เชื้อโรคกับอุปกรณ์แต่งหน้า













































เพื่อผิวพรรณที่เปล่งปลั่ง สดใส
ผู้หญิงหลายคนจึงดูแลรักษาใบหน้าตนเอง โดยให้ความสำคัญกับการทำความสะอาด
หรือใช้ครีมบำรุงชนิดต่างๆ ตลอดจนเครื่องสำอางที่เสริมแต่งให้ตนเองดูดีขึ้น
ทั้งที่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีราคาสูง อีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่เป็นที่นิยมคือ
อุปกรณ์แต่งหน้า เช่น แป้งพัฟ แปรงปัดแก้ม แปรงปัดเปลือกตา
พู่กันทาริมฝีปาก ที่ปัดขนตา ขนคิ้ว ฯลฯ 
ซึ่งแม้ว่าจะเป็นเพียงชั่วระยะหนึ่งที่อุปกรณ์สัมผัสผิว
แต่หากปล่อยให้สกปรกไม่ดูแลรักษาทำความสะอาด
ก็มีโอกาสทำให้เกิดปัญหาผิวพรรณได้เช่นกัน


โดยทั่วไปรอบๆ ตัวเรามีเชื้อโรคปะปนอยู่ทั้งในอากาศ

กระทั่งบนผิวหนังของเราเอง
เพียงแต่จำนวนหรือความรุนแรงไม่เพียงพอที่จะทำให้เกิดโรคหรือปัญหาแก่ผิวของ
เราได้  แต่โรคติดเชื้อทางผิวหนังสามารถติดต่อจากการสัมผัส
ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสโดยตรงหรือการสัมผัสผ่านสิ่งของต่างๆ ซึ่งหมายรวมถึง
อุปกรณ์แต่งหน้าและเครื่องสำอางของผู้หญิง โรคติดเชื้อดังกล่าวที่พบได้
เช่น

การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง
เช่น
ตุ่มฝีหนอง (Boils) เริ่มติดเชื้อจากการที่มีแผลเล็กๆ ซึ่งมีหลายสาเหตุ
เช่น การขีดข่วน ฯลฯ เชื้อแบคทีเรียจะสามารถผ่านสู่ผิวหนัง
โดยเฉพาะบริเวณรูขุมขน (hair follicle) ได้ง่ายขึ้น
หลังจากนั้นบริเวณผิวหนังเกิดตุ่มนูนแดง เจ็บ และมีหนอง
บางครั้งอาจทำให้มีไข้
เชื้อที่เป็นสาเหตุส่วนใหญ่มักจะเกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิด staphylococcus
aureus

การติดเชื้อไวรัสเริม (herpes infections)
โดยปกติจะติดจากการสัมผัสตุ่มน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสโดยตรง
หรือติดจากเครื่องใช้ต่างๆ แม้กระทั่งอุปกรณ์แต่งหน้า ในกรณีที่ใช้แป้งพัฟ
หรือพู่กันเขียนลิปสติกร่วมกับผู้เป็นเริม
เชื้อไวรัสเริมสามารถแพร่มาสู่เราได้
แม้ไม่อาจสังเกตเห็นตุ่มน้ำหรือรอยโรคก็ตาม เชื้อไวรัสเริมมีหลายชนิด
ได้แก่ Herpes simplex virus type 1, 2 และ varicella-zoster virus 
แต่ไวรัสที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดตุ่มน้ำบริเวณริมฝีปากได้บ่อย คือ Herpes
simplex virus type1 

โดยอาการเริ่มหลังได้รับการติดเชื้อ
ครั้งแรกอาจมีไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัว


พร้อมกับมีลักษณะ
เป็นตุ่มพองใสเล็กๆ  อยู่กันเป็นกลุ่ม 3-4 ตุ่ม
และบริเวณแผลอาจมีอาการเจ็บปวด แสบหรือบวม
และอาจพบต่อมน้ำเหลืองอักเสบร่วมด้วย  อย่างไรก็ตามการเกิดเริมครั้งแรก
ร่างกายไม่สามารถกำจัดเชื้อให้หมดไปได้
จึงยังคงมีเชื้อเหลืออยู่ที่ปมประสาท
หากมีการกระตุ้นหรือสภาวะร่างกายอ่อนแอ
เชื้อก็จะฟื้นตัวและเกิดอาการใหม่ได้
แม้การติดเชื้อครั้งหลังจะมีอาการรุนแรงลดลง
แต่ก็ยังสามารถเป็นพาหะแพร่เชื้อติดต่อสู่ผู้อื่นได้

การเกิดสิว
มีสาเหตุมาจากอุปกรณ์แต่งหน้ายังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด

 เนื่อง
จากสิวเป็นโรคของต่อมไขมันและรูขุมขน มีข้อมูลการศึกษาต่างๆ
รายงานว่าสิวเกิดจากหลายปัจจัย
โดยเฉพาะความผิดปกติของการสร้างเซลล์ชั้นขี้ไคลของรูขุมขน
ทำให้มีการหนาตัวขึ้นบริเวณรูขุมขนและการเพิ่มขึ้นของเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ
ว่า propionibacteriun acne (P.acne)  หรือการเพิ่มการผลิตของสารไขมัน
(sebum) ที่บริเวณผิวหนัง หรือปัจจัยจากฮอร์โมนแอนโดรเจน กรรมพันธุ์
ความเครียด การพักผ่อน ฯลฯ

สำหรับผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบจากอุปกรณ์แต่งหน้า
นั้นพบน้อยมาก
ส่วนใหญ่จะเป็นผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบจากเครื่องสำอางหรือครีมบำรุงผิวที่ใช้


เนื่องจากผิวหนังบางคนแพ้สารประกอบประเภทน้ำหอม สี (Dye)
หรือแม้กระทั่งสารกันบูด (preservatives)
ที่ผสมในเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวต่างๆ
ซึ่งการแพ้มักเป็นชนิดที่เรียกว่า Allergic contact dermatitis
หมายถึงผิวหนังอักเสบจากการสัมผัส
อาการแพ้เกิดจากสภาวะการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ซึ่งแต่ละคนมีไม่เหมือนกัน เช่น
ใช้เครื่องสำอางชนิดเดียวกันแต่คนหนึ่งแพ้สารเคมีที่อยู่ในเครื่องสำอางชนิด
นั้น ส่วนอีกคนไม่แพ้ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังต้องระวังเรื่องวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์ด้วย
ที่สำคัญต้องเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น
มิฉะนั้นเครื่องสำอางอาจเสื่อมสภาพก่อนวันหมดอายุจริง (รู้ๆ
กันอยู่ว่าบ้านเราร้อนขนาดไหน) ส่วนเครื่องสำอางไหนที่หมดอายุแล้ว
ก็ให้ทิ้งไปเสีย อย่าเสียดาย ยกตัวอย่างเช่น มาสคาร่ามีอายุการใช้งานแค่
2-6 เดือน

ดังนั้นหากมีอาการผื่นแดง
คันหลังการใช้เครื่องสำอาง ครีมบำรุง หรือสารต่างๆ
ให้หยุดใช้และปรึกษาแพทย์ทันที

 หากมีอาการคันอาจ
รับประทานยากลุ่มต้านฮีสตามีน (antihistamine)
เพื่อระงับอาการคันได้ก่อนพบแพทย์ แต่ห้ามจับหรือเกา
เพราะอาจทำให้การติดเชื้อมีระยะกว้างขึ้น
อย่างไรก็ตามอุปกรณ์แต่งหน้าที่สกปรกก็มี
โอกาสทำให้ผิวหน้าเป็นสิวจากการอุดตันจากการสะสมของแบคทีเรีย
ยกตัวอย่างเช่น แป้งพัฟและแปรงแต่งหน้าที่สัมผัสผิวหน้าโดยตรง
ซึ่งบางคนตั้งแต่ซื้อมาใช้ทุกวันแต่ไม่เคยล้างหรือวางทิ้งไว้ปล่อยให้ฝุ่น
เกาะ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาผิวพรรณให้ลองย้อนกลับดูว่าสาเหตุส่วนหนึ่งมา
จากอุปกรณ์แต่งหน้านั้นสะอาดพอหรือไม่ เก็บรักษาดีหรือยัง
และเพื่อสุขภาพผิวพรรณใบหน้าที่สะอาด
เรามีวิธีทำความสะอาดอุปกรณ์แต่งหน้าอย่างง่ายๆ และไม่เสียเวลามาฝากกัน

วิธีทำ
ความสะอาดแปรงแต่งหน้า

หากเป็นแป้งพัฟหรือฟองน้ำทาตา
ให้ล้างด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ หรือสบู่ล้างหน้าปกติ และล้างให้สะอาด บีบให้แห้ง
นำไปซับบนผ้าขนหนูนิ่มๆ และปล่อยไว้บนผ้าขนหนูให้ลมพัดจนแห้งสนิท
สำหรับพู่กันแต่งหน้า ให้จุ่มแปรงให้เปียก ล้างด้วยแชมพูสระผมปกติ ค่อยๆ
ลูบขนแปรงเบาๆ ตามทิศทางของเส้นขน แต่อย่าให้น้ำไหลเข้าบริเวณด้ามจับ
ตั้งแปรงแนวดิ่งให้หัวแปรงทิ่มลง และเปิดน้ำก๊อกให้น้ำไหลผ่าน ล้างจนสะอาด
จากนั้นซับแปรงบนผ้าขนหนูเบาๆ จัดรูปทรงแปรงให้อยู่ในสภาพเดิม
อาจปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งบนผ้าขนหนู หรือแขวนหัวแปรงทิ่มลง
แต่ห้ามหงายแปรงแต่งหน้าให้แห้งในถ้วยหรือกล่องเด็ดขาด
เพราะจะทำให้น้ำไหลเข้าที่จับ ทำให้ขนแปรงหลุด หรือหลวม
และถ้าปล่อยให้แห้งโดยการทิ่มขนแปรงลงจะทำให้ขนแปรงบานออก เสียรูป
และสำหรับคนที่ไม่มีเวลาล้างทำความสะอาดแปรง
แต่ต้องการใช้แปรงสะอาดแบบเร่งด่วน
อาจใช้น้ำยาทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าโดยเฉพาะ
ซึ่งสามารถใช้เช็ดขนแปรงก่อนการใช้งานได้ทันที สะดวกไปอีกแบบ
แต่ถ้าจะเน้นถึงความสะอาดของแปรงจริงๆ แนะนำให้ล้างจะดีที่สุด

การ
เลือกแปรงแต่งหน้าให้เหมาะสม

แปรงแต่งหน้ามีหลายแบบขึ้น
อยู่กับหน้าที่การใช้งานและมีขนแปรงหลากชนิดทั้งขนแปรงที่ทำมาจากขนสัตว์และ
การสังเคราะห์ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการใช้งานเช่นกัน
ซึ่งในปัจจุบันขนแปรงแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
คือขนแปรงแต่งหน้าที่ทำมาจากธรรมชาติ และผลิตจากการสังเคราะห์

-
ขนแปรงที่ทำจากธรรมชาติ
ได้แก่ ขนแปรงที่ทำมาจากขนสัตว์ต่างๆ
เช่น ขนกระรอก ขนแพะ ขนม้า ฯลฯ คุณสมบัติมีเนื้อละเอียด เบา แน่น
มีความยืดหยุ่นสูง แกนขนแปรงได้รูปทรงและคืนรูปง่าย
เหมาะกับผลิตภัณฑ์แต่งหน้าที่เป็นเนื้อแป้ง
โดยขนแปรงธรรมชาติมักมีราคาค่อนข้างสูง
ช่างแต่งหน้ามืออาชีพส่วนใหญ่เลือกใช้ เพราะต้องการความละเอียด
และเนี้ยบของผลงาน 

- ขนแปรงสังเคราะห์ 
ส่วนใหญ่จะทำมาจากไนลอน และเทคลอน คุณสมบัติมีเนื้อนุ่ม
แต่คืนรูปได้ไม่ดีเท่าขนแปรงธรรมชาติ 
มักเหมาะกับผลิตภัณฑ์แต่งหน้าที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เช่น ครีมรองพื้น
มักนิยมผลิตเป็นแปรงปัดคิ้ว หรือแปรงเขียนขอบตา
อย่างไรก็ตามขนแปรงสังเคราะห์ก็ปรับเปลี่ยนให้มีความคล้ายคลึงขนแปรงแบบ
ธรรมชาติมากขึ้น หลายคนจึงหันมาเลือกใช้เพราะราคาถูกกว่า ใช้ได้ดีเช่นกัน
แม้จะมีคุณภาพไม่เท่าขนแปรงธรรมชาติ 

ขอฝากเรื่องการดูแลความ
สะอาดของอุปกรณ์แต่งหน้าให้อยู่ในสภาพดีและสะอาด ไม่ต้องเสียเวลาล้างทุกวัน
เพียงทำความสะอาดอาทิตย์ละครั้งหรืออย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้งก็พอ
และหลังจากใช้งาน ควรเก็บอุปกรณ์ไว้ในกระเป๋าเครื่องสำอางให้มิดชิด
และที่สำคัญอย่าใช้อุปกรณ์แต่งหน้าร่วมกับผู้อื่น
เพราะมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายๆ
...อยากสวยทั้งทีต้องหมั่นใส่ใจรักษาความสะอาดนะคะ

จาก
ผู้หญิงนะคะดอทคอม







Free TextEditor







































































































Create Date : 19 เมษายน 2553
Last Update : 19 เมษายน 2553 16:48:47 น. 0 comments
Counter : 272 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.