Group Blog All Blog
|
j37  jjy6002jjy6001 อานองเดที่บ้าน มีคำถามว่าพ่อและแม่โดนภัยจากเผ่ากิยองตินหรือไม่ คำตอบผมว่าไม่ เพราะพ่อแม่ของผมมีแต่ให้กับให้ และตัวผมละโดนภัยจากเผ่ากิยองตินหรือไม่ ผมเชิ่อว่าไม่ เพราะผมทันโลกและก็หมดตัว ที่จะให้อะไรใครถึงแม้จะมีเผ่ากิยองตินหลงเหลือมาคุกคามผมอีก ผมคิดว่าค่าน้ำค่าไฟภาษีที่ดิน คือสิ่งที่ผมต้องจ่ายและรับผิดชอบ จะมีคนเผ่ากิยองตินวางแผนให้ตระกูลผมล้มละลายหมดตัว โดยการปรักปรำให้ผมใช้เงินเปลืองหรือว่า ให้ผมหมดตัว ผมว่าไม่ เพราะผมลูกคนเดียวไม่มีทายาท และผมก็หมดตัวอยูแล้ว คิดว่าเอาเบ็ดไปทงปลาในเมื่อไม่มีปลาใครจะไปทงปลาหาอะไร ตระกูลผมจบลงเพียงที่ผมเท่านั้น ถ้าจะมีคนเผ่ากนี้วางแผนจะทำอย่างนี้ ก็ถือว่าเป็นคนบ้าอย่างแรง เพราะไม่ได้อะไรขึ้นมา ทรัพย์ทั้งหมดที่ผมมีจะเกิดเหลือจากใช้เงินเปลืงหรือไม่เปลือง เมื่อผมตายลงจยกเป็นมูลนิธิทั้งหมด มีกฎหมายและทนายความจัดการ เป็นเอกฉันท์ ถามว่าเผ่ากิยองตินมาขอข้าวกิน1จาน คำตอบของผม คือผมหุงข้าวไม่เป็น ผมไปซื้อข้าวกินที่ตลาดตลอดเวลา ผมคิดว่าถ้าเผ่ากิยองตินมีจริง ควรจะไปหากินกับคนอื่นที่อื่นมากกว่า ผมเกรงกลัวอย่างมากคือ ผมทำอะในทุกขณะจิตมีสติหรือไม่ ถ้าผมขาดไปวินาทีใด ความตายก็จะเข้ามาเยือยนทันที นั่นคือสิ่งที่ผมระวัง ทราบว่าเผ่ากิยองตินพยามฮุบเอาสมบัติคนมีผ่านทางลูกที่อ่อนแอ และไม่เอาไหน และเผ่ากิยองตินผลักไสให่้เป็นคนประสาทเสื่อม เพื่อจะได้เป็นคนไร้ความสามารถแล้ว เผ่ากิยองตินสามารถเข้าครอบครองสมบัติคนนั้นไๆด้ โดยชนเผ่ากิยองตินสนใจสมบัจติของเหยื่อเป้าหมาย ซึ่งเมื่อคนไร้ความสาารถเช่นทำให้เป็นโรคจิต จะได้ทำอะไรในเหยื่อเป้าหมายได้ง่าย เพราะว่าเผ่ากิยองตินเป็นเผ่าลับหลังไม่แสดงตนว่าใครเป็นใคร เผ่าอดอยากหรือมีแต่อดอยาก เพื่อเหล้า1 เป็กตามแผนต่อเหยื่อเป้าหมาย ไร้คุณธรรม ขอให้ได้กินอิ่มนอนหลับมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น หลักเผ่ากิยอง ตินอย่างง่าย อันนี้ผมว่าก็ไม่มีวี่แววดังนี้เลย เพราะผมมีปัญญาและเป็นปัญญาชน มีปริญญาสองใบ ผมสามารถเป็นทนายจำเป็นให้ตนเอง รู้ดีรู้ชั่วว่าอะไรควรผิดอะไควรถูก รักษาตนเองได้ อาจจะเป็นว่าผมโตมีปริญญาสองใบแล้ว พ่อและแมรู้ว่าผมสามารถดูแลรักษาตัวเองได้แล้ว จึงลาโลกไปเร็วกว่าปกติ เพราะตามปกติคนในตระกูลนี้มีคนอายุ109ปี ตาของผมคนหนึ่งซึ่งมีแต่ให้กับให้เหมือนกัน และถือศีลแนวทางเดียวกับ ที่พ่อแม่ผมเป็น เอาละเป็นสิ่งที่ผมไม่คาดว่าพ่อและแม่จะตาย ลงในตอนแรก คิอคิดว่าท่านทั้งสองจะตายช่้ากว่านี้ ผมคิดว่าพ่อแม่จะอยู่ต่อไปอีกนาน ผมถึงอยากและมีโครงการจะทำ ปริญญาอีกใบเป็น การศึกษาตามอัธยาศัย หรับสำหรับคนที่ว่างหรือมีเป็นคนที่อายุมากแล้ว ต้องสะดุดหยุดลงเมื่อพ่อแม่ตายตอนที่ ผมได้ปริญญาใบที่สอง และกลับมาเยี่ยยมแม่ที่บ้านพบแม่และพ่อนอนป่วยคาเตียง พยาบาลกันเองสองคนตายายไม่มีใครช่วย ผมจึงหยุดโครงการทั้งหมด มาพยาบาลพ่อและแม่ แม้ยังไม่ทันรับปริญญาใบที่สองที่หอที่สภาที แต่ตอนนั้นผมจบปริญญาใบที่สองแล้ว มีคำถามผมเรียนเล่นเรียนโยนรึ คำตอบคือไม่ การเรียนเป็นการพัฒนาคุณธรรม ส่วนและจะนำไปตีตรารับงานทำหรือไม่ นั่นขึ้นอยู่กับตัวเลือกที่พึงประสงค์จะมีหรือไม่ เท่านั้นเป็นทางออก การทำปริญญาได้ ถือเป็นความสามารถ อดทนพยายาม อย่างยิ่งของคนในเมื่อเกิดมาเป็นคน ทั้งทีและทำมันได้ ผมพบว่าอย่างนั้น แล้วไม่กลัวว่าคนเผ่ากิยองติน จะฉวยโอกาสเข้ามามีบทบาทในชีวิตนเอง คือผมอีกหรือ ขณะตอนที่ผมหมดเรี่ยวหมดแรงรึ ผมตอบว่าไม่ เพราะในยุคดีเอ็นเอนี้ อาญาวิทยานั้นเจริญมาก คงจะไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับเขาและผมอีก จะมีก็ผมเป็นตัวสร้างเหตุร้ายขึ้นมาเอง ซึ่งผมจะไม่ทำแน่นอน เพราะรู้ว่าไม่ดี และไม่คุ้มกับบาปบุญคุณโทษ ที่จะตามมาสู่ตนเองในภายหลังได้ ถ้าฝืนทำความชั่วอะไรลงไป อ้างถึงjjj6000=ชนเผ่าดิยองตินที่พูดถึง ทำให้ทุกคนกลัว่า โดนคนเผ่ากิยองตินข่มขวัญ ทำลายชีวิตหริอป่าวเพราะเผ่ากิยองตินอาจเป็นพยาธิสังคมชนิดหนึ่ง อันนี้ผมว่าไม่น่ากลัวเลย จำไว้เลยว่าครับตามนี้ คนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ถ้าเลวหรือเป็นคนเลว ไม่ต้องให้คนเผ่ากิยองตินมาตามล่า หรือเป็นเหยื่อเป้าหมายของเขาหรอก กฏหมายบ้านเมืองมีจะลากคอคนชั่วเข้าคุกตารางไปเอง อีกถ้าใครเป็นคนเลวจริงที่สังคมรังเกียจ อย่างไรก็ตามการระวังมีสติทุกเมื่อเป็นความดีสูงสุด สำหรับมนุษย์ปัจจุบัน คำว่าสันติภาพในความเป็นจริงคือสงบเรียบร้อย คำว่าสงครามจริงไม่มี โลกมีแต่สันติภาพ เพราะคนอยู่กันอย่างสงบเรียบร้อย จะมีปัญหาก็เพียนงเรื่องลิ้นกับฟันเท่านั้นที่เป็นสงคราม มันเหมือนคนในระบบ ครอบครัวและครวามรัก คนเรารักกันมีครอบครัวช่วงนั้นคือสันติภาพ ลักษณะของมัน ช่วงทะเลาะกันนั้คือช่วงสงคราม เมื่อเป็น้เช่นนั้นเราพบเลยว่า ครอบครัวหนึ่งไม่ทะเลาะกันนั้นนานกว่าชั่วโมงที่ทะเลาะกัน เพราะฉะนั้น สันติภาพจึงมีมากว่า โลกนี้จึงมีสันติภาพตลอดเวลา ที่เกิดสงครามบางแห่งนั้น เป็นนิยามและความเข้าใจของสื่อและสังคมให้เครดิตคำนี้ไว้ มันฟังแล้วเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่มีสงครามและความทุกข์ยากที่นิยามขึ้นมา ที่จริงสันติภาพมีตลอดเวลา ผมคิดว่าอย่างนั้น มิใช่ทางออกของผม แต่ผมมีแนวคิดทำนองนั้ อีกเรื่องหนึ่งเรื่องอิทธิพลมืดหรืออิทธิพล โดยทั่วไปที่จริงอิทธิพลไม่มี ในโลก เราไปตระหนักคิดหนักหรือเราคิดมากไปเอง ว่ามีสิ่งอิทธิพลเหนือเรา เมื่อคิดหลักทื่สว่า เราเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนคำว่อิทธิพลจะหายไปจากเราอย่างปลิดทิ้งทันที อิทธิพลในเรื่องที่คิดอยู่ก็หมดไปแล้ว อย่าไปคิดดีกว่าผมว่า เรื่องอิทธิพล มันเหมือน น้ำท่วมจะใหญ่จะน้อย มันก็มาจากคำกำจัดควมว่าน้ำมากจึงท่วมตลิ่ง และเอ่อล้นออกไปสู่ที่่อื่น เมื่อน้ำมากฝนตกมากขังท่วมมาก เมื่อล้นน้อยฝนตกน้อยน้ำท่วมน้อบ แต่มันมาจากน้ำท่วมธรรมดา อิทธิพลก็คือการใช้อำนาจใช้อิทธิฤทธิ์ที่ตนเองมีอยู่เหนือคนอื่น ไม่ต่างจากตำรวจมีปืนแสดงฤทธิ์มีสิทธิใช้อาวุธได้ถ้าจำเป็น ก็มีปืนแสดงฤทธิ์นั้นคือนิยามอิทธิพลและอิทธิฤทธิ์ แต่อิทธพลอิทธิฤทธิ์ที่ปืนตำรวจติดที่สะเอวเมื่อเราเห็น ตัวนี้มีไว้เพื่อปราบคนฃั่วและคุ้มครองคนดี อิทธิพลโดยมุมมอง ผมนิยามมันอย่างนี้ และเข้าใจอย่างนี้ ความจริงมีเพีบยงเท่านี้ ผมว่านอนตาหลับดีกว่า ไปคิดมากไม่ดี นอนตามเวลาตื่นตามเวลา ดูตนเองดีกว่า คิดเสียใหม่ว่า วันนี้เราทำอะไรได้คุ้มค่าเพื่อยังชีวิตให้รอดได้หรือไม่ ถ้าได้ทำ ดีแล้ว ชมตัวเองครับ ถามต่อ วันนี้เรากินอะไรไปบ้าง เพราะถ้าไม่รู้ว่าเรากินอะไรไป มันจะปวดท้องได้ตอนพักผ่อนหลับนอน เพราะฉะนั้นป้องกันเหตุปวดท้อง คือทานอาหารที่เป็นสุขลักษณะ และรู้ว่าเรากินอะไรีอยู่ เขมือบอะไรอยู่ เพื่อเผื่อกลางคืนนอนจะได้ไม่ปวดท้อง จึคงกินจึงเขมือบเข้าไป ก็มีเท่านี้ และอีกไม่กี่วันเรก็ตายแล้ว แน่นอนทุกคนหนีความตายยไม่พ้น คนที่ตาย แล้ว ไม่แบกล้บสมบัติลูกเมียไปพร้อมความตายด้วยแน่นอน ตายแล้วเป็นผีนอนโลงมุ้งคเดียว ที่นอนสี่จอไม้หรือทองคำสุกดแท้ แต่ แล้วคนที่ยังอยู่ช่วยกันดันคนที่ตายแล้วไม่ว่ามีศักดิ์เป็นอะรก็ตาม กับผู้ที่ช่วยกันดุน คนตายเข้าเชิงตะกอน แลเผาเอากระดูกไป ลอยอังคารที่ทะเลอย่างสุขุม หรือฝังดินใไว้ให้คนที่รักเขาไปอาลัยเท่านั้น ก็จบแค่นี้เรื่องของคน เอาเท่านี้ก่อนครับ ก่อนที่ฝนจะมาและตกหนักในชั่วโมงนี้ ผมต้องไปมุงหลังคากันฝนก่อน หลังคามันรั่วก่อนที่ผมจะนอนได้สบายใจ จนรุ่้งเช้าโดยไม่โดนน้ำฝนรั่วรดลงที่นอนผมเปียก.... สลุตและสดุดีต่อความจริงและความดี บนพิ้นพิภพนี้ โดย จึงจือหยาง หมายเหตุ... ผมจะไม่ทวีตแล้วครับ เพราะกวนสมาธิ ถ้าติดตามโปรดช่วยตนเองด้วยครับ หรือรอวันพบเจอกันครึ่งทาง หรือโอกาสเหมาะผมได้อารมณ์ มีสมาธิดีผมจะทวีตบ้าง เพราะว่าตอนนี้ อะไรหรือครับมีข่าวบอกว่า กดแชร์กดไลค์กดโพสท์ต้องระวัง จากข้อมูลของตำรวจคอมพิวเตอร์ เสียงว่าอย่างนั้น อนึ่งผมจะขออนุญาตเข้าไปที่ไฮหลำเรื่องของพ่อของแม่บ้าง เพราะพูดเรื่องพ่อมามากแล้ว ผมจะพยายามสืบค้นบ้านเก่าตาที่เกาะไฮหลำ จีน เมื่อคิดได้และพบเรื่องราว 
|
สมาชิกหมายเลข 3538694
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] จึงจือหยาง (jjy) จบไฮสกูล ได้ปริญญาสองใบในไทย เคยเป็นนักเรียนเก่าในอังกฤษและฝรั่งเศส สอบได้ Dip-in-JourจากLondon School of Journalism,MIOJ.ในประเทศอังกฤษ สอบได้นักวาด ว.อ.(แนวนามธรรม)... เป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย..มีสัญชาติไทย (แซ่แต้) พ่อมาจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
Friends Blog MY VIP Friends  |
|||||||||||||
