ขนมตูปะ หรือข้าวต้มใบกะพ้อ
........
สมัยก่อนจะเป็นข้าวต้มลูกโยนชนิดหนึ่ง
ที่ทำในเทศกาลต่าง ๆ ของชาวใต้
และเป็นขนมที่ทำจาก ข้าวเหนียวห่อด้วยใบกะพ้อ
รูปทรงสามเหลี่ยม ตรงปลายเรียวเล็ก
ข้าวต้ม จะเหลือก้านใบ ทำเป็นหางไว้สำหรับหยิบ
เป็นที่นิยมกันมากของศาสนาอิสลาม
ในงานเทศกาลต่าง ๆ เช่น งานในวันฮารีรายอและในงานอื่น ๆ
ขนมตูปะหรือข้าวต้มใบกะพ้อ ถือเป็นขนมต้ม
ที่เป็นสัญลักษณ์ของความรักใคร่ กลมเกลียวกัน
เพราะการทำขนม ต้องช่วยกันหลายแรง
การเตรียม แทงต้ม หรือทำต้ม หรือขนมต้มนั่นเอง
โดยต้องเตรียมหายอดกะพ้อ ไว้ให้พร้อมก่อน 2-3 วัน
นำข้าวเหนียวแช่ให้อ่อนตัว แล้วผัดด้วยน้ำกะทิให้เกือบสุก
จึงนำมาห่อด้วยใบกะพ้อเป็นรูป 3 มุม คล้ายฝักกระจับ
แต่ละลูกมีขนาดตาม ใบกะพ้อ เมื่อเสร็จนำไปนึ่งให้สุกอีกที่หนึ่ง
ขนมตูปะ ใช้ใส่บาตร หรือแขวนเรือพระ เป็นพุทธบูชา
ส่วนใหญ่นิยมทำอยู่กัน 2 แบบ คือ ข้าวเหนียวที่มีสีขาว
และข้าวเหนียวที่มีสีดำ
นอกจากข้าวเหนียวจะมีประโยชน์ทางด้านอาหารแล้ว
ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย เช่น บำรุงร่างกาย
ช่วยขับลมในร่างกาย สร้างสารอาหาร
เสริมสมรรถภาพกระเพาะอาหาร
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เนียนขึ้น
ต้นกะพ้อ ภาษาถิ่นใต้เรียกว่า ต้นพ้อ
ชาวใต้จะนำยอดอ่อน ที่ยังไม่บานมาห่อข้าวต้มใบพ้อ.....
"ซัดต้ม" เป็นกีฬาพื้นเมืองชนิดหนึ่ง ของภาคใต้
เล่นกันทั่วไป เช่นพัทลุง นครศรีธรรมราช และสงขลา
ที่เล่นกันในวันชักพระหรือลากพระ เป็นการเล่นประลองกำลัง
หรือประลองฝีมือในหมู่ชายหนุ่ม
มักจะเล่นกันในเวลา บ่ายตอนชักพระทางบก
กลับวัดระหว่างทาง ก็จะหยุดพักเป็นช่วงๆ
แล้วแข่งขัน ซัดต้มกันเป็นคู่ๆ
กติกาการแข่งขันซัดต้ม เริ่มการแข่งขัน คู่ต่อสู้ทั้งสองฝ่าย
อยู่บนเวทีหรือพื้นที่กำหนด ให้ห่างกัน 6-8 เมตร
หันหน้าเข้าหากัน มีลูกต้มวางไว้ข้างหน้า
ฝ่ายละประมาณ 25-35 ลูก มีกรรมการคอยเป็นผู้กำหนด
การซัดหรือการปาต้ม จะผลัดกันปาคนละครั้ง หรือปาคนละ 3 ครั้ง
เชื่อกันว่าการเล่นซัดต้ม ในงานชักพระ
เป็นการร่วมบุญอย่างหนึ่ง สามารถนำต้มไปให้
เพื่อแสดงความคารวะผู้เฒ่าที่นับถือ แล้วเอาต้มไปแขวนที่เรือพระ
เสมือนหนึ่งมอบไว้ เป็นเสบียงเดินทางของคณะแห่เรือพระ
โดยอุปมาเหมือนทำบุญ ไปสู่บรรพบุรุษ
ผู้ล่วงลับไปแล้วให้ได้กุศล
ขอบคุณที่มา fb.Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ