Group Blog
All Blog
### ตำนานรักขนมโมจิ ###





















ตำนานรักขนมโมจิ

..............

ระหว่างหนุ่มแดนอาทิตย์อุทัย กับสาวไทย

 ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

โปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชบริพารคนสนิท

ไปสืบหาขนมโมจิต้นตำรับชาวไทย มาให้เสวย

บรรดาทหารก็นำขนมโมจิ จากที่ต่าง ๆ มาถวาย

 แต่ก็ไม่ถูกพระทัย ไม่ใช่ขนมโมจิสูตรที่ตามหาอยู่

เรื่องมีอยู่ว่า ขนม Wagashi หรือขนมโมจิ

สูตรสงครามโลกครั้งที่ 2

กองทัพประเทศญี่ปุ่น มาตั้งฐานทัพใน จังหวัดนครนายก

 ซึ่งชาวบ้านในบริเวณตำบลศรีกะอาง ตำบลพิกุลออก

อำเภอบ้านนา และตำบลพรหมณี ตำบลเขาพระ

 อำเภอเมืองนครนายกได้นำสินค้าต่างๆมาค้าขายกับทหารญี่ปุ่น

 ที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว ปัจจุบันคือพื้นที่ของ

โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าและบริเวณใกล้เคียง

 สินค้าที่ชาวบ้านนำมาจำหน่าย ส่วนใหญ่

จะเป็นสินค้า ประเภทผัก ผลไม้ และขนม


นางพันนา ซึ่งเป็นหญิงสาวชาวบ้านมีอายุประมาณ 18 ปี

ได้ทำขนมพื้นบ้าน เช่นไข่เหี้ย กล้วยทอด ซาลาเปาทอดขาย

จนได้รู้จัก กับทหารหนุ่ม ชาวญี่ปุ่นชื่อซาโต้

ได้สอนให้ทำขนมโมจิ ลักษณะของ ขนมโมจิที่ซาโต้สอน

เป็นขนมที่ทำจากแป้งข้าวเหนียว มีใส้เป็นถั่วแดงกวน

นำมาห่อหุ้ม แล้วนำไปต้มจนสุก

 หลังจากนั้นนำมาคลุก ด้วยแป้งเพื่อป้องกันไม่ให้ขนมติดกัน

รสชาดจะออกหวานนำนิดหน่อย

สาวชาวบ้านก็ทำขนมโมจิ ให้ทหารหนุ่มชิม

ซาโต้ ประทับใจมากและบอกว่า เป็นขนมโมจิที่อร่อยที่สุด

เท่าที่เคยทานมาเลยทีเดียว

 อีกทั้งยังบอกกับสาวพันนาว่า

ให้ถือว่าขนมโมจิ เป็นตัวแทนของเขา

ถ้าคิดถึงเมื่อใด ให้ทำขนมโมจิทานเพื่อระลึกถึงได้เสมอ

หลังจากนั้นไม่นาน กองทัพญี่ปุ่นก็ย้ายฐานทัพ ไปอยู่ที่อื่น

 ปล่อยให้สาวน้อยพันนา ทำขนมโมจิเฝ้ารอคนรัก

เนิ่นนานเข้าก็ยังไร้วี่แวว ของซาโต้

พันนาก็เลยทำขนมโมจิขาย ให้ชาวบ้านกินกัน

แต่แล้ววันหนึ่ง มีทหารไทยมาสั่งห้ามขาย ห้ามทำ

 และห้ามกินขนมโมจิ อีกต่อไป เพราะเป็นขนมญี่ปุ่น

จึงถือว่าเป็นขนมกบฏต่อชาติ

นับจากวันนั้น ขนมโมจิก็ค่อย ๆ

 เลือนหายไปจากความทรงจำ

จนปี 2547 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

ทรงทราบประวัติเรื่องขนมโมจิ จึงให้ทหารคนสนิทไปสืบหา

 ตำนานรักขนมโมจิ จนได้ทราบจากนายมานพ ศรีอร่าม

 ข้าราชการพัฒนาชุมชนว่า

สาวน้อยพันนา เป็นมารดาซึ่งมีอายุมากแล้วแต่ความทรงจำยังดี

 สามารถเล่าเรื่องราว ในอดีตได้เป็นอย่างดี

 พร้อมได้สอนให้บุตร และบุตรสะใภ้

ทำขนมโมจิ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

ปัจจุบันคุณยายพันนาได้จากไปแล้ว

โดยได้รับพระราชทานเพลิงศพ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

ขนมโมจิสูตรสงครามโลกครั้งที่ 2

จะมีความแตกต่างจาก ขนมโมจิไทย

เป็นขนมหวานญี่ปุ่นเรียกรวมกันว่า Wagashi

มีมานานตั้งแต่สมัยนะระ หรือประมาณ 1,300 ปีมาแล้ว

 แต่เฟื่องฟูสุดๆในช่วงเอโดะ ปี ค.ศ. 1603-1867

โดยเฉพาะในเมืองเกียวโต

และแต่ละร้านแข่งกันขายแข่งกันคิดขนมใหม่ๆ

 จนกลายเป็นต้นตำรับของขนมญี่ปุ่น

ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นขนมหวานประจำชาติ

แต่ชาวญี่ปุ่น ก็ไม่ได้ทาน Wagashi กันบ่อย

 เพราะนิยมทานผลไม้ กันมากกว่า

ส่วนวากาชินี้จะทานเป็นของว่าง และในโอกาสพิเศษ

เมื่อมีพิธีการต่างๆเช่น พิธีแต่งงาน หรือพิธีชงชา

แรงบันดาลใจของพ่อครัวแม่ครัว

ในการสร้างสรรค์ขนม Wagashi นั้นก็ได้มาจากธรรมชาติ

 ต้นไม้ ดอกไม้ การเปลี่ยนแปลง ของฤดูกาล

 เช่น ฤดูใบไม้ร่วงจะทำ ขนมคิคุโกะโระโมะรูปดอกเบญจมาศ

ส่วนฤดูหนาวก็ทำยูคิโมจิ หรือโมจิหิมะ


























ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ




Create Date : 02 พฤษภาคม 2558
Last Update : 2 พฤษภาคม 2558 10:59:17 น.
Counter : 2075 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ