All Blog
j36 ชนเผ่ากิยองติน




Smiley





jjy6000 
        ชนเผ่ากิยองติน




บ้านอานองเต
ที่เกิดและที่ฝังศพในการตายของข้าพเจ้า
และที่หมาแมวเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากก็เกิดที่นี่
แต่คนละวันที่

เรื่องเกษตรกรรมนีโอของผมเกิดจากความคิดเดิมที่ว่า
ผมปลูกล้วย และยางเอาไว้กว่า50+-ต้นขึ้นไปซื้อหน่อ
มาลงทุนไปหลายเงินตามมูลค่าปรากฏ
ไม่เหลียวแล ปล่อยขึ้นไปกับรกหญ้า ตามธรรมชาติ
อาศัยฝนธรมชาติ
เพราะกลัวเปลืองน้ำ
ใช้เครื่องปั้นนำจากบ่อที่แม่สร้างไวง้ให้ก็มีปัญฐหา
ปรากฏว่าทิ้งไว้ 5  ปีกลับมาดู
พบว่าวัวกินหมด
เรื่องวัวควายและภัยต่าง ๆ  ผมเอาไม่อยู่จะทำรั้วอย่างมั่นคงเราไม่่มีทุน
จบ
สรุปขาดทุน

ผมลองให้เขาลงยาง1000 ต้น แลกปลูกสับปะรด
ปรากฏว่าสี่ปีตามสัญญา
พบว่ายางไม่ได้ผลเท่าที่ควร
ล้มตาย
ระเนระนาดจากพายุฝน
ได้ที่เหลืออยู่ขึ้นต้นไม่เต็มเม็ดเต็หน่วย
พบว่าไม่ได้ผล
ยางต้องมี 5000 ต้นขึ้นไป เมื่อกรีดจึงจะได้ราคา
ทั้งค่ายางและค่าลงทุน
จบ
จึงเลิกยาง
เกษตรแผนนีโอ
พบว่าปุ๋ยกับน้ำคือปัจจัยที่สำคัญ
คนต้องใกล้ชิดดูแลทุกวัน
การจ้างคนค่าจ้างแพงและมีปัญหาแรงงาน
ผมนะครับ   คนอื่นไม่อย่างัย  ผมไม่ทราบ
ผมไม่ทราบจากเรื่องทั้งหมด
ที่กล่าวมา
ถือว่าผมคิดเองทั้งหมด

ผมตัดสินใจขายส่วนบางส่วนของแม่ที่ทิ้งไว้เป็นมรดก
เพราะต้องใช้เงินและ  ต่อสู้ไม่ไหวกับภัยทั้งหมดที่พบเจอ

จึงคิดเกษตรนีโอขึ้นมา
สำหรับคนมีที่  หรือเนื้อที่น้อย
งานเดียวก็พอ
โดยใช้สารเคมีใช้น้ำและนอนกอดนอนดู
ทำเป็นอดิเรก  ตามปรีะสาคนแกอย่างผม
ผมใช้วิธีนี้


ช่วงนี้ผลงานเป็นเพียง
แผนเท่านั้น จึงงดสัมภาษณ์งดโฆษณารออีก 5  ปี
ถ้าผลงานออกมายังชีพได้ค่อยว่ากันอีกที

จากการปฏิการคุณมารดาบิดาเป็นแม่บท
ความคิดเรื่องเกษตรกรรมนีโอนี้มีขึ้น
เพราะไม่รู้จะทำอะไร
ปลูกอะไรก็ได้ที่ขวางหน้าและลงตัว
ไม่หวังต่อผลอะไรมากนักเพียงยังชีพไม่เดือดร้อนคนอื่น
แต่ทำ

ใช้น้ำกินน้ำใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อวัน ๆ ที่ผ่านไปมีอยู่
ปุ๋ยถ้าไม่มีเงินซื้อสารเคมีใช้สัพเพสัตจตาปุ๋ยคอกปุ๋ยหมด
เท่าที่ตนมี
เพียงพอ
อาจจะเรียกว่าเศรฐญกดิจระดับเพียงพอก็ได้
สรุปนีโอของผมคือ ใช้เนื้อที่นิดเดียว
ปลูออะไรก็ได้ที่สามารถทำเงินได้
ใช้เคมีและน้ำเป็นปัจจัยหลัก
แสงแดดนั้นมีอยู่แล้วครับนี่้้คือ นีโอ
ต้นไม้ชอบแดแและปุ๋ยอย่าลืม
ในเรื่องนี้
เม็ดพันธ์คือสิ่งเรากินเข้าไปแล้วนำมาทำพันธ์ได้
ช้าหน่อยแต่ไม่ต้องเสียทุน
พริก ถั่วไม่ถึงหกเดือนได้กิน

ผมเตือนสติผมเองตลอดเวลา
เมื่อลงมือทำ
อย่าเอาอย่างผมแต่นี้คือวิธีของผม
เพื่อให้เทพพ่อและเทพแม่พอใจ
นั่นคือสิ่งที่ผมมีกำลังใจทำไป

เชื่อว่าดีกว่าการพนันกินเหล้าเมายา
ตัวคนเดียวคิดว่าเอาชีวิตรอดได้แน่นอน
ถ้าไม่ตายเสียก่อน

ผมจะทำต่อไปตราบใดลมหายใจมีอยู่และเดินได้กินเป็น
ใช้ทุนเล็กน้อย
หรือไม่ต้องใช้อะไรเลย

การลงทุนอย่างนี้ เชื่อว่าดีกว่าอย่างอื่น
เพราะมองเห็นมันโต
ผ่านใบต้น ดอก
ปุ๋ยตามที่เรียนมาในชั้นมัธยม
คือ เอ็นพี เคเท่านั้นที่ใช้ถ้าจะเอาสารเคมี


ครับเชื่อว่ากำไรโตกว่าดอกเบี้ยถ้าได้ผล
ผมได้รับการเอ็นดูและส่งเสริมบ้าง
จากอดีตและความทรงจำ
ที่ตนเองเคยมีความดีอยู้บ้าง
นี่คือนีโอของผม



ลัทธิกิยองติน
ผมไม่ไดมาสอนหรือชักชวนมาเข้าลัทธิโดยประการทั้งปวง
แต่ว่าผมคิดว่ามันเป็นอย่างนั้นอย่างคิดไปเองกระนั้น
ตามภูมิปัญญาของผม

ลัทธิกิยองตินคือที่มาของเรื่องของชนเผ่ากิยองติน
ชนเผ่ากิยองตินไม่มีตัวตน
ภาพวาดในฝันและคิดเอาเองตามความเข้าใจของผม
ชนเผ่านี้ไม่มีตัวตนในโลก
มันถูดสมมุติขึ้นมา
เพื่อรองรับสถานการณ์
ที่ไม่คาดฝันแต่อาจจะมีอยู่จริง
หรือไม่ผมไม่สัญญา
ในสภาพของคนคิดและจิตว่าง


กล่าวคือชนเผ่ากิยองติน
หาเช้ากินคำ
หรือไม่ก็คนที่หาเช้ากินคำในรูปแอบแฝง
ขนเผ่านี้มีปรัชญาว่า
เมื่อไม่มีจะกินหมดตัว
จะหยิบฉวยอะไรของใครที่หยิบได้เมื่อมีโอกาสแล้วพาไปกิน
เลี้ยงลูก หรือตนเองหรือเมีย
ที่ทำอย่างนั้นเพราะถือว่าตนเองจน

เกิดมาเท่าที่เกิดมาไม่มีสัมบัติหรือนสิ่งตกทอดมาถึงตนด้วยอะไรเลย
หรือคนในเผ่านี้
ไม่คำนึงถึงกฏหมายอาญาเรื่องขี้ลักขี้ปด
อะไรเทือกนี้ทั้งสิ้น

คิดจะทำก็ทำ
ชอบอยู่ในที่มืดเขาดำรงชีวิตแบบลับๆล่อ ๆ
เขาจะรู้้วิธีทางสมุนไพรที่เขาพบเองและประสบ
มาอย่างดี
จากการลองผิดลองถูก หรือจำสืบทอดกันมาแล้วนำไปดำรงชีพ
เขาไม่กลัวผี ไม่กลัวกลางคืน
เขาสามารถขโมยไก่วัวควายจากชาวบ้านได้
โดยไม่มีร่องรอยตามจับไเขาได้
แม้ตามจับได้เขาก็ไม่สารภาพ
การติดคุกเขาถือว่าได้เข้าวกินในคุกฟรี
โดยไม่ต้องแสวงหา
ไม่ต้องเหนื่อย

เขาจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มอย่างไม่มีองค์การหรืองค์กร
แต่เขารวมตัวกันประสานงานกันโดยบังเอิญ
เพราะความหิวกำหนด
เพราะสภาพของคนในเผ่าที่ว่านี้
มีสภวะที่เหมือนกัน

ชนเผ่านี้ไม่ีศาสนา
ศาาสนาคือแหล่งอาศัยเพื่อกินอยู่ด้วยได้
ในความคิดของเขา
ส่วนจิตใจส่วนลึกเขาไม่รู้ว่าศาสนาคืออะไร
บาปบุญคุณโทษมีจริงหรือไม่
พวกชนเผ่านี้ไม่รู้

ที่ใดอาศัยได้เขาจะสวามิภักดิ์
และถ้าเผลอจะทรยศ
และหักหลังทันที
เมื่อมีที่ไปที่ดีกว่า

ขโมยของหนีไป
การขโมยคือกฏเหลล็กของชนเผ่านี้
แม้เจ้านายจะเมตตาเขาดีอย่างไร

เพราะเขามีปรัชญาว่าเขาจน
มีชีวิตเพื่อมื้อต่อไปเป็นหลัก

เขาหน้าซื่อใจคด
จากปรัชญาที่ว่า
เขาเกิดมาจน
สามารถทำอะได้้ทุกอย่าง
เมื่อมีโอกาส

เขาจะอิจฉาคนที่ดีกว่า
ขี้เกียจกินอนเที่ยว
งานหนักไม่เอางานเบาไม่สู้และไม่ทำ
เหล้ากินถ้ามี

ชนเผ่านี้แม้ได้ทำงานถ้าเผลอนายก็เป็นอื่น
เขาจะรู้วิธีทำให้วัชพืชขึ้นแพร่หลายแกล้งคนที่เขาไม่ชอบ
หรือเพื่อเขาจะได้รับงานจ้างเข้าไปทำ เมื่อเจ้าของสวนทำวัชพืชไม่ไหว
(เพราะวัชพืชเม็ดเดียวสามารถแพร่ได้รวดเร็วเท่าเชื่อ้ไวรัสและแบคทีเรีย)
และเมื่อไม่ได้ผลประโยชน์จากจุดเป้าหมายใดๆ ก็ตาม
เขาไม่มีจรรยาบรรณและคุณธรรมใดๆ
ที่โลกกำหนดว่าถูก


เขาจับสัตว์เช่นหนู
งู กบเขียด อึ่งอ่าง
ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติกินเป็นอาหาร
วัชพิชที่เกิดขึ้นที่กินได้
เหมือนชาวบ้านธรรดากระทำ แต่เขาทรหดกว่า


เขาไปแสวงหามากิน
ไม่ว่าเรือกสวนไร่นาใคร
เขาจะบุกเข้าไปเอามากิน
ที่พลาดตาเจ้าของ เอาที่กินได้
และพลาดตาเจ้าของปืน  ตำรวจ หมา
เขากลัวความสว่างมาก


คนเผ่านี้น่ากลัวเป็นอันตรายต่อสังคม
ถามว่าคนเผ่านี้มีในโลกแห่งความจริงหรือไม่
คำตอผมตอบว่าไม่ทราบ
เพราะเป็นชนเผ่าที่สมมุติขึ้นมา
แต่อาจจะถูกพาดพิงไปเป็นชนเผ่านี้ถ้ามีนิสัยเหมือนกับชนเผ่านี้
ดังที่กล่าวแล้วได้เช่นกัน
ผมคิดว่าอย่างนั้น


อาจจะผิดจะถูกคิดเอาเอง

ให้ถือว่าชนเผ่าในนิยายเชิงลบก็แล้วกัน

ชนเผ่ากิยองตินสามารถจับผึ้งมากินได้ทันทีเพียงใช่บุหรี่มวนเดียว
ชนเผ่ากิยองตินสามารถจับต่อตาเสือ  ต่อหลุมมากินได้ทัน
เพียงใช้ควันไฟจากคบใต้ เพียงหลักว่าเมื่อต่อ
มันมาใกล้ตัวหกรือเกาะแตะต้องที่ร่างกายให้ปัดทันที
อย่าขยี้เพราะมันมีเหล็กไน
สามารถฝังเข้าเนื้อและต้องเจาะออกด้วยเข็มหรือหมอเท่านั้น
พิษต่อหลุมต่อตาเสือและตัวต่อแรงมาก
อาจถึงตายได้


คนเผ่ากิยองตินกลัวแตนแมงสังกะเนียน
ชนเผ่ากิยองตินจะปล้นบ้านใคร
เขาใช้เสียงนกกาสัตว์เลี้ยง
เลียนแบบเสียงเพื่อส่ง
ซิกถึงกันได้ในยามค่ำคืนและกลางวัน
เขาสามารถเลียนแบบได้เหมือนจริง

ชนเผ่ากิยองตินสามารถผลิดอาวุธได้เองจากมือด้วยมือและไม้ที่เขารู้จัก
ด้วยวิธอย่างง่ายๆ  แต่ใช้ได้
ถ้าโดนคนถูกที่ถึงตายได้เช่นกัน


ขนเผ่ากิยองตินบางคนกินเหมือนหมูอยู่เหมือนหมา
บางคนก็มีระเบียบเรียบร้อย
คนเผ่ากิยองตินเริ่มมีอาจจะมีเนตเวิกร์ในการ


ทำงานสานต่อกันผ่านเครื่องโทรศัพท์
ในมุมแคบๆได้
 ทางไกลได้บ้างที่ไม่ต้องใช้ทุนมาก

ชนเผ่ากิยองตินรู้ว่าเครื่องมือถืออย่าให้เปียกฝน
ด้วยการใช้ผ้าถุงพลาสติก
ห่อไว้เเล้วไปท่ามกลางฝน
เครื่องโทรมือถือจะไม่เปียก้ำและใช้
ได้ดีเหมือนทั่วไปใช้กัน
ที่ที่มือถืออยู่ในที่ร่ม

ชนเผ่ากิยองตินรู้จักกลัวฟ้าผ่ากลัวสายฟ้า แต่ไม่กลัวฝน

คนกิยองตินไม่คำนึงถึงชีวิตหลังควมตาย
แต่ไม่พบว่าคนเผ่ากิยองตินกินมนุษย์เป็นอาหาร
แต่สัวว์นอกนั้นที่เขากินได้
จะกินหมด
เขาเห็นสัตว์เหกมือนแมวเห็นหนู

คนเผ่ากิยองติยนชอบหาจับสัตว์เช่นอึ่งในเวลาที่ฝนมา
เหมือนชาวบ้านทั่วไป
และมีอึ่งขึ้น เหมือนคนหาอึ่งทั่วไป
ในยามคำคืน

คนเผ่ากิยองตินกินกระท่อมและกัญชาเมื่อพบว่ามี
และไม่มีใครจับได้คนเผ่ากิยองตินเห็นแก่ตัว
และคอยถ้าจะฉวยโอกาสอยู่อย่างเดียว
เพื่อรอเหยื่อที่พลัดหลงเข้ามา
รวมทั้งมนุษย์

คนเผ่ากิยองตินไม่ชอบกินกาแฟและน้ำชาที่มนุษย์ธรรมดาบางคนชอบกิน
แต่เขาจะกินนำร้อนและต้มด้วยใบหญ้าแห้ง
ดื่มนำโสโครก
ที่เขาเชื่อว่าเป็นสมุนไพร

เขาไม่เคยป่วย
ถ้าป๋วยหายเอง หรือตายมีเท่านั้นสำหรับคนเผ่ากิยองติน
เป็นแรงไม่ทันถึงหมอตายก่อน
และเขาไม่ชอบหมอ


บางครั้งคนในเผ่ากิยองตินฆ่่ากันเอง
ขนเผ่ากิยองตินมีผู้หญิงผู้ชายเท่าๆกัน
ไม่ขาดหรือสุญพันธ์
แต่ชนเผ่านี้กำลังจะหมดไปจากโลก
เพราะมนุษย์ส่วนมากมีคุณธรรมที่ดีกว่า


ยังคนเผ่ากิยองตินแอบแฝงอยู่ในสังคมมนุษย์
และเมื่อมีโอกาสเขาจะแสวงหาประโยชน์และหลบหนีไป
หรือส่งสื่อ
ซิกต่อกันเพื่อหาผลประโยชน์ให้กับชนเผ่าของตนด้วย
เขาไม่ชอบสังคมมนุษย์


งานศพของคนเผ่ากิยองตินดูเหมือนจะไม่มี
ถ้ามีก็มีคนมีเมตตาจัดให้อย่างเงียบ
และเผาเก็บตามสัพเพสัตตาตามวัดหรือหน่วยงานกุศล
บริจาคจัดให้
และไม่แสดงตนว่าเป็นคนเผ่ากิยองติน


คนเผ่ากิยองตินจะไม่แสดงตนเป็นคนเผ่ากิยองตินแต่อย่างใด
ไม่มีสัญลักษณ์อุดมการณ์อะไรที่จะแสดงให้เห็นว่มาจากเผ่านี้
เหมือนคนธรรมทั่วไป  เมื่อเขาปรากฏตัว
เพราะเขามีปากจมูกตาทุกอย่างเหมือนมนุษย์
จะมีก็แต่ความรักผูกพันธ์ความเข้าใจในปัจจุบันเท่าที่เห็นหน้ากันในระหว่างคนในเผ่าเท่านั้น


สังคมเผ่านี้เป็นสังคมลับหลังมนุษย์
ใช้ชีวิตแบบเลื่อนลอย
ทำไร่ทำนาไม่เป็น
ได้แต่ไปรับจ้างมนุษย์ทำงาน
เพื่อแลกเงินค่าจ้างหรือเพื่อแลกข้าวสารกิน
ไปมื้อๆหนึ่ง


ชนเผ่ากิยองตินไม่เป็นศัตรูกับทหาร
เพราะไม่มีองค์กรต่อสู้ด้วยอาวุธกับรัฐ
เรียกว่าสิงห์ปืนฝืด
ไม่ต่อสู้กับใครซึ่งหน้า

ชนิดหลบและหนีเอาตัวรอดอย่างเดียว
ขอเพียงได้กินรอดไปวันๆหนึ่ง
เป็นทัศนคติประจำตัว

ชนเผ่ากิยองตินไม่ปลูกผักสวนครัวไว้ขาย
จะมีก็เพื่อตนเองหรือนำไปแลกกับเพื่อนบ้าน


ไม่ค่อยมีใครนิยมจ้างคนเผ่ากิยองตินมาทำงาน
ถ้ารู้ว่ามาจากคนเผ่านี้

คนเผ่านี้จะคอยจ้องว่าบ้านใครมีอะไรบ้าง
 ถ้าเผลอจะเข้าไปลัก
และแนะนำให้เพื่อนในเผ่ารู้และลักของมีค่าพากันไปขาย
ด้วยวิธีการแนบเนรยนยากที่สายตาคนธรรมดานอกเผ่าจะสังเกตได้


กินเพื่อประทังชีวิต
จะเป็นคนป่าก็ไม่ใช่คนดอยก็ไม่เชิง
หรือผีก็ไม่ถนันดที่จะสมมุติ


คนเผ่านี้ไม่รู้ว่าความรวยคืออะไร
รู้แต่มื้อต่อไปของตนเอง
มีอะไรบ้าง


ชนเผ่านี้ฆ่าสัตว์กินอย่างทารุณ
ในสังคมเผ่ากิยองติน จะไม่แสดงตนเป็นคนเผ่านี้เพราะสังคมรังเกียจ
แม้ทางกฎหมายถือว่าเป็นมนุษย์
ชอบป่าและปราศจากผู้คน

คิดว่าถ้าตนได้ขโมยของมีค่าแล้วหนีรอดไปอยู่ป่า
ถือว่าเป็นความสำเร็จอันใหญ่สูง
คนเผ่ากิยองตินจะแต่งงานกับคนในเผ่าเดียวกันเท่านั้น
เพราะคนนอกสังคมนี้ไมใต้องการ
เมื่อรู้ว่ามาจากเผ่ากิยองตินแล้ว

คนเผ่ากิยองตินอาจไปขายตัว
และ
เมื่อได้เงินงินกลับมาเพื่อดูแลครอบครัว
แต่ถ้าได่้โอกาสจะเอาเงินหนีไปป่าที่คิดว่าตนจะรอดได้ทันที


ในสภาพที่ทำให้เป็นคนเผ่าเดียวกันโดยพึงพอใจกันตามสภาพ
มิใช่  หรือมิได้มีคุณธรรมต่อเผ่าในความคิดแต่อย่างไร


คนเผ่านี้มีหัวหน้าเผ่าลูกเผ่า
แต่ไม่ปรากฎตัวให้เห็นและมีเครื่องหมายแสดง
แต่ในเวลามีภัยทุกคนเท่าเทียมกัน
ใครมีความคิดดีกว่าไวกว่าเป็นหัวหน้าเผ่า
หรือสลายความเป็นหัวหน้าเผ่าทันที
เมื่อภัยมาถึง

ที่แพ้ภัยก็เผ่นหนีเอาตัวรอด
 ที่ชนะภัยก็ปักหลักหาเช้า
กินค่ำ ต่อไป รอเมื่อเมื่อโชคมาเยือน
เขาก็ตามหาคนในเผ่ามาอยู่ด้วย

แต่นิยมกระจายหกันอยู่
มาพบกันบ้าง
โดยบความบังเอิญเท่านี้
เขาก็มีควมสุขเพียงพอแล้ว
สำหรัยบการเป็นเพื่อนเผ่าเดียวกัน

ชนเผ่านี้มีปรัชญาทำความผิด
ถ้ากฎหมายมองไม่เห็นตำรวจไม่รู้
 เขาถือว่าไม่ผิดกฏหมาย

ผมเล่ามาถึงตอนนี้ขอบอกว่าผมฟังเขาเล่าต่อๆกันมา
จากหลายคนหลายแหล่งที่มาผมจำไม่ได้ว่ามาจากที่ไหนบ้าง
ไม่อยากทวนเพราะเปลืองสมองเปลืองเงินรักษาตัวรักษาธำรงสมองให้ความคิดเต้นอยู่
ในอารมณ์ที่จะคิดจะทำในกิจที่ผมจะทำ
จากป่าภูเขาลำเนาไพร
โลกกว้างเกือบทั่วโลก ขณะผมเดินทางผจญภัย
ลืมไปบ้าง เหนื่อยบ้าง เอาเท่าที่จำได้ทบทวนได้
ภาษาที่เขียนไม่มีอักขระวิบัติ อ่านได้
ติดตามได้แบบสบาย ๆ
และไม่มีพิษมีภัยต่อตนเองและคนอื่นเป็นนโยบายหลักและนโยบายย่อย


แต่สรุปแล้วชนนี้ผมคิดว่า
เป็นเผ่าเพียงอุดมคติเท่านั้น ไม่มีอยู่จริงหรือ
จะมีพาดพิงถึงคนมีนิสัยคล้ายกันนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ที่เกิดขึ้นเหมือนกันโดยบังเอิญ
ผมไม่ทราบ

แต่ละเรื่องอย่างและยังมีอีกเผ่าหนึ่ง
ที่มีทัศนะคติตรงกันข้ามกับเผ่ากิยองติน คือเผ่า

ดิบองจิ
เผ่าดิบองจินี้มีการปะทะกับเผ่ากิยองตินบ้าง
เผ่านี้เป็นเผ่าชนในอุดมคติเช่นกัน
ไม่มีหรือมีอยู่จริงในโลกมนุษย์ไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องเล่าต่อไๆ กันมา
อย่างนั้น
ครับคือว่า
แต่เป็นเรื่องเล่า


และเพื่อให้มองเห็นภาพพจน์ของชนสองเผ่านี้
และมาสำรวตนเอง และระวังภัยถ้ามี
ผมเลยอดใจฟังเขาเล่าและเพื่อเอาใจคนเล่าผมก็ทนฟัง
ถ้ามิฉะนั้นผมอาจจจะไม่มีที่กินที่นอน
เมื่อเราไม่ทำตนเป็นฑูตที่ดี เมื่อเดินทางมาและเหนื่อย
และพบบ่อน้ำเจ้าของน้ำ จึงอดใจฟังฟังและมาเล่าต่อ
และไม่ได้คาดคิดเลยว่าจะมาเล่าใหเใครฟังอีก

อย่าลืมว่าเวลากล่าวว่าเขียนหนังสือบล็อกนี้
ที่จริงมิไดใช้นิ้วจับปากกาเขียนเหมือนแต่เก่าก่อน
แต่ที่จริงสองนิ้วจิ้ม
คือใช้นิ้วปลายสัมผัสกระทบแท่นพิมพ์
และออกมาเป็นตัวหนัวสือ


เพราะสมัยก่อนนั้นจะเขียนหนังสือ
เขียนเสร็จพาไปจ้างเขาพิมพ์
พอพิมพ์เสร็จอัดโรเนียวลงกระดาษไข ก่อน
และพิมพ์ออกมาด้วยเครื่องอโรเนียว

ถ้าเข้าโรงพิมพ์ก็ต้องมีช่างพิมพ์
ช่างแท่น
ช่างตรวจปรู๊ฟ
ช่างเรียงพิมพ์
ช่างขาย
ช่างส่ง
ช่างโอเลี้ยง
ช่างพับ
ช่างเย็บ
ช่างปก
ช่างทากาว
ช่างเข้าเล่ม
ช่างกราฟฟิค
และยังมีอีกหลายช่างผมคิดไม่ออก
ก่อนหนังสือจะออกมาเป็นเล่มให้อ่านได้
และโรงพิมพ์ต้องจดทะเบียนกับสันติบาลตำรวจเรียบร้อยด้วย
หนังสือจึงจะพิมพ์ออกมาให้อ่านได้


แต่เดี๋ยวนี้ยุคดีเอ็นเอที่ผมนิยามไว้นั้น
ยุคนี้มันเสร็จทันทีอ่านได้เลย
ด้วยระบบคอมพิวเตอร์


แต่ในยุคดีเอ็นเอนี้
ทุกอย่างทำได้เสร็จในตัวเอง
ไม่เหมือนกันอย่างนี้

ชนเผ่ากิยองตินกรณี
เขาวางแผนจะฆ่าใครสักคนแบบให้กฏหมายเอาเรื่องยาก
จะจ้างวานถูกจ้างวางหรืออะไรสุดตามแต่
เขาจะใช้ปืน
เขาทำทีล่าสัตว์  เช่น ล่าไก่เถื่อน อีเก้ง กวาง  นก  ช้างป่า ชะนี ลิง  อะไรสุดตามแต่จะมี
หรืออาทิ เช่น
ไปยิงกระรอกหากระรอกมากินใช้ปืนเถื่อนโดยมากปืนยาว
ปืนลูกกรด


หรือแม้แต่หนังสติ๊กที่นิยมกันในเผ่า
เขาทำทีว่ายิงกระรอก แต่ยิงโดนเหยื่อเป้าหมายตาย
แต่กระรอกไม่ตาย มันไวกว่าหนีไปทัน
ตามสัญชาตญาณของกระรอก
ดังนี้เป็นต้น

วิธีการหนึ่งที่ชนเผ่่ากิยองตินทำได้ผล
ยังมีอีกหลายพฤติการณ์
 ผมนึกไม่ออก เมื่อนึกออกแล้วจะมาเล่าสู่การฟัง


มีคำถามสะดุดคิดขึ้นมาว่า
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องสืบค้นญาติ
จากหัวข้อจึงจือหยาง jjyด้วยเล่า
ผมตอบว่าคนอื่นไม่รู้อย่างไร แต่สำหรับผมเกี่่ยว
เนื่องจากว่าการตัดสินใจทำอะไรที่เกี่ยว
กับความเป็นความตาย
ของเทพพ่อเทพแม่นั้น
เป็นเรื่องใหญ่มาก


เพราะท่านให้กำเนิดเรามา
ในฐานะที่ท่านเป็นมนุษย์
และเป็นพ่อเป็นแม่ของผม

การจะทำให้ศพและสุสานของท่านและตัวผมเองคนเดียว
เพื่อมิให้มีปัญหา
ภาระให้คนอื่นพูดได้ทีหลัง
หลังจากที่ผมตายไปแล้ว
จะต้องคลีน และเคลียร์คัท
ว่าอะไรควรเป็นอะไร


การตัดสินสินใจเรื่องใหญ่
เช่นคดีสำคัญจะใช้เวลานานกว่าจะเสร็จ
คดีสำตัญใหญ่ทำวันเดียวที่จะไห้เสร็จทันทีทำไม่ได้
ต้องสืบสาวเรื่องราวทั้งหมดที่เป็นจิกซอร์อยู่
มาเป็นภาพที่สมบูรณ์เพื่อเอาผิดเอาถูกคนทำผิดทำถูกได้นั้น
ต้องผ่านหลายกระบวนการฉันใด
เรื่องของผมก็ฉันนั้น

หรือจะว่าผมมีความสำคัญมากนักรึ คำตอบคือไม่ใช่
แตทว่าคนตายคนเกิดนั้นถูกยอมรับว่า
มีสภาพบุคคลเทียบเท่าเทียมกันหมด ไม่มีชั้นวรรณะเผ่้าพันธ์และศาสนา
ตามกฏหมายปัจจุบัน

สรุปไม่ว่ารวยดีมีจนต้องทำทะเบียน
และชันสูตรพลิกศพ
และสอบสวนหาสาเหตุการตายอย่างเด่นชัด
มนุษย์ไม่ใช้สัตว์เดรัจฉาน


หมาตายหนึ่งตัวเกิดหนึ่งตัว
ไม่ต้องแจ้งเอาใบเกิดหมาใบตายหมาที่ อำเภอ
แต่คนต้องมีเสมอไป
มิฉะนั้นผิดฏหมายดังที่ทราบกัน

เอาละสรุปผมต้องสืบสาวแนวความคิด
และนำมาสนับสนุนการตัดสินใจ
ว่าควรทำอย่างไรดีกับศพตนอง
หลังตายและสุสานบิดามารดา
หลังที่ผมตายไปแล้ว


เพราะผมเชื่อว่า
คนรุ่นหลังที่มอบหมายอำนาจไว้
เชื่อหรือว่าเขาจะทำให้ตามเราคิดเสมอไป
เขาก็มีภัยอาจตายก่อนเรา หรือมีเหตุจำเป็น
ที่แก้ตัวได้ไม่ทำอย่างที่เราวางแนวทางเอาไว้
หรือเราจะมีเวลาว่างสำหรับวิญญาณของเรา
มาคอยหลอกหลอนเตือนสติเขา

เพราะวิญญาณของคนตายก็ต้องมีเาลาว่างสำหรับ
การท่องเที่ยวไปในแดนอมตะโลกหน้าที่เชื่อว่ามีอยู่บ้าง
ไม่มากก็น้อย   ผมเชื่อว่าต้องมี


คือระวังล่วงหน้า
ที่เขาที่จะทำตามที่ผมคือเรามอบอำนาจไว้ไม่ได้
แล้วสิ่งที่ตามาคือ
เป็นขี้ปากชาวบ้านตามเคย


ผิดเจตนารมณ์ของผมที่ตั้งใจไว้ก่อนตาย
 และอนึ่งถ้าบังเอิญเทพแม่ยังไม่นิพพาพ
เมื่อผมตายไปพบท่านทั้งสองเข้าในโลกหน้า
ที่ห้องอมตภาพทางวิญญาณ
 ผมเชื่อว่าผมต้องโดนด่าแน่
และผมถือเป็นการเนรคุณในทางอ้อมอีกด้วย


และผมลงทุนลงแรงมามาก
ถึงขนาดนี้
เพือให้การสืบสาวเรื่องนี้
เป็นไปอย่างเรียบร้อย
และมีมีปัญอะไรอีก
และเป็นอมตะ
เรื่องของบล็อกนี้จึงได้เกิดขึ้น

เผ่ากิยองติน
สัตว์เลี้ยงเป็นหมาส่วนตัว
ส่วนเผ่าดิยองติมีแมวเป็นสมุนส่วนตัว
ที่จริงขอบเสือ
เพราะกลัวเสือมันกินเอา เลยเลี้ยงแมวเป็นสมุนสำหรับคนเผ่าดิยองตินี้


สรุปกิยองตินเผ่านี้มีหมาเป็นสมุนที่พวกเขารักและเลี้ยงดู
ในเฉพาะที่หมาที่เขาเลี้ยงไว้เท่านั้น
เขารู้ว่าหมาทำอย่างไงดุและกัดคนเก่่ง
และหมาของเผ่ากิยองติน
ขโมยเก่ง
มันสามารถไปขโมยของเหยื่อเป้าหมาย
และคาบมาให้หัวหน้าเผ่าเจ้าของได้
โดยเหยื่อเป้าจะไม่สามารถรู้ได้


หมาเป็นสัตว์ฉลาดและรักเจ้าของ
หมาเป็นสัตว์ในเทพนิยายอียิปต์มี
ชื่อว่า เทพอนูบิส เรียกว่าเทพหมา
ในศาสวนาอียิปต์โบราณ


สรุปหมาในเผ่ากิยองติน
มันมีเพื่อคาบอาหารมาให้เจ้าของกินและใช้ด้วย
เช่นขโมยถุงมือทำงานหญ้าหนามกันเจ็บขณะทำงาน
ที่เหยื่อเป้าหมายเจ้าของลืมหรือทิ้งไว้
หมาในเผ่ากิยองติเชี่ยวชาญมากในเรื่องนี้
 สิ่งอื่นด้วยที่หมาในเผ่ากิยองตินมันสามารถทำได้

ชนเผ่ากิยองตินเขาหาวิธีหากินกับเหยื่อเป้าหมาย
วิธีนี้
สรุปชนเผ่ากิยองติวิธีนี้
สามารถบั่นทอนกำลังใจเหยื่อเป้าหมายให้ตายไปในที่สุดได้
 ด้วยทำให้เหยื่ออารมณ์เสีย และทำอุบัติเหตุให้เกิดขึ้นต่างชนิดตามมา
ชนเผ่ากิยองติเก่งในเรื่องนี้มาก


มีหลายวิธีการเล่าไม่หมดและผมจำไม่ได้
นึกไม่ออกเท่าที่เล่่ามีนี้คิดว่าพอเพียง


และด้วยวิธีการสะกดจิตหรือแบบทำผีเข้าชงบ้านกลุ่มเป้าหมาย
ยังมีอีกเช่นต้นไม้เบื่อเมา
เบื่อปลางูกินรปลา มีอะไรบ้าง
ชนเผ่ากิยองตินรูดีมาก
พวกเขจาชอบกินสัตว์ปิดสัตว์เช่น
บึ้งปอ้ง ตะขาบย่างตัวนี้อร่อยนกว่้ากุ้งย่าง แมงป่อวง แมง แมลงต่างๆ ที่ชาวบ้านก็ชอบกินเหมือนกัน
เคยมสงครามแย่งรูบึ้เง แย่งกะแย้กัน
จนเกิดสงครามล้างเผ่าพันธ์ทั้งโฏคตรก็มี
เพียงบึ้งรูเดียว กหะแย้รูเดียว
เขาเผ่ากิยองติ ดักนกเก่ง และได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์
ดักไก่เถื่อนไก่ป่านี้แน้่นอน เที่ยวไหนเที่ยวนั้นย
เขาต้องได้อะไรมาหลังออกป่า
เขาจะเก่งกว่าชาวบ้านทั่วไปมากมายนัก

เขาสามารถอดมื้อกินมื้อได้สบาย
เขาไม่ไข้มาเลเรีย เขาไม่แพ้พิษยุง
และงู
เขาจะมรีวิธของเขาด้วยพืชสมุนไพร
ซึ่งไม่มีใครรู้


แต่ถ้าแพ้เขาก็ตาย
เขาปล่อยตายไปตามสภาพทันที
เชื่อว่าถ้าเขาแพ้ยุงวมาเลเรีย
คนเผ่านี้คงหมดไปสูญพันธ์ไปแล้วเป็นแน่
แต่ชนเผ่านี้ยังเหลืออยู่เชื่อว่าอย่างนั้น
จนกว่าตุึกอาคารใหญจะมาถึง


หรือเขาได้กลายเป็นเป็นเผ่าอินเดียแดง
อย่างในอเมริกาที่ก็ได้ที่สูญพันธุ์
และถูกกลืนโดยอารยธรรมอเมริกาก็ได้
ผมเดาเอา
จริงเท็จอย่างไร ลองสืบค้นเอาเองก็แล้วกัน


เมื่อเห็นว่าเหยื่อเป้าหมายอ่อนแอ
ชนเผ่ากิยองตินเขาจะรวมหัวกัน
 และเข้าไปสร้างสถานการณ์แบบจับผีลุกปลุกผีนั่ง
ชนิดไม่เห็นคนทำคนสั่ง
ทุกอย่างดูเป็นธรรมชาติหมด
เมื่อทำได้ผล

ชนเผ่ากิยองตินรู้ลมรู้แดดเป็นอย่างดี
รู้ดินรู้น้ำว่ามันจะเป็นอะไรทันทีท่ี่เขาเห็นสิงเหล่านี้


เขาจะเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์

จากชาวบ้านกลุ่มเป้าหมายนั้นทันที
เขาทำอย่างไร
คนทั่วไปตามปกติที่มิใช่ชนเผ่ากิยองติน


คือคนธรรมดา
เมื่อกินไม่ได้นอนไม่หลับปัญหาจะตามมา
แลบะชนเผ่ากินยองตินจะทำให้เหยื่อเป้าหมาย
 กินไม่ได้นอนไม่หลับ
โดยการกวนสมาธิ

เช่น
ใช้ควายเวัวม้าวสัตว์เลี้ยงอื่น
ข้ากวนสมาธิ ละเมิดบุกรุกชาวบ้านที่หากินโดยชอบธรรม
ด้วยวิธี่คอยแกะคอยเกา คอยดักคอยเจาะทุกวิถีทาง
ทำจนเหยื่อเป้าหมายตายสำเร็จ

อย่าให้เหยื่อมีสติรอบคอบได้
ทำให้เทพเจ้าแห่งความระวังกระเด็นออกจากปลอกคอของเหยื่อเป้าหมายให้ได้


ใช้สุนัขเห่ากวน
ใช้แมวอาละวาดในยามค่ำคืน
ใช้งูโดยเอางูมาปล่อยให้ชาวบ้านกลุ่มเป้าหมายหวาดกลัว
บางครั้งใช้กลิ่น

ใช้ต่อหลุมต่อตาเสือทำรัง
และหวงรังทำให้มันจำกลิ่นเจ้าของได้ แต่ตามต่อยกัดคนที่แปลกหน้า
ที่หลงเข้ามาในถิ่นชนเผ่ากิยองติน
พิการตายอย่างทรมานได้


บางครั้งใช้วิธีมากมาย เล่าได้ไม่หมด
คนเล่าคือผมจะเหนื่อยล้า
 เมื่อจะเล่าให้ละเอียดลออกว่าไปอีก

สรุปคนเผ่ากิยองตินเขาทำ
เพื่อแสวงหาผลปผระโยชน์
ของเขา เพื่อการอยู่รอดของเขา
ทำให้ชาวบ้านกลุ่มเป้าหมาย
ให้อยู่ในกำมือของตนให้ได้
และบางครั้งถึงให้ตายในที่สุด
คนเผ่ากิยองตินกลัวระเบิดนิวเคลบียร์กหลัวระเบิดขนาดกใหญ่
แต่ไม่กลัวฝนน้ำท่วมหลาก แดดแสนร้อน
เขาชอบอากาศอย่างนี้
เขาไม่กลัวตย แต่กลัวการมีชีวิตรอดอยู่เท่านั้น


สำหรับชาวบ้านที่ขวัญอ่อน

ชาวบ้านที่อ่อนแอจะตรอมใจตายในที่สุด
ดเวยวิธีการของชนเผ่ากิยองติน
ชนเผ่ากิยองตินช่ำชองวิธีนี้มาก
และไม่มีใครจับผิดได้แม้แต่กฎหมายก็อาจจะเอื้อมไม่ถึง
หรือเมื่อกฎหมายมาถึงปรากฏว่า


ชนเผ่ากิยองตินสลายตัว
หายเข้ากลีบเมฆไปหมดแล้ว
 และหายเงียบหนีเข้าป่าไปหมดแล้ว

ตามจับไม่ได้คว้าน้ำเหลว
แม้ในยุคดีเอ็นเอ
ไม่ว่าใครไม่พ้นสายตากฏหมายไปได้
แต่ต้องใช้คนเวลาอุปกรณ์จนกว่าจะพบพวกเขาได้


มีอย่างเดียวคือชาวบ้านธรรมดาเมื่อสงสัยหรือรู้เบาะแส
รีบป้องกันตนเองเท่านั้น
ทางปลอดภัยที่สุด


คนเผ่ากิยองตินไม่ใช้เงินและไม่ใช้ธนาคาร
จะใช้ต่อเมื่อจำเป็นต้องแอบบแฝงเข้าไปในสังคมที่จำเป็น
เข้าไปในโลกมนุษย์เท่านั้น
คนเผ่ากิยองตินไม่แต่งตัวเป็น
เสื้อผ้าใส่ตามมี
และไม่ค่อยรักษาความสะอาด
ไม่ชอบใช้สบู่เพราะต้องใช้เงินซื้อ
เว้น
แต่เขามาในสังคมมนุษย์สิ่งแวดล้อมบังคับเขาให้ทำ

โลกเจริญขึ้นมาก มีคนดีมากที่สุดตอนนี้ยุคดีเอ็นเอ
ส่วนคนชั่วอย่างชนเผ่ากิยองตินนี้
เชื่อว่าไม่มีหรือถ้ามีคงจะน้อยลง
และหมดไปในที่สุด


เพราะกฎหมายและตำรวจ
และยุคดีเอ็นเอคอยจับตาดูอยู่

Smiley




Create Date : 23 พฤษภาคม 2560
Last Update : 20 กันยายน 2560 12:11:26 น.
Counter : 844 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3538694
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



จึงจือหยาง
(jjy)
จบไฮสกูล
ได้ปริญญาสองใบในไทย เคยเป็นนักเรียนเก่าในอังกฤษและฝรั่งเศส
สอบได้ Dip-in-JourจากLondon School of Journalism,MIOJ.ในประเทศอังกฤษ
สอบได้นักวาด ว.อ.(แนวนามธรรม)...
เป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย..มีสัญชาติไทย (แซ่แต้) พ่อมาจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
New Comments
MY VIP Friends