม่ของหญิงจะเป็นคุณยายที่น่ารักคนนึง หญิงเชื่อว่าหญิงเลี้ยงลูกคนเดียวไม่ไหว หมายถึงว่าหญิงอาจจะมีสามี สามีอาจจะช่วยหญิงเลี้ยงลูกได้ในระดับนึง แต่ว่าเรื่องความคิด การมองโลก ความอดทน ความสู้ หญิงว่าแม่หญิงเป็นตัวอย่างที่ดี และหญิงอยากให้แม่อยู่ในวันที่ลูกเรารับปริญญา วันที่ลูกเราแต่งงานมีลูก หญิงอยากมีวันนั้นค่ะ อยากให้เขารักษาสุขภาพจะได้อยู่กับเราไปนานๆ ค่ะ

ได้ฟังเรื่องราวความรักความผูกพันของแม่ลูกคนเก่งไปแล้วทำให้นึกถึงสุภาษิตไทยที่ว่า “ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่” ที่ยังคงเป็นความจริงแท้แต่โบราณจนถึงปัจจุบันจริงๆ เพราะการที่ลูกจะเติบโตเป็นคนดีคนเก่งนั้นก็ต้องมาจากการปลูกฝังที่ดีและการเป็นแบบอย่างที่ดีของพ่อแม่ เหมือนอย่างที่แม่น้อยปลูกฝังและคอยเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสาวหญิง จนทำให้เธอกลายเป็นสาวเก่งยอดกตัญญูอีกคนในวงการบันเทิงบ้านเรานั่นเอง.


Create Date : 12 สิงหาคม 2557
Last Update : 12 สิงหาคม 2557 9:58:24 น. 0 comments
Counter : 1386 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.