All Blog
j71


Smileyjjy5029

ผมฟังเพลงของวิวัลดิ
ของค่ำคืนอันดึกสงัดในคืนนี้ของวันนี้
Antonio Vivaldi - Winter (Full) - The Four Seasons
ไม่เอาสำเนาembedมาลงให้เพราะอาจจะมีปัญหาลิขสิทธิ์
จึงเอาเฉพาะชื่อเพลงและผู้บรรเลงมาลงไว้อ้างอิงเผื่อชอบจะได้เข้าไปเปิดดูที่ยูทูบ


ฝนตกลงมาชนิดซ้ำแล้วซ้ำอีกต่อเนื่องเปียกแฉะไปหมด
ต้นไม่ที่ผมลงเอาไว้รากของมันคงยิ้ม
ผมจะช่วยให้มันยิ้มอีก
เพื่อให้ใบมันได้สงเคราะห์แสงเต็มที่
จะเอาบันไดพาดต้นไม้ใหญ่
เพื่อรานกิ่งไม้ใหญ่ออกมาบ้าง
แสงอาทิตย์จะได้โดนใบ
ให้ถนัด
ต้นไม้จะได้โตไว
ว่าอย่างนั้น

ก็เป็นที่ตายของผม
ถ้าผมพลาดท่าเสียทีไป
บันไดเกิดการคาดเคลื่อนผิดพลาด
ผมก็จะตกลงมาจากที่สูง10-20เมตรประมาณ
แต่ผมทำเพื่อไว้ทุกข์แม่
คงไม่ตาย

เสียงสั่งมา
ตอนผมหลับสนิท
"แม่บอกว่าหิวอยากกินทุเรียน"
ตื่นขึ้นมา
ผมรีบนั่งรถไป20 กม.ไปหาซื้อ
ทุเรียน
ได้ทุเรียนพันธุ์ก้านยาวมาสองลูก
กิโลละ100บาทราคาพื้นที่
ทุเรียนก้านยาว

ผมชอบดูแล้วคือทุเรียนชนิดนี้
มันมีก้านที่ยาวผิดปกติได้อารมณ์ผม
และเมื่อเจ้าของคนขายแกะออกก็มีที่แยกมีเนื้อใน
ออกมาสะอาดสวยงามสีหลืองเหมือนสีน้ำมันทรงหนึ่งของวินสตัน

เนื้อที่เมล็ดที่คนใช้กิน
มันไม่ติดกับเปลือกใน
แยกกันเป็นส่วน
ลูกหนึ่งแกะมาแล้วไส้ในมันช้ำ
ไส้ในมันช้ำ

แม่ค้า
เขาบอกว่าเปลี่ยนให้ใหม่
แต่ผมพอใจ
เลยเอามันทั้งสองลูก

ลูกแรกถือว่าเสียซื้อมาเพียง50บาท
ส่วนลูกหลังลูกใหม่

มันสองลูก
ผมรวมจ่ายไป250บาท

ทุเรียนก้านยาวเมล็ดในจะโตแต่เนื้อนิ่ม
และเมื่อพามาถึงบ้านกลิ่นกลิ่นไม่แรง

ผมพามาเซ่นไหว้แม่ตามปกติ
และหลังจากนั้นผมพาไปกิน
ก็อร่อยดี

ใครจะหาว่าผม"บ้า"
ว่าผมทำอย่างนี้ได้ยังงัย

ก็ความรักแม่ผมมีอย่างนี้
ทำอย่างนี้
ไม่เห็นขัดอะไร
เป็นสิทธิที่ผมจะทำ

จะพาไปถวายพระหรือใส่บาตรแทนก็ได้

แต่สถานการณ์ของผมไม่ให้โอกาสเลย
และเอื้อผมเลย

เพราะผมงุ่มง่าน
ช้าอาจจะเจออุบัติเหตุก่อนถึงปากพระ
ใครจะช่วยผมในภาวะเช่นนี้

และหรือถึงบาตรพระ

ผมคิดว่าทำวิธีที่ผมทำอยู่นี้ดีแล้ว
รอวันพร้อมจึงค่อยทำอย่างมีพิธีรีตรองต่อไป

สรุปทุกอย่างอยูที่ใจและเจตนา

พร้อมอาหารค่ำมื้อซื้อมาของค่ำคืนวันนี้และทุเรียนก้านยาว

ผมเคยเรียนวิชาศาสนาสากลมา
ผมคิดว่าทำวิธีนี้ก็ถึงเทพพ่อเทพแม่ได้
เพราะการไฝ่ทำบุญของผม
ไม่มีคำว่าสังคมนิยมในการทำบุญเป็นอุดมคติ

เคยมีเรื่องเกิดขึ้นคือมีสองคูููููู่รักหนึ่งเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ
บิดาเป็นท่านนายพลรวยมากผู้หนึ่ง
มีโรงงานอุตสาหกรรมนมชนิดหนึ่ง(ปกปิด)
ลูกสาวได้ประสบอุบัติเหตุ
ตายพ่อเสียใจมากจึงไม่เผาลูก
เก็บสดลูกเอาไว้
และจ้างวานให้คนที่ไม่กลัวผีนำศพลูกออกมาอาบน้ำให้ทุกวัน
ทำอยู่อย่างนี้ทุกวัน
ให้ค่าจ้างคนเฝ้าผีอาบน้ำศพผีลูกทุกวันอย่างนี้
ที่คฤหาสน์หลังมหึมาที่เขาเป็นเจ้าของ
เพื่อรำลึกถึงความรักที่ตนมีกับลูกสาวแสนหวงแสนรัก
ได้ตายลงไปในวันสมรส
เรื่องนี้ผมได้รับฟังมาจากคนอื่นเล่าต่อๆมา
ผมเชื่อว่ามีจริงและเรื่องจริงอันนี้ก็เป็ตัวอย่างหนึ่งที่ฟังได้
เมื่อจะเซ่นจะไหว้จจะรำลึก
ถึงใครทำตามที่ตนพอใจ
ในขอบเขตที่่าจะทำได้
ก็ทำอย่างที่ทำอย่างนั้น
ผมไม่ได้เอาอย่างเรื่องนี้กรณีแม่ผม
แต่ผมฟังเรื่องนี้มาแล้วได้คติบางอย่าง
เหมือนกัน



ภารกิจต่อบ้านอานองเตตอนนี้ต่อผมนั้นหนักอึ้ง
อดีตที่บันทึกไว้ว่า
ถ้าแม่และพ่อทำสวนยาง200ไร่ได้สำเร็จตอนวัยผมเป็นเด็กอยู่ป่านนี้
ที่บ้านอานองเต
คงสนุกกว่านี้


ถ้าว่า
ถ้าพ่อแม่ไม่มาปลูกยางให้น้องแบบเปล่า20ไร่
และสวนปาล์มและเปล่าอีก20ไร่
ให้น้องทั้งสองแบบไม่มีสัญญาต่างตอบแทนกันไว้ก่อนส่วนใดส่วนหนึ่ง
ป่านนี้บ้านอานองเตดีกว่านี้


ถ้าว่าพ่อและแม่ไม่ถูกลิดรอนสิทธิในช่วงคืนดีสมรสมรักตอนสอง
ป่านนี้บ้านอานองเตจะดีกว่านี้

ถ้าว่าเงินลงทุนที่พ่อแม่ไว้ใจให้ลูกชายเพื่อนไปลงทุนสำเร็จ
ป่านนี้บ้านอานองเตต้องดีกว่านี้

และหากชีวิตของพ่อและแม่ไม่บิดพลิ้วเลยมาตลอด
บ้านอานองเตคงจะต้องดีมากทีเดียว


แต่ว่า
แต่บัดนี้มันมิได้สายเกินแก้สำหรับ
และความความผิดหวังความเสียใจผมไม่เคยนำมาคิด
เพราะความผิดพลาดไปบ้างของ
ชีวิตพ่อและแม่
เพราะอันนี้ผมคิดว่า
มันคือเสียงเพลงที่ฟังที่คีตกรกำลังดีดอยู่
สิ่งที่ผ่านไปแล้วมัน
เหมือนเสียงเพลงที่ผมกำลังฟัง


มันเหมือนสายฝนที่กำลังพัดกระหน่ำอย่าง
ถูกฤดูกาล

และถ้านี่เป็นอีกวาระหนึ่งที่น้ำจะท่วมคึง
พายุใหญ่มา
ที่บ้านอานองเต
ก็ถือว่าเป็นช่วงแห่งเสียงเพลงนี้ดีดอีก

พายุข้ามชาติประกาศมาว่า
มีเกิดขึ้นอีก
ผมรับฟังเพราะหลีกเลี่ยงไม่ได้

ไม่กลัวอะไรทั้งหมด
แต่ยกประโยชน์ให้กับความจริง

เสาปูนซิเมนต์ของผมล้มลง
ที่ปักรั้วเอาไว้ด้วยมือและแรงที่มี
ที่ดินที่บ้านอานองเต

เพราะดินทรายมันร่วนเมื่อโดนน้ำเซาะเสามันจะล้ม
ผมก็พอใจซ่อมมันใหม่เมื่อมีเวลา
ไม่เดือดร้อนคนงานและค่าจ้าง

เพราะผมต้องทำมันเองได้ทุกอย่าง
เมื่อมีอาหารๆดีๆถุงมือดีๆ
อุปกรณ์นิรภัยดีๆ
ผมทำได้ทุกอย่าง


เว้นแต่มือไม้ผมมันยกไม่ขึ้นแล้ว
ผมจะหยุดทำ


และก็นอนอย่างเดียว
เพื่อพิจารณาความทุกข์และความสุขที่มีและอดีตที่เคยผ่าน
และความดีที่เคยกระทำ
จนวันเวลาวาระแห่งการหมดลมปราณจะมาถึง
ต่อผม

ผมพบตนเองว่าไม่มีเวลาแล้วสำหรับวาดภาพและเขียนหนังสืออีก
นอกจากเขียนบันทึกเพื่อสื่อมีเดีย
พูดกับความจริงที่ว่างเปล่าอย่างนี้


ถือว่าทำได้ดีที่สุดแล้ว
ในขณะความเป็นมนุษย์ยังมีอยู่
และในขณะที่สนามแห่งความดีกำลังเปิดกว้างให้เราทำ
และขณะที่เวลาแห่งความชั่วกำลังหนีไปจากเรา

เมื่อผมคิดได้อย่างนี้
ถ้าคิดให้มากกว่านี้
มือมันจะช้าขามันจะลีบและตึง
มันจะไม่อยู่ในอำนาจของความหนุ่มที่เคยมี


ด้วยเหตุนี้แลคนชราจึงถูกยกให้เป็นคนประเสริฐในสังคมมนุษย์
ปล่อยให้คนชราทำอะไรตามใจชอบและให้กินให้ใช้ตามพอใจ
และน่าจะมีวันคนชราด้วยนอกจากจะมีวันเด็กแล้ว
หรือไร
ผมคิดว่าอย่างนั้น
เหตุผลคือว่า


ถ้าไม่มีชราก็ไม่มีเด็ก
ถ้าไม่มีเด็กก็ไม่มีชรา
และเด็กและชราก็ไม่พ้นความตาย


เพราะฉะนี้นผจึงคิดให้มีวันคนชรา


Smiley



Create Date : 27 กรกฎาคม 2560
Last Update : 18 กันยายน 2560 22:00:01 น.
Counter : 868 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3538694
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



จึงจือหยาง
(jjy)
จบไฮสกูล
ได้ปริญญาสองใบในไทย เคยเป็นนักเรียนเก่าในอังกฤษและฝรั่งเศส
สอบได้ Dip-in-JourจากLondon School of Journalism,MIOJ.ในประเทศอังกฤษ
สอบได้นักวาด ว.อ.(แนวนามธรรม)...
เป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย..มีสัญชาติไทย (แซ่แต้) พ่อมาจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
New Comments
MY VIP Friends