All Blog
นวนิยายเรื่อง บ้านอานองเต127


 นวนิยายเรื่อง
บ้านอานองเต127





ผมฟังเพลงก่อน
Mozart - Lacrimosa
Dmitri Shostakovich - Waltz No. 2
Tchaikovsky - Waltz of the Flowers
Dvorak - Romance for piano and violin, Op.11
Teresa Brewer - A Tear Fell
Mendelssohn - Songs Without Words

(complete set) - Rena Kyriakou
Mendelssohn - Songs Without Words
(complete set) - Rena Kyriakou



มาถึงบทนี้
เรื่อง
การถูกอุ้ม
การมีข้อพิพาทอะไรธรรมดา
เรื่องเล็กและต่อไปจะกลายเป็นเรื่องใหญ่
การเป็นหุ่นเชิดหรือหุ่นกระบอก
ทำงานมีคนชักใยอยู่้ข้างหลัง
แต่หานายไม่เจอพอทำไปเรารับผิด
คนที่ชักใยหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้

เรื่องการกินค่านายหน้า
แบบย่อแบบพิสดาร
การมีโอเวอร์ไรดิ้ง
มีบัญชีหักโอนในนอกประเทศในประเทศที่
หน่วยภาษีไม่อาจติดตามได้

การได้ค่าคอมพิสดาร
จากการเมืองหรือเรื่องสกปรก
การเอื้อชนิดหาตัวจับไม่ได
ก็

การจับผิดผ่านจิตวิทยาทดลอง
การเป็นหน้าม้า
การทำค้าแบบยี่ปั๊วซาปั๊ว
การมีเอี่ยวตกลงกับเตียงนอนจับไม่ได้

การหนีออกนอกประเทศผ่านช่องทางมืดช่องทางแจ้ง

การสมคบคิด

การหลีกฏหมาย
การมีสงครามเย็นเชิงเงินฝืดเชิงเงินเฟ้อ

การได้กำไรจากการค้่าชนิดพิเศษ
หักกันในต่างประเทศ


ไม่มีใครสามารถรู้ได้


นี่เป็นพล็อตของเรื่องที่
ผมพยายามจะนำมาประกอบนวนิยายและหนัง
ในเรื่อบ้านอานองเตนี้

ถ้าผมคิดได้ดีๆในบทต่อๆไป
ว่าอย่างนั้น



ผมมาแสดงในบทเป็นพระเอกนำเรื่องเหล่านี้
มาประกอบฉาก
ผมรู้ตอนที่ผมเป็นผู้จัดการหนุ่มที่สุด
ทำงานกับฝรั่งจึงเกิดรู้ขึ้น
ซึ่งสนุกมาก


พบในช่วงสงครามเวียตนาม


เพราะสมัยนั้นการเงินสะพัดมาก
จึงมีพิสดารหลายรูปแบบ


แต่มีวิธีที่ไม่ต้องทำมาเอง
สดๆเซ็งๆไม่ผิดแต่ชอบธรรม

การตกลงบนเตียงนอน

การแสดงหนังสดบนเตียงนอนส่งรหัสลับ
ต่อกัน

ทั้งหมดมีทั้งจริงไม่จริงเป็นหนัง
เคยปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์
นิตยสารต่างๆจะเปิดโปงรายละเอียด
ให้คนอ่านรู้

เพื่อต่อต้านคนค้าข้ามชาติ

และส่งผลสู่สงครามเศรษฐกิจ
สงครามกลางเมือง
การละเล่นกามารมณ์พิสดาร
บนโต๊ะใต้โต๊ะบนเตียงใต้เตียง


มีด้วยรึอย่างนี้ผมคิด



จนต่อมาเรื่องแตกเพราะทรยศหักหลังกัน

จนความลับแตกออกมาจนกลายไม่เป็นความลับ


จนกลายเป็นการค้าชนิดเอาชื่อมาปะไว้แต่เจ้าของที่แท้จริงไม่มี
ทำแล้วแบ่งเปอร์เซ็นต์กัน
คนบริโภคไม่รู้
แต่ติดใจโฆษณาจนโงหัวไม่ขึ้น

การฉวยโอกาศทำธุรกิจบางอย่าง
ที่คนอื่นไม่คาดคิด
และได้ผล
การปั่นหุ้น
อะไรต่อมิอะไร

จนต่อมามีกฏหมายเกิดขึ้น
ถึงจุดหากินยาก
เกิดอาญากรรม
จนกระทั่งเกิดยุคทำดีดี
รวยดีๆเกิดขึ้นตามมาอีก
เพื่อมาตามดู


เหมือนเรื่องทอม และเจอรรี่(ดูอ้างอิงท้ายบท)การ์ตูนอย่างนั้นที่เราเคยดูจนหัวเราะ
ชนิดปล่อยสุด

การฆ่าปิดปาก
การรวยทางลัด
การบ้าจนรวย
บ่องจนรวยติดอันดับ
เที่ยวจนรวย
ผมเดินทางไป
ไม่คิดว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะมี
แต่มีจนได้
เจอตามข่าว
และผลจากวิเคราะห์หลายอย่าง
หาเหตุผลประกอบ
ใช้ปริญญาภูมิปัญญาชนมาตัดสิน
ชี้ผิดชี้ถูก

จนพบอะไรอีกมาก

จนสำทับกับตนเองว่านี่ฝันไปหรือเปล่า


โลกใบเดิมของผมไม่มีอย่างนี้
เดิมนั้นผมง่ายๆทำนาเลี้ยงควาย
มืดนอน
มีตะเกียงเป็นเพื่อน


มีแต่เอากันซึ่งหน้าไม่มีลับลมคมใน
ไม่มีตอแหล

ทำขายกล้วยปิ้ง
เด็กนักเรียน
ยังชีพไปวันๆหนึ่ง

เข้าวัดทำบุญทำทาน

จนพบต่อมาการทำบุญแบบสังคมนิยม
ทำบุญเอาหน้า
จนไม่ไหวแล้ว
รู้สึกว่ามันขัดๆ
จนต้องหนีโลก
เข้าป่าหาความสงบ
และถามตนเองว่า

เรากำลังโง่หรือกำลังฉลาด
ผมถามตนเอง


หรือเกิดสภาวะว่ารู้น้อยหรือว่ารู้มาก
เกิดขึ้นในใจผม

ผมหวนมาทบทวนตนเองว่า

ทำไมเราไม่รวย
ถ้าคิดรวยทางลัดนั้นแน่นอน
เตรียมตัวได้
ไม่คุกก็ออกไปจากโลกนี้เลย


จึงไม่คิดรวยทางลัดเรื่องนี้พักเอาไว้เรื่องรวยทางลัด



ผมเคยพบว่า
อะไรที่เป็นลบเมื่อไปนอกเขาจะทอนให้
แต่ถ้าเป็นบวกเขาก็คงไม่ทอนให้
เพราะถือว่ามีข้อยุติในตัวมันเองอยู่แล้ว


จึงไม่คิดว่าต้องกลัว
การหนีโลกหนีไปของคนที่คิดรวยทางลัดอื่นใด
หรือปัญหาอาญากรข้ามชาติ
จะเกิดขึ้นอีกแล้ว
ในสมัยนี้
โลกกำลังสงบเพราะโลกทันกัน
แบบทันเขาทันเรา
และทันใจแล้ว




การหนีโลก
การไปอยู่อีกมุมหนึ่งของโลกที่ไม่มีใครรู้
โลกจริงๆคิดว่าเราตายไปแล้ว
แต่ที่จริงเรายังไม่ตาย
เราไปอยู่อีกจักรวาลหนึ่ง

ผมคิดว่าฝันไปรึป่าว

อย่างนี้มีด้วยรึ

จะว่าผมคิดมากก็ใช่
จะไม่คิดมากไปก็ไม่ใช่
แต่เคิด

เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน





คำตอบคือมีก็ได้ไม่มีก็ได้

แต่ที่รู้แน่นอน
คือวันวาระมาถึง
คนเราแลเราเองคงตาย

และสำหรับความตายที่ผมใฝ่ฝันคือ
การตายที่มีหมา
หนึ่งแมวหนึ่ง
มานอนเฝ้าหลุมศพผมใอยู่ตลอดเวลา



และผมอยากเป็นผีดี
มิใช่ผีกระสือ
หรือผีตากละ

ทำอย่างไรจึงจะเป็นผีดี
ผมถามตนเอง


คำตอบของผมคือ
ดีให้กับตนเอง
และดีคนอื่นเข้าไว้

ดำรงชีวิตธรรมดาๆ
หาเช้ากินค่ำสบายสุดๆ


เช่นคิด

หาให้มี
มีเมล็ดน้ำเต้าเมล็ดเดียว
และสร้างตัวไปเรื่อย
แล้วรอทำไแเรื่อยๆ
จากวันเป็นอาทิตย์จากอาทิตย์เป็นเดือน
จากเดือนเป็นปี
จากปีเป็นหลายปี

เชื่อว่าเราจะได้น้ำเต้าที่ปลูกได้เป็นตัน
ตีนหนึ่งคือพันกิโล

พอได้อย่างนั้น
เราก็รวยแล้วเตรีมหาที่เก็บเงิน
คือเก็บเงินใเป็นว่าอย่างนั้น


เราค่อยไปผจญชีวิตโลกใหม่
ไฝ่หาสนติให้กับตนเอง


ไม่ต้องหนีคดีอะไรที่ไหน
ไม่ต้องหนีหมายศาล


ไม่ต้องมีเวรกับใคร

บุญคุณที่จะปฏิการคุณคือ
ดินและน้ำเท่านั้น
ที่ผมนับถือว่เป็นเทพะเจ้าดินและเทพเจ้าน้ำ



ที่ทำใหเม็ดน้ำเต้าเมล็ดเดียวของผมงามเป็นหลายล้านเม็ด
และเติบโตเก็บเกี่ยวได้เป็นตันๆในเวลาสืบต่อมา
เป็นปีๆๆ


และขาย

น้ำเต้าภาษาฝรั่งเขาเรียกว่า
pumkin
ผมเคยเรียนหนังสือ



คนเขียนตามตำราที่ผมเรียนมา

พบว่า

เขาบอกว่ามันมีผีอยู่ในน้ำเต้า
อ่านแล้วชอบ
สอบได้คะแนนนิดเดียว
เพราะในหนังสือคู่มือเรียนเล่มนี้

มีศัพท์ยาก
ที่จะตอบให้ครูพอใจได้คะแนนดี

ผมพบตนเองในตนเองว่าความหุนหันพลันแล่น
ทำให้ผมสอบได้คะแนนน้อย


ถ้าขยัน
และเวลาสอบมีความอารีอารอบ
คะแนนก็จะพุ่งขึ้นมา

และเรื่องน้ำเต้านี่เอง
ที่ผมเรียนมาในตำราเรื่องผีน้ำเต้า


ทำให้ผมอยากปลูกน้ำเต้า
หลังแม่ตายไปแล้วไม่รู้จะทำอะไรดีอวดแม่



เมื่อตอนไปหาซื้อเมล็ดผักมาปลูก

ในหลายร้อยล้านชนิด
ที่พบที่ร้าน


ผมจึงเลือกเอาน้ำเต้า

เพราะผมเชื่อว่าน้ำเต้ามีผีอยู่จริง

จะมีผีหรือไม่มีผี
อยู่่ที่เราคิดไปเอง
แต่จะคิดอย่างไร

ผมจึงตัดสินใจปลุูกน้ำเต้า

เพราะตอนเด็ก ๆผมจำได้ว่า

แม่เคยปลูกน้ำเต้า
และผมชอบกิน



และแม่ต้มกินมาจิ้มกับน้ำตาล
ทราบ
พบว่ามันอร่อยดี


น้ำเต้าแกงก็อร่อย
ทั้งผัดสดกับต้นกุยช่าย

หรือแกงกะทิก็อร่อยทั้งปากอร่อยท้องทั้งเพ

ผมก็สำนึกขึ้นมาว่า
น้ำเต้า

และถ้ามีผีน้ำเต้าจริงก็คงจุดอร่อยจุดนี้
ที่คชอบนิยามกันไปจนเป็น
เชิงนิทัศน์กับมันและทุกอย่างบรรดามีในโลกของสิ่ง

ทำคิดกันอย่างนี้


เพราะว่าผีน้ำเต้า
นี่เองทำให้ผมกินมันอย่างอร่อย

และย่อยอาหาร
และย่อยรามณ์
ได้อย่างถูกปากเป็นที่สุด


นั่นคือผีน้ำเต้า
ของผม
เป็นข้อสรุป



แม้จะไม่เป็นอย่างที่นักเขียน
เขาเขียนตำราเรื่องผีน้ำเต้า
มาให้เด็กอย่างผมอ่าน


และผมก็เชื่อสุดๆ
ว่าผีน้ำเต้ามีจริงเพราะเชื่อไว้ดี
ที่สุดเมื่อครูสอน หรทือตามใจครูที่ครูอยากบอกอะไร
ผมเชื่อหมด


เมื่อเขาท่านมาบอกอย่างนี้
เราเป็นเด็กดีเราต้องเชื่อ
ถ้าผมดันเชื่าอผิด
ผมคิดว่าครูต้องรับผิดชอบ





ผม
เพื่อจะทำคะแนนสอบภาษาอังกฤษไให้ด้ดี

จึงต้องจำปะโยคซินเท็ก
และศัพท์
สำนวน

และอีกมากมายที่ต้องจำ



เพื่อผมจะทำสอบให้ได้

และท้ายสุด
ผมจำได้ว่า
ผมสอบได้
แม้คัพท์น้อยได้

คะแนนสอบตอนนั้นจำได้ว่าผมจะไม่ค่อยดี

คนที่สอนเป็นแหม่นรูปร่างอ้วนขาว
ทาปากสีแดงเปลือกมังคุด


หลังจากผมสอบ
ได้คะแนนผีน้ำเต้า
จากหนังสือเรื่องนั้น
คนแต่งผมจำไม่ได้ตำราชื่อเล่มอะไรไม่ทราบ
แต่จำได้ว่าเป็นตำรานอกและแสนแพง
เพราะต้องซื้อจากนอก



อันเป็นคู้มือเรียนของผม

ที่แหม่มท่านนั้นสอนผม

และเมื่อผมสอบผ่าน
แล้วจบปริญญาแล้ว
ก็ไม่เจอแหม่มท่านผู้นี้อีกเลย

เชื่อว่าท่านกลับไปบ้าเกิดเมืองนอนแล้ว


แต่ผมยังไม่ลืมอะไรทั้งหมดที่ผมเรียนมา
ที่เกิดขึ้น
ในชั่วโมงเรียน
ภาษาอังกฤษชั่วโมงเรียนอันดูดดื่ม
นั้นและ
ท้ายสุด

เมื่อจบทั้งหมดทุกระบบเรียนในหาลัย


ผมได้หอบปริญญามาอวดแม่

นั่คือสิ่งที่ผมภูมิใจมาก

แต่แม่เขาเห็น
ใบปริญญญาบัตรของผมแล้ว

แม่กลับเฉยๆ



ผมจึงขอคิดต่อไปอยู่ในใจว่า


ดีนะเนี๊ยผมยังโชคดีที่เกิดมา
เป็นลูกของแม่

แต่ยังมีบางคนในห้องเดียวกัน
ข่าวว่า


แม้เงินค่าธรรมเนียมรับปริญญายังไม่มี
ที่จะหอบปริญญาบัตรมาอวด
พ่อแม่ของตนเอง
ได้เหมือนอย่างผมที่ผมเป็น



จน
ผมจึงคิดได้ว่าโลกมันเป็นเช่นนั้นเองนะ


และวันนี้ที่สำคัญคือ
เมื่อผมเรียนจบแล้วมาสู่วัยสนธยาแล้ว

พบว่า

ปริญญานั้นไม่ถูกนำมาใช้
แต่ผมกลับมาปลูกน้ำเต้า
และที่น่าเศร้าคือ


วันนี้ที่ผมขยันปลูกน้ำเต้าอยู่
ไม่มีแม่เคียงข้างเสียแล้ว

คือ
เพื่อเชยชมผมเสียแล้ว

เพราะแม่ของผมได้ตายไปแล้ว


วันหนึ่งผมพาน้ำเต้า
ไปให้แม่หนึ่งลูกพ่อหนึ่งลูก
ที่สุสาน


พบว่าแม่ยิ้มรับ

ผมพบ
พบว่า
แม่คงยิ้มตามภาพหินอ่อน
ที่จารึกไว้ที่น่าหลุมศพ

และก็รอยยิ้มตายตัว

ส่วนผมคิดจะยิ้มรับ
กลัวคนงานสุสานที่ยืนอยู่หลังผมที่ไปเพื่นผม
เพราะผมมีนิสัยแปลกอย่าหนึ่ง
คือกลัวผีหลอก


ที่รอเก็บน้ำเต้าเราไปกินแทนแม่

เครื่องเซ่นก็อย่างนั้น
เท่าที่ผมพบ
ผมเชื่อว่าอย่างนั้น
เพราะพิธีเก็บน้ำเต้าเครื่องเซ่นแม่ผม
ผมไม่เห็น



ผมกลัวว่า
คนงานสุสานเขาจะ
เห็นว่าผมบ้ารึป่าว
ที่ยืนยิ้มกับภาพแม่ที่หน้าหลุมศพอย่างนี้





ตอนนั่้นผมจึงเก็บความรู้สึกเอาไว้
ไปยิ้มให้พอใจที่ห้องนอนที่บ้าน
ว่าเราได้ทำความดี


ที่ได้เอาน้ำเต้าไปฝากที่สุสานและเพื่อผีแม่
ตามมโทัศน์การเยี่ยมคนตายด้วยของฝาก


แม่ยิ้มตอบให้เราตามที่จิตผมคิด
จากผมสังเกตจากภาพแม่

ตามภาพเหมือนที่จารึกบน
หินอ่อนที่ไม่มีชีวิต


ที่ผมคิดมากไปเอง

Smiley
อ้างจากhttps://th.wikipedia.org/wiki/ทอมกับเจอร์รี่(เรื่องหนูกับแมว.....ที่แสนสนุกเด็กประถมวัยและ...สุดชอบ    อ้างอิงนี้เอามาไว้ท้ายบท
เพราะผมตามหารายการควรเชื่อมโยง
ที่เขียนไปไม่เจอแบบทันใจ จึงนำมาพาดไว้ที่ท้ายบท
ที่อ้างมากล่าวคือ

ทอม กับ เจอร์รี่ (อังกฤษ: Tom And Jerry) เป็นการ์ตูนทีวีซีรีส์ของ Metro-Goldwyn-Mayer หรืออักษรย่อว่า MGM สร้างโดย ฮานา-บาร์เบร[1] สังกัด การ์ตูนเน็ตเวิร์ค ออกอากาศในสหรัฐอเมริกา ทุกวัน จันทร์-ศุกร์ ทาง การ์ตูนเน็ตเวิร์ค เวลา 06.30 น. ในประเทศไทย ออกอากาศทางการ์ตูนเน็ตเวิร์คเวลา 20.00 น.ทุกวัน และ ทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ใน พ.ศ. 2532 และสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ใน พ.ศ. 2540เวิรค์พ้อยท์ทีวี 2555 ปัจจุบัน

เจราเมีย "เจอร์รี่" เมาส์
หนูสมองใสที่ต้องการความช่วยเหลือของคนอื่นๆ มีนิสัยซุกซน ชอบทานชีส มีมนุษยสัมพันธ์ดี และชอบผูกมิตรกับคนแปลกหน้า เอาตัวรอดเก่ง มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่น เป็นคู่แค้นกับทอม แต่บางครั้งก็เป็นเพื่อนกัน มีขนสีน้ำตาล ตาสีดำ เดิมเป็นหนูนิรนามแต่แอนนิเมเตอร์ตั้งชื่อว่า "จิงช์" แต่ตั้งแต่ตอนที่ 2 เป็นต้นไปได้เปลี่ยนชื่อเป็น เจอร์รี่ เมาส์
โทมัส "ทอม" แคท
แมวร้าย ที่เป็นศัตรูของเจอร์รี่และคอยล่าเจอร์รี่อยู่บ่อยๆ และยังชอบรังแกสัตว์อื่นๆที่ตัวเล็กและอ่อนแอกว่าด้วย แต่ความจริงแล้วมีอารมณ์อ่อนไหว มีความตั้งใจจริง มีบางครั้งเท่านั้นที่จะสงบศึกและเป็นเพื่อนกับเจอร์รี่ มีความรับผิดชอบเรื่องบ้านสูง มีขนเป็นสีเทา ที่มือ,เท้า และปลายหาง เป็นสีขาว ตาจะมีสีเหลือง เดิมชื่อ "แจสเปอร์" แต่ตั้งแต่ตอนที่ 2 เป็นต้นไปได้เปลี่ยนชื่อเป็น ทอม แคท โดยเชื่อว่าแมวพันธุ์ต้นกำเนิดของทอมนั้น คือพันธุ์สีสวาดของไทย




Create Date : 16 ตุลาคม 2560
Last Update : 16 ตุลาคม 2560 7:12:12 น.
Counter : 1379 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3538694
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



จึงจือหยาง
(jjy)
จบไฮสกูล
ได้ปริญญาสองใบในไทย เคยเป็นนักเรียนเก่าในอังกฤษและฝรั่งเศส
สอบได้ Dip-in-JourจากLondon School of Journalism,MIOJ.ในประเทศอังกฤษ
สอบได้นักวาด ว.อ.(แนวนามธรรม)...
เป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย..มีสัญชาติไทย (แซ่แต้) พ่อมาจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
New Comments
MY VIP Friends