Group Blog All Blog
|
j50  jjy5008จากการสืบค้นญาติในเมืองจีนตามหัวข้อ เกี่ยวเนื่องกับซีรีส์ต่างประเทศ ตามหัวข้อของบล็อก ในจำนวนนี้มีพาดพิง และมีเหตุให้ต่อเนื่องไปถึงเรื่องอื่นที่เหมาะสม เพื่อให้ข้อยุติที่สมบูรณ์ เพราะจากหลักการที่ว่าเรื่องญาติเป็นเรื่องละเอียดอ่อนของคนทุกคนทุกครอบครัว เมื่อมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น การจะแจงสี่เบี้ย ให้ละเอียดละออนั้น ต้องกระทำด้วยความระมัดระวัง และในกรณ๊ญาติขาดการติดต่อมาเป็นเวลานานแสนนา และมีปัญหาเชิงลบ และไม่มีหลักฐานที่สมบูรณ์อย่างยิ่งมายืนยัน และไม่ต่อเนื่อง เหมือนครอบครัวมาตรฐานอื่นๆ จึงเป็นเหตุให้การสืบค้นต้องเชื่อมโยงอย่างที่เป็น อย่างไรก็ตามจะได้องค์ความรู้ไปในตัวในการสืบค้นครั้งนี้ มีเช่น คติชนวิทยาหรือความคิดและหลักการในการสืบทอดชีวิตตามที่เป็นจนมนุษยชาติสืบทอดกันมาถึงปัจจุบัน ที่ไม่อิงเกณฑ์วิทยาศาสตร์ฐานเดียว ในการดำรงอยู่สืบทอดกันมา หรือเรียกย่อๆว่า วัฒนธรรมการสืบต่อและการดำรงชีวิตแบบพื้นบ้านในระดับรากหญ้า ถึงระดับมาตรฐานสุด เกิดการใช้พงศาวลีวิทยาอย่างมีระเบียบและการได้รู้ความเป็นมาอย่างถูกต้อง และเหตุอื่น ๆที่ผู้เขียนยังไม่สามารถจัดสรรเป็นคำพูดมาบรรจุไว้ในเรื่องนี้ตอนนี้ได้ แต่สรุปท้ายสุดสามรถนำสู่ข้อยุติในการแก้ปัญหาละเยดอ่อนอย่างยิ่ง ได้อย่างลงตัวได้ในที่สุด ไม่ว่าผมจะยังมีชีวิตอยู่หรือเกิดเสียชีวิตกระทันหันขึ้นมา คำว่าคติชนวิทยาในวิกีพีเดีย กล่าวไว้ว่า "คติชนวิทยาในความหมายระยะแรก หมายถึงการศึกษาข้อมูลทางวัฒนธรรมในวิถีชีวิตแบบชาวบ้านชาวชนบท ไม่ว่าจะเป็นตำนานพื้นบ้าน นิทานพื้นบ้าน เพลงพื้นบ้าน ภาษิตคำพังเพย ปริศนาคำทาย การละเล่นและการแสดงพื้นบ้าน รวมทั้งขนบธรรมเนียมประเพณี ความเชื่อและพิธีกรรมในสังคมระดับชาวบ้าน ชาวนา หรือชาวชนบทที่มีวิถีชีวิตแบบเก่าแก่ดั้งเดิม Jonas Balys นักคติชนวิทยาและนักชาติพันธุ์วิทยา อธิบายว่า......[08.06.17] ปัญหาที่แทรกขึ้นมาระหว่างการทำวงานนี้ของผมมี คือเรื่องการดูแลบ้านอานองเตทั้งหมด เพื่อไม่ให้มีปัญหาต่อตนเองและใครอื่น ปัญหาคอมการใช้เนตซึ่งมีปัญหาช้า ผิดพลาดทางเทคนิค แลนะโง่ต่อการปฏิบัติการตาระเบียบคอมเช่น การล้างไวรัส การกวนสมาธิในระหว่างการทำงานของโปรแกรมต่างๆที่มักจะเกิดขึ้น และสุขภาพของผู้เขียนและเวลาว่างสมบูรณ์และอารมณ์ อันสุนทรีย์อันจะนำไปสู่การคิดเขียน ได้ถูกต้องและลงตัว ที่มีคุณค่าและเหมาะสมกับผู้ที่กำลังติดตาม ให้ได้รับพึงใจทั้ง ฝ่ายเจ้าตัวเจ้าของเรื่องคือผมและบุคคลภายนอกที่ มาประสบพบเข้า ในระบบครึ่งทาง การใช้เนตและคอมผมเคยใช้ในมหาลัยปิดจนสอบปริญญาได้ ส่วนลูกเล่นอื่นผมไม่ถนัดนัก ข้อมูลผมมีเต็มอัตราศึกที่จะพามากล่าว ปัญหาภาษษและกฏหมายนั้นพอจะถูไถไปได้ องค์ความรู้ประโยชน์ผมจะคำนึงอย่างยิ่ง ทั้งสิ่งเพื่อผมอันเชื่อมโยงไปการ เรียนรู้เพื่อสอบ ปอด้วย และต่อผู้ติดตามที่อาจมีเป้าหมายข้างเคียงในหัวข้อชวนสงสัยชวนติตาม แตละประโยชน์อื่นที่อาจจะเกิดขึ้นและท้ายสุดการทำเวลาว่างให้เป็นประโยชน์ของมนุษย์ ลสรุปคือจะพยายาม ทำให้ไม่ผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่นเป็นแผนแม่บทของผมเลยทีเดียว จากอดีตบ้านอานองนั้นปัจจุบันมีภาวะถดถอย และพักกิจกรรมทุกชนิดแบบเข้าเวร ตาพี่ชายคนโตของยายศพท่านเก็บไว้ให้คนได้เคารพสักการะรวมทั้งผมไปไหว้ท่านบ้าง แต่กิจกรรมผมได้งดไปเช่นกันเพราะว่าเวรที่เข้ามาดูแลผีตานั้นมีญาติพี่น้องอีกชุดหนึ่งคือน้องสาวน้องชายของตา ชุดอยู่ห่างไกลจากบ้านอานองเตไปทางทิศเหนือ20 กม. ได้เข้ามาดูแลรับช่วงสืบไป บ้านอานองเตดูแลท่านในช่วงต้นเท่านั้น หรือระยะก่อสร้างวัดและตอนตาเริ่มบวชเป็นพระ ที่วัดเจ้าคณะอำเภอ บ้านอานองมีเพื่อนบ้านซึ่งเคยเป็นที่พึ่งพาพึ่วงพิงในเชิงคติชนวิทยามาโดยตลอด ปัจจุบันเขาเหล่านั้นได้ก่อร้างสร้างตัวจนรวยมีรายได้จากสวนยางรายวัน ซึ่งมีฐานะดีกว่าบ้านอานองเตในอดีตมากมายนัก เพราะรายได้หลักบ้านอานองเตคือมะพร้าว 45วันเก็บครั้ง แต่ยางบ้านอานองเตไม่ได้ทำ จะมีก็ประปรายในเครือญาติมิได้ครอบครองโดยบ้านอานองเตโดยตรงแล้ว ง มีชนกลุ่มหนึ่งที่เคยพึ่งพาบ้านอานองยังคงมีการพึ่งพิงมาอีกต่อเนื่อง จวบจนวาระที่แม่และพ่อของผมตายลง การพึ่งพิงจึงหมดไปเพราะบ้านอานองเตหยุดเป็นผู้ผลิตและเป็นผู้สร้าง แต่ขายที่ดินแบ่งขายไปเรื่อยจนหมดไปในที่สุด เหลือแต่อดีตเท่านั้น และขโมยเท่านั้นที่มาคอยรังควาญรบกวนบ้านอานองเตอีกต่อไป จะมีรายอย่างอื่นคือการเลี้ยงวัวแบบเร่รอนซึ่งเข้ามารบกวนบ้านอานองเตที่กล่าวไปแล้ว เมื่อชุมชนที่เคยพึ่งพาอาศัยบ้านอานองเตมีฐานดีขึ้นจากการปลูกยางพารา ทุกคนมีรายได้อย่างออกหน้าออกตา มีรถยนต์มีธุรกิจมีกิจกรรมช่วยวัด เมื่อานองเตถ่ายโอนอำนาจทุกอย่างไปที่ชนรุ่นใหม่แล้ว ชุมชนและหมู่บ้านเรื่มเปลี่ยนอัตลักษณ์หมด เช่นวัดเดิมสร้างด้วไม้จากและสังกะสีเปลี่ยนมาเป็นปูนซิเมสต์หมด ทางเดิมเป็นทางเกวียนดินแดงเปลี่ยนมาเป็นทางดำทางปูนซีเมนต์หมด เริ่มมีนำประปาอบตทางราชการมาใช้รวมทั้งไฟฟ้่า บ้านอานองเตเคยมีฐานะดีมากในระดับหมู่บ้านในอดีตทีทุกอย่างเป็นครัวขนาดยัก ที่บ้านมีบ่อน้ำของตนเอง มีเกวียน เทียมด้วยควายหรือวัวที่เห็น มีล้อใช้ล้อไม้ขนาดใหญ่คล้ายเกวียนแต่ใช้ช่วงใกล้ใช้ควาย ไม้ไดก้มาตรฐานเหมือนเกวียน มีเชิงเชิงไม่มีล้อแต่ใช้ไม้เนื้อแข็งแทนล้อค้ำยันคล้องคลอให้ ควายลากไป มีที่ใส่สัมภาระ ตอนเป็นเด็กผมเคยนั่งเชิงไปกับน้องสาวแม่คนหนึ่ง ไปที่ตลาดซื้อของและส่งของแห้งเล็กน้อยในตลาด มีมะพร้าวตากแห้ง ละหุ่ง มะม่วงสุก ขากลับม่อาหารแห้งสดที่เราซื้อมาจากตลาดกลับมาบ้าน ผมจะได้กินนำหวานเย็นหนึ่งถุง มันสนุกมากและชอบที่จะเดินทางไปด้วย เสมอเมื่อเขาใช้เชิงไปตลาด เชิงจะใช้ควายเทียมหนึ่งตัว แต่เกวียนต้องใช้สองตัวล้อใช้ควายเทียมหนึ่งตัวตามปกติ เชิงเวลาแล่นไปคนถือเชือกเชิงจะมีไม้คอยบังคับควาย เพราะจะดื้อ เมื่อเดินไปมันเห็นหญ้อร่อยมันจะหยุดกินทันเมื่อเห็น้ำมันจะหยุด ดื่มน้ำทันที ทางไม่ใช่ทางเกวียนธรรมด ทางขรุขระมาก เดินไปข้างทางรถไฟจนถึงตลาด บางตอนต้องลอดใต้สะพานไม้รถไฟ มีหินใหญ่ขวงาทาง มันคือควายจะเหนื่อยสักหน่อย แต่เมื่อไม้เรียวลงหลัง มันจะกระตุกสิ่งที่มันเทียมเดินไปข้างหน้าทันที ครับ เอ็มวีเท่ากำลังสองที่เครื่อง สมัยก่อนเราใช้ควายที่นี้ บ้านอานองเต ที่บ้านอานองเตมียุ้งข้าวมาตรฐานแยกจากบ้านต่างหาก มีกระเดื่องตำข้าว มีครกไม้ตไข้าว เพื่อแปรข้าวจากมีเปลือกไม่มีเปลือก ครื่องฝัดข้าวมาตรฐานจักรกลเทียมใช้มือเป็นนำมันเครื่องทำงาน และมีที่บดยาเหล็กอีกด้วย มีทุกอย่างที่ชางวนาชาวสวนมาตรฐานมีที่บ้านอานองเต เพราะฉะนั้นการหยิบยืมอาศัยพึ่งพาพึ่งพิง ที่บ้านอานองเตจึงเป็นเสาเอกของหมู่บ้าน จะไม่มีเช่นช่างมืออาชีพเช่น ช่างทำเกวียน ช่างดัก ช่างปอกมะพร้าวเหล่านี้ต้องจ้างเขามา มีกังไว้ขึ้นมะพร้าวเป็นของตนเองอย่างตำ1-2-3ตัวตลอดเวลา บางึครั้งมีลิงเสนด้วยคล้ายกังแต่ตูดแดงที่ซื้อแล้วนำมาฝึกทำงานอย่างกัง พบว่ากังดีกว่า ส่วนหมทาแมวมีเพียง1-2ตัวเท่านั้น ที่บ้านอานองเตไม่ฆ่าสัจว์ จึงไม่ได้เลี้ยงไก่และเป็ดสิ่งเหล่านี้ไม่ชอบตอนสมัยผมเกิดมา มีที่แปลกคือเลี้ยงหมู ผมเห็นแม่เคยเลี้ยงหมูมีคอก แค่หลักใหญ่มะพร้าวอย่างเดียวนอกนั้นไม่ทำอะไร ส่วนบ้านอื่นเขาจะเลี้ยงทุกอย่าง ควายบ้าง ปลาบ้าง ไก่บ้าง เป็ดบ้าง... ที่บ้านอานองเตจะซื้อเนื้อหมูมาทำกินปลามาทอด ทุกวันจะมีคนหาปลาทะเลหาบปลามาขาย ในจำนวนนี้น้องสาวตาอยู่ทะเลจะหาบปลามาขายที่บ้านอานงเตเช่นกันบางครั้ง ยังมีอีกมากจะเล่าให้ฟังต่อไป ที่บ้านอานองเตมีส้วมซึมใช้รายแรก มีเครื่องยาสมุนไพรปลูกไว้จำนวนมาก หลายชนิด มีเครื่องยาโบราณครบชุดทุกชนิดอายุ100-200 ปีขึ้นไปหายาก ปัจจบันหมดไปแล้วให้เขาไๆปส่งพิพิธภัณฑ์ถภูกยักยอก ถูกขโมย และสูญหาย หมดไปเองเพราะทำยา ผมจำได้ว่า ยาสมุนไพรเช่น เขาเลีบงผา นอแรด เขี้ยวเสือ เชี้ยวหมี นอแรด ฟันม้า เขากวาง เขาควายเผือก เบี้ยต่างๆ หนามเม่น เกล็ดตัวนิ่ม เครื่องยาบรรพบุรุษยุคย้อนหลัง400ปีตกทอดมาถึงตากับยายทั้งหมด เพราะตายายแข็งแรงดูแลสิ่งเหล่านี้เก่ง แต่ปัจจุบันหมดไปแล้วตามเหตุผลข้างต้น มาถึงสมัยผมรับมรดกเหลือแต่อดีต ผมเอาเท่านี้ก่อนครับ ผมเหนื่อยแล้วขอพักก่อน 
|
สมาชิกหมายเลข 3538694
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] จึงจือหยาง (jjy) จบไฮสกูล ได้ปริญญาสองใบในไทย เคยเป็นนักเรียนเก่าในอังกฤษและฝรั่งเศส สอบได้ Dip-in-JourจากLondon School of Journalism,MIOJ.ในประเทศอังกฤษ สอบได้นักวาด ว.อ.(แนวนามธรรม)... เป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย..มีสัญชาติไทย (แซ่แต้) พ่อมาจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
Friends Blog MY VIP Friends  |
|||||||||||||
