ปัญหาช่องปาก ที่คุณรักษาเองได้



เสียว
ฟัน
- หยุดใช้ยาสีฟันประเภทไวเทนนิ่ง ขจัดหินปูน
หรือยาสีฟันจำพวกเบกกิ้งโซดาสักพัก ยาสีฟันประเภท
นี้มีฤทธิ์กัดกร่อนและอาจมีสารฟอสเฟตซึ่งทำให้เสียวฟัน อย่าแปรงฟันแรงๆ
เพราะจำทำให้เหงือกร่น หากความ
เจ็บปวดไม่จางหายควรไปพบทันตแพทย์เพื่อเสริมฟันของคุณให้แข็งแรงขึ้น

ฟัน
หลุด
- ล้างฟันซี่นั้นซะแล้วรีบใส่กลับเข้าไปใหม่ทันที
จากนั้นให้กัดเบาๆ บนสำลีหรือถุงชาชื้นๆ เพื่อให้ฟันเข้าที่
การกระแทกจนฟันหลุดจะทำให้เอ็นยึดปริทันต์ฉีกขาด
แต่อาจจะมีบางส่วนที่ยังติดอยู่กับตัวฟัน ถ้าต่อเร็วพอฟัน
ก็อาจติดกับเหงือกอีกครั้ง ซึ่งภายในไม่กี่วันจะรู้สึกว่าฟันแข็งแรง
และเมื่อผ่านไป 1-2 เดือน ก็จะแข็งแรงเหมือน ฟันซี่ใหม่

เพดาน
ปากหรือลิ้นพอง
-
การที่เพดานปากพองจะทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นอ่อนตัวลงและติดเชื้อง่ายขึ้น
ผู้เชี่ยว ชาญแนะนำให้ใช้ Henalog in Orabase
ยาทาคอร์ติโคสเตอรอยด์ซึ่งสร้างขึ้นเคลือบลงบนแผลพองและเร่งการ
ฟื้นตัวสำหรับลิ้นพอง ให้กลั้วปากโดยการผสมเกลือ 1 ช้อนชากับน้ำอุ่น 1 แก้ว
เกลือจะดึงเอาเชื้ออกมายังผิว
หน้าของเนื่อเยื่อซึ่งร่างกายของเราจะทำลายมันเสีย นอกจากนี้
เกลือยังทำให้เกิดสภาพเป็นกรดอันจะช่วยฆ่า แบคทีเรียอีกด้วย

ร้อน
ใน
- หยดน้ำมันพืชลงบนสำลีและกดที่แผลร้อนในวันละ3-4 ครั้ง
ดร.แมรี่ เอลเลน คาไมร์ ที่ปรึกษาด้าน โภชนาการจากการนิตยสาร Men's Health
กล่าวว่า "น้ำมันพืชช่วยเคลือบบริเวณที่ร้อนในและปกป้องบริเวณนั้น
จากการระคายเคืองอีกด้วย"

ฟัน
กร่อนหรือร้าว
- เกิดจากอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
เพราะกินของเย็นจัดหลังของร้อนโดยทันที ซึ่ง
รอยร้าวนั้นอาจจะเกลี้ยงเกลาหรืออาจทิ้งให้ฟันของคุณเผชิญกับการติดเชื้อ
หรือฟันผุ แต่ทันตแพทย์สามารถ
เชื่อมและผนึกรอยร้าวเพื่อไม่ให้ฟันของคุณกลายเป็น Dead Zone ได้





ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จากLisa






Free TextEditor







































































































Create Date : 08 พฤษภาคม 2553
Last Update : 8 พฤษภาคม 2553 22:04:49 น. 0 comments
Counter : 1047 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.