All Blog
j96 บ้านอานองเต


Smiley


j96

บ้านอานองเต



ผมกำลังฟังเพลง
Tchaikovsky: Swan Lake - The Kirov Ballet
Tchaikovsky - Waltz of the Flowers
Tennessee Waltz ( 1959 ) - CONNIE FRANCIS - Lyrics

รอสักครู่เรื่องบ้านอานองเตนี้ยังไม่จบ
ยังติดใจ
ยังมีอีกหลายเรื่องในความรู้สึกของผม
และภูมิปัญญาที่คาดว่าพอจะมีพอนับได้อย่างมีสติและความรอบคอบ
ที่จะทำให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาตนเองให้เป็นไปตามยุค
แห่งความทันใจเป็นต้นเหตุ
เหมือนที่เนต และคอมเป็น

ผมเชื่อว่าตนเอง
ยังมีอีกหลายเรื่อง
ที่จะต้องนำมาปรับสมดุลย์ให้กับตนเอง
ในสมัยสังคมวิกฤติทั้งเชิงบวกและเชิงลบ
แบบนี้

ถ้าใครคิดว่าเราประสาทกินหรือเปล่า
อันนี้เป็นเสรีภาพที่ใครๆก็มีสิทธิที่จะคิดที่จะกล่าวขาน
ต่อกัน
ผมมั่นใจว่าผมไม่ได้เป็นโรคประสาทชำรุดแต่อย่างใด
ง่ายๆ คือคนมีมือมีเท้ามีความคิด
ควรจะทำอะไรบ้าง
เพิ้อทำให้จิตใจตนเองอบอ่นขึ้นและมีเพื่อนคุยตลอดเวลา
อย่างไม่เงียบเหงาและเดียวดาย
จากการรู้จักคิด
รู้จักปลูกจิตสำนึกให้กับตนเอง


ใช่ทุกอย่างมันต้องเดินไปข้างหน้าอย่างมีจิตสำนึก
มิใช่คิดสั้นๆเช่นฆ่าตัวตาย
หรืองอมืองอเท้า
โดยคิดแบบไม่ทำอะไรเลย


แล้ว
ปล่อยให้ชีวิตให้เย็นชาและเฉื่อยเหงาไปกับ
การอความตาย
ที่แม้ว่าความตายจะมาเอาชีวิตเราทุกคนในวันหนึ่งที่เราพลาดไป
ไปเป็นมนุษย์ใหม่เกิดใหม่
อันไปเป็นสัจจนิยมก็ตาม
เาไม่ใช้เหล้าหรือสิ่งมึนเมาหรือยาสเสพติด
เข้ามาแก้ปัญหา



เชื่อว่ามนุษย์ยังมีทางออกอีกมาก
มีเพื่อนและความจริงสายเดี่ยว
อีกมากในโลกนี้ที่รอคอยเราอยู่


มันต้องดำเนินไปจนกว่าจะสิ้นกระแสความ
ผมตั้งใจเอาไว้ว่า
ถ้าผมตายลงก่อนจบ
เรื่องบ้านอานองเตนี้ยุติลง

ผมได้ทำพินัยกรรม
ให้ทนายไปสานต่อให้จบให้ได้ตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์เดิม
ที่เพื่อนมนุษย์บางคนอาจจะรอคอย
และตั้งใจฟังเราอยู่อย่างตั้งใจหรือบังเอิญ
ต้องผิดหวัง

ใช่การทำให้ผู้อื่นผิดหวังนั้นไม่ดีเช่นผิดนัด
ถ้าพ่อค้าหลอกว่าสินค้าที่ขายให้กับเรามีคุณภาพดีจริงเชื่อถือได้
แต่ปรากฎว่าไม่จริงอย่างนี้
มันจะทำให้เราหรือผมในฐานะผู้บริโภคต้องเสียความรู้สึกไปอย่างมากทีเดียว



เอาละ
เพราะอันนี้เรื่องบ้านอานองเตนี้ ตำหนักอานองเตนี้ หรือวังอานองเตนี้
หรือกระท่อมอานองเตนี้
หรือบ้านร้างอานองเตนี้
สุดแท้แต่จะนิยามมัน
บัดนี้มันเข้ามาเป็นนิยาย
หรือวรรณคดีหรือวรรณกรรมอะไรสุดแท้แต่จะนิยามนิยายมัน



เพราะเรื่องอานองเตนี้เป็นเรื่องที่ยาวและมีเรื่องมีราว
เรื่องมีพระเอกมีตัวประกอบ
มีผู้เสียหาย
และผู้ได้รับประโยชน์
คือมีตัวโกงและตัวที่ไม่โกง


ผมพยายามทำให้เป็นอรรถะเพื่อ
มีคนมาพบเจอเข้า
จะได้ไม่เสียเวลาอ่านหรือติดตาม


ที่สำคัญคือสื่อภาษาเป็นภาษาเข้าใจตรงกัน
ว่าสื่ออะไรสำนวนตามที่เกิดเป็น


สรุปมันเป็นเรื่องๆหนึ่งที่
มีองค์ประกอบในตัวมันเอง
และที่สำคัญไม่ทำให้ผู้ใดเสียหาย
นอกจากมุ่งประโยชน์เป็นที่ตั้งให้สอดคล้อง
กับอารมณ์ของธรรมชาติของมนุษย์และของสังคม






และมันอาจจะเป็นวรรณกรรมชนิดแข็งชนิดหนึ่ง
เมื่อแบ่งวรรณกรรมออกเป็นชนิดแข็งชนิดอ่อนขี้นมา
ตามคติของของความเป็นมาในเรื่องราวที่มันมีอยู่เป็นในเรื่องนี้


แต่มันก็เป็นวรรรกรรมในตัวมันเอง

ผมไมคิดว่าจะเขียนมาเพื่อมุ่งผล
แต่เพียงให้ได้เขียนแล้วเบาหวานผมดีขึ้นด้วย
น้ำตาลในเส้นเลือผมลดลง
และลืมความทรงจำทั้งหมดอันแสนสนุกที่พ่อแม่มีต่อเรามา
ที่อดีตมีต่อเรามาให้หมดสิ้นเก็บไว้ในห้องสมุดและบนหิ้ง

แต่เรามาเริ่มชีวิตเสียใหม่
คิดว่าเมื่อทุกอย่างจบลงผมจะเดินทางกลับไปอังกฤษ
แม้ชื่อเมืองนี้มีตัวตนแต่ผมนำมาทำเป็นนิยายด้วย
เพราะดูแล้วไม่ผิดอะไร




ผมมั่นใจว่าผมมีเผ่ากิยองตินอันเลวร้ายตามผมอยู่
เผ่านี้อาจจะเป็นเผ่าในมโนคติของผม
แต่ว่ามันก็เป็นหุ่นกระบอกที่คนสมัยใหม่สามารถ
ทำให้มันมีชีวิตจิตใจขึ้นมาเป็นตัวตนได้
ในอีกมุมมองหนึ่ง


ผมจำได้ว่า
ผมเคยเขียนงานชิ้นหนึ่ง
เมื่อสามสิบปีให้หลังหลังจาหที่ผมจบการศึกษาจากต่างประเทศมาแล้ว
ที่กระท่องข้างบึงใหญ่งหนึ่งปกปิด


เรื่องบ้านทุ่งไร่ละหกล้าน

ผมมุ่งที่ผลว่า
จากการเขียนเรื่องนั้น
เพื่อให้นิตยสารระดับชาติฉบับหนึ่ง
ไปพิมพ์
และได้พิมพ์
ได้ค่าเขียน
ตอนนั้นสามร้อยบาท
ท่าน  บก  นิตยสารฉบับนั้น
 ส่งเงินมาให้ทาง ปณ


พร้อมสำเนาหนังสือที่ขึ้นแท่นที่ปรากฏต่อสาธารณชน
ที่พิมพ์แล้วหนึ่งฉบับ



ผมทำงานเรื่องบ้านอานองเตครั้งนี้มิได้เน้นเหมือนตัวบ้านทุ่งไร่ละหกล้านบาทนั้นนี้



แต่ตอนนี้ผมเน้นให้ตัวผมเองสบายใจ
และเบาหวานได้หายและอีกหลายเรื่อง
ให้ได้ข้อยุติที่แสนดี
เท่านั้น



ผมต้องต่อไปอีก
แต่บางคนอาจจะเบื่อผมจึงหาเพลงมาฟังแทรกด้วย



ก่อนงานเริ่มขึ้น

ผมพบ
กุ้งย่างตัวเดียวงามย่างเสร็จจานละห้าร้อยบาท
ข้างทางหลวงสายเอเซียสาย2
ติดป้ายชวนกินไว้

ผมผ่านมาเห็นแล้วน้ำลายไหล
เอ้ยน้ำลายหก
ก่อนที่กุ้งจะถึงปาก


ทันทีที่ผมเห็นป้ายนี้ขณะชับรถอยู่
ผมหิวขึ้นมาทันที




ใกล้ชายทะเลนะเนี่ย
ชายทะเลห่างทะเลน้ำถึงได้เพียงนิดเดียว
ถ้าพายุมา




ที่บ้านอานองเตกลางป่าหญ้าและไม้รก
รถผมสามคันนอนเรียบร้อยหมด
เพราะมีอุบัติเหตุ

มันเป็นรถมือสองที่ซื้อมาไว้ทุกข์ให้ผีพ่อผีแม่ได้นั่ง

ตอนนี้มันวิ่งไม่ได้ทั้งสามคันแล้ว
เก็บไว้ให้ผีพ่อผีแม่มานั่งเล่น

ก็บอกแล้วนี่มันนิยาย
ก็คิดให้มันเป็นนิยาย
แต่ถ้าหากว่ารู้สึกว่ามันเรื่องจริง
ก็ให้คิเป็นนิยายเสีย

แล้วความดันมันก็จะลด




แต่ให้นึกขำดีอย่าไปเสียใจตามเรื่องราวอย่าไปเศร้าตามตกใจตาม
อะไรทั้งสิ้นจากงานที่ผมเขียน
คนอ่านคือผู้พิพากษา
มิใช่ตัวละคร

เพราะฉะนั้นให้คิดและให้คิด
ว่า
คือทำใจ
และให้คิดสนุกเข้าไว้
ผมเชื่อความดันคงลดผมว่าอย่างนั้น
คือไม่เครียด
เมื่อได้ยินคำว่าอุบัติเหตุ
และเพิ่มอีกนิดเรื่องมีปัญหาทางศาลยังไม่จบ
แต่รถยนต์ของผมจบลงแล้ว
จอดอยู่เฉยๆ
รอต้นเถาวัลย์มาพัน
และกลายเป็นนิเวศน์ต่อไป
ตอนนี้





อ่านเข้าไปนี่มันภาษาหนังสือ
ผสมมา
ถูกกฎไวยากรณ์ภาษา
มีเรื่องราวเชื่อมโยง
ผมคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน
เมื่อเขียนๆไป



ถ้าหากมีรายการอื่นที่จะติดตาม

ก็เปลี่ยนไปช่องอื่น
หรือไม่ต้องไปอ่านมัน
ในสิ่งที่ไม่ชอบ



ถ้ามีงานเขียนชนิดนี้อยู่
อยู่ก็พาไปทิ้งเสียหรือเผาไฟทิ้งเสีย
หรือเก็บให้ห้องสมุดสุด
หรือให้คนเก็บกระดาษพาไปขายให้คนขายกล้วยปิ้งห่อกล้าวปิ้งขายได้

สุดแท้แต่
ความดี ความชั่วจะมีขึ้นมาในจุดนี้
มันจะผลุดมาตัดสินให้เอง

สมมุติให้โลกนี้

มีพ่อครัวแม่ครัวกำลังทำต้มยำให้กิน
เป็นจานต้มยำ
เราก็กินมันให้ยุติธรรมว่าอย่างนั้น

ก็ไม่มีปัญหาอะไรมาก

เพราะสังคมเรามันอย่างนี้
เมื่อมีอย่างนี้คือกินอย่างนี้
เมื่อไม่มีก็ไม่กิน
เมื่อกินแล้วไม่ชอบเราก็เลิกซื้อกินอีก
มีเท่านี้

เราต้องทำใจรับได้
ผมในวัยสนธยานี้รับได้เสมอ
ที่บ้านอานองเต


และบทนี้ผมขอเปลี่ยนชื่อเรื่องราวนี้ว่า
บ้านอานองเต

เพราะฟังดูแล้วมีชีวิตขึ้น

ใช้เจตัวเดียวดูระเบียบจัด
ที่ใช้มาก่อนเพราะสะดวกต่อการเซิร์ค

แต่ผมจะคงเนื้อหาเรื่องราวและสารัตถะไว้ตามเดิม
เท่าที่แจ้งเกิดมา
แต่เรื่องนี้จะเป็นนิยายมากขึ้นและมากขึ้น
และอาจจะมีรูปและเรื่องราวมาประกอบมากขึ้น


ผมมาพบว่าเมื่อ200กว่าปีผ่านไป
เมื่อมาเกิดที่ครอบครองแห่งบ้านอานองเต


ผมพบว่า


รูปย่าทวด
ทวดหญิงเท่านั้นที่มีรูปเหลือมาเป็นภาพวาดด้วยถ่านชาร์โคล
ดำขาวอย่างดีหนึ่งภาพ
และตกทอดมาอยู่มาถึงบัดนี้
เป็นมรดกชิ้นหนึ่งของผม
ผมใส่กรอบเคลือบเรซินให้


มีข้อสังเกตดังนี้


แต่แปลกมากภาพทวดฝ่ายชายไม่มีเลยสักภาพเดียว
ของฝ่ายแม่ผม


ส่วนฝ่ายพ่อผมมีครบหมด
จนเกือบจะไม่มีที่เหมาะแขวนให้ดูเท่ห์อารมณ์

เว้นระดับพ่อของทวดแม่ของทวดฝ่ายพ่อไม่มีเลยเช่นกัน
ในเมืองจีนและที่ในไทยที่ตกทอดมาถึงผม

ทวดฝ่ายตาของผม
และย่าฝ่ายตาก็ไม่มีเหลือมาถึงช่วงผมนี้ไม่มีเลย


จะมี
มีแต่ภาพตาและยายตอนเป็นหนุ่มจนแก่มีมาก
ทอดทิ้งเอาไว้ถึงผม

ผมใส่กรอบเรซินไว้ให้


สรุปว่าปู่ทวดย่าทวดฝ่ายแม่
มีเหลือแต่อัฐิบรรจุไว้ที่เจดีย์ข้างเขาที่สุสานตายายฝ่ายแม่ตั้งอยู่ปัจจุบันที่
บ้านอานองเต ประเทศไทย


นี่แสดงให้เห็นว่า
สมัยย่าทวดปู่ทวดทั้งฝ่ายแม่และฝ่ายพ่อของผม
กล้องถ่ายรูปยังไม่เกิดแน่นอน

สำหรับทางฝ่ายย่าทวดและปู่ทวดนั้น
พบว่ามีเหลือแต่สุสานดินวางต้น
เขาทำไว้บนภูเขาในเมืองจีน
ผมเคยไปเห็นตอนหนีพ่อเข้าไปเยี่ยม
ที่มณฑลกวางตุ้งถ้าให้ผมไปหาอีกผมไปไม่ถูก
เพราะลืมหมดแล้ว
ผมเชื่อว่าระหว่างจีนเก่าและจีนใหม่
นิเวศนืทัศน์และถนนหนทางแผนที่ต้องเปลี่ยนแปลงไปบ้าง



ส่วนย่าทวดและปู่ทวดฝ่ายข้างแม่มีแต่ความจำที่ยายแม่ของแม่ผม
เคยเล่าให้ฟัง


อัฐิย่าทวดและปู่ทวดฝ่ายแม่เหลือตกทอดมาถึงผมอยู่ที่เจดีย์ส่วนบุคคล



แต่ภาพวาดที่คนวาดดินสอสีดำถ่านชาร์โคลหรือเทียบคาร์บอนด์
สมัยย่าทวดฝ่ายแม่มีแล้ว
เป็นภาพวาดด้วยมือนักวาดมืออาชีพ



หรืออย่างไรผมคาดเดาเอา
เพราะตอนนี้ไม่มีใครสามารถเท้าความหลังครั้งกระโน้นได้อีก
ยกเว้นวิธีทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น


ผมพบเพียงแค่นี้




ผมเชื่อว่า
โลกเรานี้เจริญมากมาก่อนแล้วอย่าง
สุดขีดแห่งความเจริญในยุคกรีกและยุคโรมันแน่นอน
ในปริทรศน์ที่เป็นมุมมองของผมก่อนตำรามีว่าอย่างนี้
  กล่าวคือ ต้องมีปมขัดแย้งเกิดขึ้นนนอกจากสงครามล้างเผ่าพันธุ์
ในคนรุ่นเก่าก่อนโน้นมากมายนัก แน่นอนต้องมีปม


แต่ทว่ามนุษย์อีกกลุ่มหนึ่งตามไม่ทันในความเจริญสุดขีด
หรือมีคนหัวแข็ง
คือไมเชื่อในความเจริญอย่างยิ่งของคนที่เจริญแล้ว


หลังอารยธรรมกรีกและโรมัน
ทอดทิ้งให้เรา
และนับย้อนหลังไปอีก2000ปี
ถึงปัจจุบัน2017


โลกปัจจุบันเจริญมาก
ชนิดสามารถใช้ดีเอ็นเอ
จับอาญากรได้


โดยไม่มีปัญหาหมือนการพบพยานจริงได้
ที่ตามปกติเป็น

แสดงว่าวิทยาการต่างๆจริงๆ
นั้นในปัจจุบันเจริญมากทีเดียว

เชื่อว่ายังมีอะไรอีกที่สนุกและเจริญกว่านี้
แต่ชนบางกลุ่มรับไม่ได้
เหมือนประเทศสองค่ายอะไรก็ตามก็ตาม
ที่สร้างปัญหาขึ้น
เรื่องชาติเผ่าพันธุ์ผิวและการเมืองขึ้นมา


จนอีกฝ่ายรับไม่ได้เลย
ไม่ว่าอะไร
แม้จะดีเลิศหรือเลวสุดอย่างไร


คนบางกลุ่มก็เห็นต่างไปหมด

เราโชคดีมากที่เกิดมาเป็นไทยได้เห็นอะไรทันทีที่เมืองเจริญเห็น
เช่นคอมพิวเตอร์ที่เคยเรียกว่าสมองกลมาก่อน
และเนตมีเดียสืบต่อมา
อีกมากมายมายาการของมัน



สงครามที่แท้จริงผมว่าไม่น่าจะมี
แต่ที่มีสงครามเกิดขึ้นเพราะเหตุการเพื่อกลับไปใช้หนี้
กรรมเวรที่มีต่อสัตว์

อย่างแนวคิดในอุดมคติเวเจตาเรียน"กินเจ"แน่นอน
ที่เชื่อว่างดการฆ่าสัตว์แต่ให้กินผักแทน


เพราะถ้าสงครามมีจริง

อย่างที่พบตามข่าว

ตอนนี้โลกคงสลายไปแล้ว

แต่เหตุที่โลกสลาย  พังพินาศสันตะโรเป็นจุณ
ได้

ที่จริงเกิดจาก
กระแสไฟบวกและลบ เหมือนปรากฏการณ์ที่ฟ้าผ่าเกิดขึ้นเห็น
เป็นปรากฎ

ถ้าสงครามีจริง
ทุกอย่างมันคงพินาศไปหมดแล้ว



ถ้าจะเรียกว่ามีสงคราม
น่าจะเป็นสงครามระหว่างธรรมชาติกับธรรมชาติ
มิใช่สงครามระหว่างมนุษยหรือวัตุที่มนุษย์สร้างแน่นอน

ทำไมก็เพราะว่า
อะไรก็ตามอยู่ที่มนุษย์
อยูที่การตีความของมนุษย์

เหมือนคนในระดับรากหญ้ามอง
และคนในระดับปัญญาชนมอง
ผมว่าย่างนั้น

คนในระดับรากหญ้ามองว่า
คนที่ตีกันเพราะโกรธกันโมโหใส่กันฆ่ากัน
มีปัญหามาก



แต่คนในระดับปัญญาชนกลับมองว่า
ที่เขาตีกัน
มีจากสาเหตุอื่น
เกิดขึ้นมิใช่เรื่องโมโหกันแล้วตีกันอย่างเดียว

คนปัญญาชนมองว่า
มัน
เป็นเพียงความขัดแย้ง
เป็นเรื่องธรรมดาแก้ไขได้


และการตีกันไม่มีปัญหาอะไรมากแก้ไขได้
แต่คนระดับรากหญ้าเมื่อตีกันคือเอาให้สิ้นชาติเกิดเลย
ไม่เหมือนคนระดับปัญญาชนเมื่อตีกัน
ต้อมมีการเจรจาต่อรอง ผ่อนปรน
ใช้วิธีการ
ไม่เน้นการทำลายล้างให้สิ้นสุด
สิ้นชาติในทันที


คนสองชั้นนี้
จะคิดต่าง
และตีความอย่างไรก็ตาม
ตามที่ปรากฏการณ์ปรากฏ


แต่ว่าสิ่งที่ชัดเจน
คือชนชั้นที่คิดต่างกันมีอยู่
จริงในโลกนี้
ซึ่งจะสืบค้นต่อไป

ตามแนวคิดของผม
โลกมนุษย์เจริญขึ้นมานับตั้งแต่เจ้าชายสิทธัตถะประสูติ
มาและเป็นศาสดาในศาสนาพุทธแพร่สิ่งที่พระองค์ตรัสรู้แล้ว
สอนปรัชญาให้มนุษย์ได้ทราบว่า
โลกเราควรอยู่อย่างไร



ตามมาด้วยปรัชญาวัตถุนิยม
ที่เป็นสาเหตุให้โลกเจริญเพิ่มขึ้นมาอีก

ต่อมา
ในสมัยกรีกและโรมันจนถึงปัจจุบันถือว่า
โลกนี้สมบูรณ์แล้ว
แต่ผมมั่นใจว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่เรายังไม่พบ
อันเนื่องจากความจริงในประวัติศาตร์โลก
เพราะคนไปเน้นที่การแข่งกันทำมาหากินแข่งรวยแข่งมีกัน
จนไม่มีเวลาในการสืบค้นความจริงทางประวัติศาสตร์
ที่ยังมีหลงเหฃลืออยู่อีกมากกว่าที่ปัจจุบันพบแล้วก็ได้




(ขยายความเป็นสังกัปสั้นที่ผมเข้าใจอย่างนี้คือ

โลกเรานี้เคยเจริญมาก่อนกว่ายนี้
แต่เกิดสงครามและล้มสลายและโลกกลับมาเจริญอีกภายในยุคแต่ละยุค
แต่คนปัจจุบันยังไปสืบค้นมาเฉลยให้สาธารณชนรู้ไม่หมด
 เพราะเวลไม่มี
การแข่งกันหาเงิน สร้างความเจริญและอื่น ๆเป็นสาเหตุ)
ผมขอออกตัวว่า
ผมไม่ใช่เจ้าของลัทธิและ
จะมาเผยแพร่แนวความคิดหรือลัทธิ
อะไร

แต่ที่ทำพูดคิดนี้
เป็นการสนองตอบในแนวความคิดที่เกิดขึ้นกับตนเอง


แม้และเสรีภาพทางความคิดนั้นมีอยู่จริง
ขนานกันตลอดกาลเวลาที่เราหายใจ
ผ่านไปอย่างเป็นพลังงานเงียบชนิดหนึ่ง


ผมเชื่อว่า
ก็พลังความคิดมาจากอาหารและไฟธาตุแห่งความพร้อม
มันไม่ได้เกิดจากพรสวรรค์ของมนุษย์แต่ละคนอย่างเดียว

ผมเชื่อว่าอย่างนั้น
อย่างไรก็ตามความคิดของผมจะเชื่อหรือไม่เชื่อในสิ่งไรก็ตาม
เป็นเพียงความคิดที่ผมคิดเอง
ในคนเพียงคนเดียว


ไม่มีพิษต่อใครหรือแม้จะผ่านสื่อมีเดีย
ไปมีผลให้ทุกคนรู้


แต่ทุกวันนี้คนทุกคน
มีองค์ความรู้เฉพาะตัวแล้วกันทุกคน
 คือทันโลก
ทุกคนมีภูมิต้านทานตนเองในการรับความรู้อย่างมีเหตุผล


และเรื่องนิยายบ้านอานองเต
เป็นนิยาย


และผมถืองานสืบค้นพ่อแม่ผมเป็นจุดกำเนิด
ซึ่งคาดว่า
ยังมีอะไรอีกเพิ่มเติมและในแต่ละบทประกอบ
จึงสรุปมาเป็นนิยายในบทนี้
และต้ังแต่บทนี้เป็นต้ไป
มันจะเป็นเรื่องราวที่กำหนดว่า เป็นเรื่องนิยายบ้านอานองเต

เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผม
ผมสงสัยจึงเป็นนิยายหมดด้วย
เป็นจินตนาการเป็่น
แฟนตาซี


เมื่อสารภาพอย่างนี้แล้ว
จึงเพิ่มเสรีภาพให้ผมคิดได้เต็มที่
ซึ่งในหัวข้อแห่งความดี
ที่คิดและคิดเพื่อสิ่งที่ดีและเข้าใจง่ายกว่า
สนุกกว่า
บันเทิงกว่า
เหมือนเบาหวานของผมลดลง
เพราะอำนาจแห่งเสียงเพลงที่ทำให้ผมอารณ์ดี
ผมดี
ผมหายจากโรคนี้ได้
ผมเชื่ออย่างนั้น





ผมขอหยุดเขียนฟังเพลงแทรกต่อก่อน
เดี๋ยวเบาหวานของผมมันร้องให้
แล้วผมจะเป็นอัมพาต
ว่าอย่างนั้น



Franz Liszt: Réminiscences de Don Juan, S.418 -
Gabriele Baldocci, piano (with score)





The Beatles - Don't Let Me Down

John Lennon - Stand By Me

Mix - Patti Page - Tennessee Waltz (Original Classic with Lyrics)



Patti Page - Tennessee Waltz
Imagedaeus Video Productions

Tchaikovsky : Swan Lake Suite (Лебединое озеро)
Patti Page - Changing Partners -


Doris Day - Que Sera Sera




Greatest Hits Of The 60's - Best Of 60s Songs



I Went To Your Wedding (1952) - Patti Page








Patsy Cline ~ Tennessee Waltz



Patti Page - "Changing Partners" (1950s)



Mockin' Bird Hill~ ★Patti Page


Patti Page - Tennessee Waltz




Sad Movies ( Make me cry ) - SUE THOMPSON - With Lyrics



Bonnie Raitt & Norah Jones~Tennessee Waltz



PATTI PAGE - Mockin' Bird Hill(1951)with lyrics




Till We Meet Again ~Patti Page



PATTI PAGE 1927 – 2013
Jaime Vermeulen



Richard Wagner -
The ride of the Valkyries from "Die Walküre"












Smiley



Create Date : 23 กันยายน 2560
Last Update : 23 กันยายน 2560 22:07:44 น.
Counter : 595 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3538694
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



จึงจือหยาง
(jjy)
จบไฮสกูล
ได้ปริญญาสองใบในไทย เคยเป็นนักเรียนเก่าในอังกฤษและฝรั่งเศส
สอบได้ Dip-in-JourจากLondon School of Journalism,MIOJ.ในประเทศอังกฤษ
สอบได้นักวาด ว.อ.(แนวนามธรรม)...
เป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย..มีสัญชาติไทย (แซ่แต้) พ่อมาจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
New Comments
MY VIP Friends