All Blog
j12




หลักศีลธรรม)  ผมพบรูปญาติที่เมืองเคยส่งมาให้พ่อที่บ้านแม่
และญาติคนหนึ่งจากจีนมาเยี่ยมพ่อถึงบ้าน                                       
สำหรับคนจีนที่มาหาพ่อถึงบ้าน
นี่ถือว่าเก่งมากและไม่เป็นภาษาไทยสักตัวเดียว
ผมคิว่าอีกสักครู่เจตนาของผมคงเป็นรูปธรรม
ต่อไปเป็นเรื่องการจัดการ
หลักการจัดการของผม
ผมเคยใช้คือ 
work       hard
and lnow                how to work
แต่เมื่อผมาเรียนในมหาวิทยาลัยปิด
ท่านอาจารย์สอนผมในวิชาการจัดมีหลายท่านให้เลือก
ผมเลือกนักปรัชญาการจัดการชื่อว่าtaylor
ต่อไปมาดูการจัดการของผมทำอย่างไร
ผมจัการได้หนึ่งอย่างแรกคือเมื่อผมตายลงทุกอย่างที่เหลือทำเป็นมูลนิธิตามสภาพ
ผมขออำนาจศาลในการจัดการมรดก
และเมื่อตายลงให้ทนายมาจัดการทรัพย์
ตามเจตนาที่ทำเอาไว้และสานต่อให้แล้วเสร็จมีค่าจ้าง
ตัดบุคคลทั้งที่เป็นญาติและมิใช่ญาติเข้มาเกี่ยวข้องในการจัดการ
ทรัพย์สินของทนาย
ทนาบยเป็นหลานของเพื่อนคนสนิทระดับปฐมภูมิกับผม
เมื่อตายลงทำพิธีศพแบบคริสต์แองลิกัน
ทีี่ผมเคยรับศีลจากคุณพ่อปีเตอร์ที่เมืองออกร์ฟอร์ด
สรุปผมมาถือศาสนาคนละศาสนาต่างจากพ่อแม่
เอาละอีกหลายเรื่องที่ผมจะต้องนำมาประกอบการตัดสินใจก่อนตายของผม
มีเรื่องหนึ่งคือ
หลังพ่อแม่ตาย
ผมได้ทำการตรวจทรัพย์สินแต่ยังจ้อยุติไม้ได้จึงพักการตรวจไว้
แม่สั่งไว้ก่อนตายว่ามีความจำเป็นจะขายก็ขาย เมื่อต้องการใช้เงิน
พ่อสั่งว่า ทำอะไรตามใจชอบ
พ่อรู้กฏหมายดีแต่พูดไทยไม่เป็น
แม่ไม่รู้กฎหมาย แต่ใช้หลักอื่นแทน
   เมื่อพ่อแม่ตายลง ผมหมดเงิน
เพราะเงิดสดติดตัวของพ่อแม่หมด
เพราะนำไปรักษาตัวส่วนมีที่อื่นอีก
เดี่ยวค่อยค้น เพราะมีอำพรางเอาไว้เชื่อว่าอย่างนั้น
จากเกณฑ์ที่มีรายได้ประจำ
และไมีมีอบายมุขดังที่กล่าวมาแล้ว
พ่อเคยส่งเงินไปเมืองจีนบ้างแต่เล็กน้อย
เพื่อสร้างบ้านใหม่ให้ทวดอยู่ผมเคยไปและเห็น

ผมตกลงขายมะพร้าวคือต้นมัน
เพราะมะพร้าวตอนนั้นตกผลละ1บาท
ะพร้าวแม้มีผลถึง2000 ผลไม่พอใช้คือไม่สามารถรักษาทรัพย์สินชิ้นนี้ได้แบบคล่องตัว
จึงขายต้นมะพร้าวไม่ทั้งหมดอกส่วนรอตัดเพราะมะพร้าวอาตแกงขึ้น
ผมให้เพื่อ  ซึงเป็น อบต เขาเป็นเพื่อนร่วมฝึกอาวุธในงานทสปช
เขาตัดเหมาและให้เงินผม
ได้เงินมาผมซื้อรถเก่งมือสองหนึ่งคัน
เพิ้อมใช้รักษาเกียรติหน้าพ่อแม่
คอนนี้ผมมีสิทธิ์ทำอะไก็ได้ เพราะคนเหนือหัวผมตายหมดแล้วคือทุกคนตามกฎหมาย
เพื่อนแนะว่าปลูยางเอาไว้12 แรก
ผมตอบว่าดีปลูกยางพารา โดยผมไม่ต้องทำสับปะรดทำให้หมดเขาปลูกยางให้
สัญญาทำไว้และรอ4 ปีจึงเข้ามาตวบคุมยางพาราได้
ผมบวชอุทิศให้แม่
ผมทิ้งบ้น รถ สวนไว้กับคนทำสับปะรดและผีแม่พ่อและกฏหมาย
ปิดประตูใส่กุญแจ
และทิ้งทุกอย่างเอาไว้
เพราะคิดว่าคนใจบุญอย่างแม่
นั้นคงไม่มีใครมายุ่ง
ต่อมา4 ปีให้หลังพบว่ายางที่ปลูก ดูแล้วไม่ได้ผล
และน้อยเกิน
คงไม่เพียงพอ และมีภัยอื่นด้วยจะเล่าทีหลัง
ผมตัดสินใจขายที่ดินสวนยาง
ได้เงิน4 ก้อน
เหลือที่ดินอีก10กว่้าไร่
การขายขาดนี้โอนกันที่ที่ดินจังหวัด
เหตุผลนี้เพราะผมอายุมากไม่ได้สิทธิ์กู้เงิน ธกส
และมีปัญหาจึงขายสวนบางส่วนของแม่นี้ไป
ต่อมา
เมื่อต้องใช้เงินก็ทำอย่างนี้
โดยแม่สั่งว่าให้แบ่งโฉนด
เพื่อร้อนเงินค่อยขายทีละโฉนดและตัดทางถนนให้แผ่นดินไว้ล


เพื่อจอบแทนแผ่นดินบ้าง
ผมขึงแยกโฉนดออกมามาก
แม้การแยกทีดินนั้นยากและแพงและทำยากเสียเวลาเป็นเดือน
และต่อมายางลงราคาอีก มะพร้าวที่เหลือพอยังชีพยางนั้นผมไม่คิดถึงแล้ว
เพราะไม่คุ้มค่ใช้จ่าย
ที่จริงตรงจุดนี้คือยางควรปลูกมี2000ต้นขึ้นไป คือไร่ละ70ต้นประมาณยั้น ยางให้รายได้ทุกวัน คนกรีดเป็นพม่า การรับเปอร์เซนต์40ต่อ60 และเงื่อนไขอื่น
แต่เรมียางเพียง1000กว่าต้น ตัวคนเดียวทำเองไม่ไหวมีเอี่ยวก็คุมไม่ไหว
ผมจึงตัดสินใจขาบที่ดินพร้อมต้นยางอายุ4ปีไปส่วนหฟนึ่ง
และผมได้สละที่ดินให้สมาคมนักเขียน1งาน เพื่อนักเขียนขะได้เล่นได้ในโอกาสต่อไป
นำร่อวงในการบริจาคอุทิศให้นักเขียบนท่านหนึ่งปกปิด
ว่าอย่างนี้โอมอบเรียบร้อน แต่ทะเบียนรอขึ้น
แต่ผมได้จัดให้เด็ดขาดไปแล้ว
ตามเจตาแบบหนึ่งไม่มีสอง
ขั้นตอนแรกที่ทำตามแผนจัดการหลังแม่ตายของผมมีดังที่กล่าวแล้ว
และจะมาพูดต่อเมื่อว่างอีกในเวลาต่อไปSmiley



Create Date : 01 พฤษภาคม 2560
Last Update : 18 กันยายน 2560 21:24:34 น.
Counter : 440 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3538694
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



จึงจือหยาง
(jjy)
จบไฮสกูล
ได้ปริญญาสองใบในไทย เคยเป็นนักเรียนเก่าในอังกฤษและฝรั่งเศส
สอบได้ Dip-in-JourจากLondon School of Journalism,MIOJ.ในประเทศอังกฤษ
สอบได้นักวาด ว.อ.(แนวนามธรรม)...
เป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย..มีสัญชาติไทย (แซ่แต้) พ่อมาจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
New Comments
MY VIP Friends