เตรียมตัวอย่างไร เมื่อต้อง “เจาะเลือด”



          
ปัญหาเหตุการณ์บ้านเมืองขณะนี้คงพูดได้ว่าร้อนระอุพอๆ
กับโลกที่กำลังร้อนขึ้นๆ ทุกๆวัน
การดูแลรักษาสุขภาพอนามัยจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอันดับต้นๆ
ที่เราควรจะดูแลเอาใจใส่ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ
การป้องกันที่ถูกวิธี อีกทั้งยังมีเจ้าพวกโรคร้ายที่เกี่ยวกับโรคระบาด 
ยิ่งต้องทำให้ระมัดระวังให้มากขึ้น





          
เห็นอย่างนี้แล้วอดห่วงกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้
ที่ได้ทยอยกันเจาะเลือดเพื่อการบริจาคเลือด(10 ซีซี)
ซึ่งมีอัตราเสี่ยงต่อการติดเชื้ออย่างมาก โดยเฉพาะเชื้อเอสไอวี(HIV) และ
ไวรัสตับอักเสบประเภทบี ซึ่งการเจาะเลือดต้องได้รับการกระทำที่ถูกต้อง

          
.ท.พญ.อุบลวัณณ์  จรูญเรืองฤทธิ์  รองผอ.ศูนย์บริการโลหิต
สภากาชาดไทย
ได้ออกมาเตือนถึงการเจาะเลือด
ตามกฏกระทรวงว่าโลหิตที่เจาะถือว่าเป็นของติดเชื้อห้ามไม่ให้ผู้ใดกระทำการ
เพื่อให้แพร่กระจายของมูลฝอย
เพราะมีโอกาสแพร่กระจายของเชื้อโรคเพราะเชื้อบางอย่างทนอากาศร้อนหรือปะปนไป
กับน้ำดื่มเช่นไวรัสตับอักเสบชนิดบี เอชไอวี
เพราะเชื้อสามารถกระจายไปในที่สาธารณะได้

          
บุคคลที่สามารถจะทำการเจาะเลือดได้ต้องเป็นผู้บุคคลากรทางการแทพย์
ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล นักเทคนิคการแพทย์
ที่มีใบอนุญาตผู้ประกอบโรคศิลป์ และการเจาะเลือดคนละ 10
ซีซีนั้นก็ไม่ได้มากเกิน แต่ความพร้อมของร่างกายแต่ละคนต่างกัน
หากผู้เจาะมีโรคประจำตัวอยู่แล้วอาจมีการกำเริบของโรคที่เป็นอยู่แล้ว
เพราะร่างกายไม่พร้อม ถึงจะเอามาเพียงแค่ 10 ซีซีก็เหอะ
อาจส่งผลให้มีภาวะแทรกซ้อนตามมาดังนั้นอะไรที่เป็นความเสี่ยงต่อโรค
ทางเราก็อยากให้หลีกเลี่ยง

          
การรับบริจาคเลือดทั่วไปปกติอยู่ที่ 350-450 ซีซี
แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำการบริจาคได้ทุกคน
เพียงขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละบุคคล เช่นน้ำหนัก การพักผ่อน
ของผู้บริจาค

          
เพื่อความปลอดภัยของผู้ที่ต้องการบริจาคเลือด เรื่องที่สำคัญอันดับแรกๆ
ก่อนที่จะไปบริจาคเลือด คือ ต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี, ชนิดซี,
ซิฟิลิส, เชื้อ HIV อย่าง น้อย 3 เดือนก่อนการบริจาคเลือด
หลีกเลี่ยงการรับประทานหวานจัดหรือมันจัดก่อนการบริจาคเลือดเพราะจะทำให้
พลาสมาขุ่น ต้องอยู่ในสภาพแข็งแรงและสบายดี
หลีกเลี่ยงการบริจาคเลือดหากรู้สึกไม่สบาย หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ

          
หลังจากที่ได้บริจาคเลือดแล้ว ควร 1.
นอนพักสักครู่หลังการบริจาคเลือด ห้ามลุกขึ้นจากเตียงทันที
เพราะอาจเวียนศีรษะเป็นลมได้ 2.
ควรรับประทานขนมหวานและน้ำหวานที่จัดเตรียมไว้ให้ 3.
เปลี่ยนสำลีปิดแผลด้วยปลาสเตอร์ปิดแผล
ซึ่งควรดึงออกทิ้งในตอนเย็นของวันนั้น 4. หากมีอาการผิดปกติ ทั้งก่อน
ขณะหรือหลังการบริจาคเลือด เช่น หน้ามืดเวียนศีรษะ
ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบทันที 5.
หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับคุณสมบัติหรือประวัติที่ทำให้ไม่สามารถบริจาค
เลือดได้ กรุณาสอบถามจากเจ้าหน้าที่และขอคำปรึกษาแนะนำจากแพทย์ 6.
หากมีความผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นหลังการบริจาคเลือด

ควรติดต่อภาควิชาเวชศาสตร์การธนาคารเลือด โรงพยาบาลศิริราช ตึก 72 ปี ชั้น 3
หรือโทรศัพท์แจ้งที่หมายเลข 0 – 2412 – 2424

          
ทางที่ดีที่สุดเมื่อบริจาคเลือดเสร็จแล้วอย่าอยู่ในที่ร้อนจัด
หรืออบอ้าวจนเกินไป เพราะจะทำให้หน้ามืดหมดสติถึงขั้นช็อคได้


รู้อย่างนี้แล้ว!! ก่อนบริจาคเลือดครั้งต่อไป
เตรียมตัวเอาไว้ก่อนก็ดีนะครับ!






Free TextEditor







































































































Create Date : 08 พฤษภาคม 2553
Last Update : 8 พฤษภาคม 2553 15:57:58 น. 0 comments
Counter : 1874 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.