Group Blog All Blog
|
ตอนที่ j158 นวนิยายเรื่อง"บ้านอานองเต"ภาค2 j158
ผมฟังเพลง
ที่จริงบัตรประชาชนผมมีประวัติสับสน สมัยนั้น
เพราะมีคนเดียว คำว่าผืดไม่มี ถ้ามีสมเหตุผล มิใช่สินบนเพื่อเอาเปรียบสังคมอย่างใดไม่
ที่แน่นอนมันตอบคำถามได้หมด ถ้ามีอะไรตลก ไม่มีอะไรสามารถไม่เป็นความจริงได้ ผมจึงสบายเท่าที่ผมเป็น
ผมซึมซาบในชีวิตของม่านทั้งสองเป็น จนไม่คิอยากจะเป็นอย่างท่าน แต่ว่าชีวิตผมเป็นเช่ยนั้นเอง คล้ายกับท่านไปครึ่งหนึ่งแล้ว เม่ิ่อเล่าให้หมดเปลือและไส้ใน แบบผัดก๋วยเตี๋ยวจานสามช่าแห่งชีวิตจริง
แต่ว่ามาที่ผมผมมิได้เป็นเจ้า แต่เป็นสามัญชนรากหญ้า และ ว่าอย่างงั้นๆ
แม้ว่าพ่อจะมี"แซ่แต้" ที่ท่านบอกว่าเป็นแซ่เดียวกับ เพราะพ่อผมมาจากเมืองเดียวกับพระองค์ท่าน ตามที่พ่อบอกและหนังสือกล่าวและประวัติศาสตร์เสริมครบ
และผมก็ไหว้ตาม จากปกติผมไหว้อยู่แล้ว เมื่อคำว่าเจ้ามาเหนือหัว แต่ผมจะไห้หนักเข้าไปอีก เมื่อพบว่า พ่อบอกว่าท่านแซ่เดียวกันกับเรา
เพราะน่ากลัว
ผมจึงมิใช่เจ้า และไม่สามารถนับมานับไปและเขาไม่นับกัน ถ้านับจะต้องนับ
มิได้ไปเกี่ยวกับเรื่องจักรๆวงศ์ๆ ธรรมดาของคนธรรมดา แบบราษฎรเต็มขั้นและรากหญ้าสุดๆ
ของผม กล่าวคือเรื่องนวนิยายนี้ จึงปรากฏมาดังที่ว่ามาทั้งหมดในภาคหนึ่ง
และบุคคลจริงบ้างมาประกอบแต่กรณีบุคคส่วนใหญ่ปกปิด เพราะยังไม่สมบูรณ์พอที่จะเอ่ยอะไรออกมา
ผมเป็นพระเอก และเป็นผู้อำนวยการเองในการถ่ายทำและผู้กำกับเองไปในตัว มันลงตัวและไม่มีปัญหา อย่าง่ายๆ
มาจากตอนหนึ่ง ที่ผมเคยแสดงหนังเป็นตัวประกอบที่เรียกว่า ซึ่งช็อตนี้ในหนังต่างประเทศ ที่ผมเข้าไปตืด
ผมจึงพบความจริงว่าหนังนั้นทั้งหมดไม้ใช่เรื่่องจริง
เมื่อมันฉายในใรงขึ้นมา มันจึงดูเป็นเรื่องจริงหมด แต่ว่าทั้งหมดมันมาจากการจัดฉาก เช่นที่ผมพบตอนร้องให้ หรือทำในโหมดคลิกเป็นตัวประกอบย่อย อาทิเช่น เวลาเขาให้ผมได้กลิ่นธูปทำให้ผม เมื่อ ด้วยสีหน้าและอารมณ์เพราะกลิ่นธูปที่ทำให้ผมแสบตา ผมว่าอย่างนั้น ผมมิได้ถามว่าทำไมเขาต้องทำอย่างนั้น สรุป เพราะฉะนั้นหนังที่เราดูเกิดจากการจัดฉาก และฟังบทถึงบท ใครทันบทก็จะมีคนนิยม เช่น ท่านเซ่อร์ชาลี แชปพลิน นอกจากหนวด และเครื่องแต่งตัว และลีลา แต่เพราะเทคนิคการถ่ายทำ ทำให้เขาดูตลกมากและสนุกจนติดใจผมอย่างไม่ลืมลง คือหนังที่ท่านแสดงออกมาเหมือนการ์ตูน คนดูชอบอันนี้เป็นต้น ผมเข้าใจอย่างนั้น ส่วนที่ผมเคยแสดง
และแนวคิดที่ผมสร้างนวนิยายเรื่องนี้ขึ้นมา ผมจึงทำให้ผมทำเป็น ด้วยการจัดฉากตัวเองให้เป็นหนังในละคนเรื่องบ้านอานองเตนี้ไปในตัว
จะรับได้หรือไม่ แต่ตอนนี้ผมตรวจพบว่า ผมพบตัวเลขนี้ได้จากสามเดือนที่ผ่านมา
ที่ผมลืมเลือนไปหมดแล้ววัยสนธยามาถึง มีอะไรผ่านไปบ้างที่แล้วๆมา
มาถึงหกแผ่นดินทีเดียว
แต่ขอให้พระองค์ท่านจงมีพระชมายุยืนนาน ในแผ่นดินที่ผมสังกัดอยู่ตอนนี้ เชื่อว่าที่ขอเป็นต้องยาวเกินกว่าการสืบค้นญาติผมแน่นอน
ต้องว่าไปอย่างนี้ มันจึงยาวอย่างนี้
วันนี้เผ่าดิบองจิมาจ้งว่า เพราะหมอยาบางคนไม่มีคุณธรรม เรื่องต้นอินจันนี้แม่รักมากและแม่ดูแแลเป็นพิเศษ ผมจำได้ ผลอินจันหอมเย็นนะผมว่า
เพื่อทดแทนต้นที่ตายไป แต่ผมจะพยายามทำรดน้ำและปุ๋ยตามหลักนีโอเกษตรกรรมของผม
แต่การมีพฤติกรรมผิดปกติของหมอยา แน่นอนมีปัญหาเช่นกัน ผมเชื่อว่า
แต่ยาแผนไทยแผนโบราณก็ยังจำเป็นอยู่ คือหมอยาพิ้นบ้านทุกชนิดยังจำเป็นอยู่ ปกติที่บ้านอานองเตเอง มีเครื่องยาครบชุดเพื่อรักษาตนเอง เมื่อมรดกตกทอดมาถึงผม ส่วนที่เหลือผมมอบให้หน่วยงานบุคคที่เชื่อถือได้ไปรักษา เท่าที่ผมเชื่อ อันนับเรื่องด้วยเรื่องเวลาและวารีของผม เมื่อไม่มีเวลาไปหาหอแผนใหม่ที่โรงพยาบาล หมอพิ้รย้านจึงเป็นทางเลือก อนึ่ง เหมือนกันเมื่อแพทย์แผนปัจจุบันไม่สามารถช่วยได้ การมายืมมาเอาต้นไม้ไปทำยานั้นมันธรรมต้องพึ่งพากัน ซึ่งเป็นธรรมดา แต่ทราบว่าเผ่ากิยองตินมีแผนทำลายบ้านอานองเต ที่
โดยแสร้งว่าเป็นไข้ชนิดนี้
แต่ถ้ามันไม่บริสุทธิ์ใจ
ทางแก้คือเราต้องปลูกมาก ๆ ผมว่านะ
สุดแท้แต่การเมืองจะอำนวย
อันเป็นเผ่าในมโนคติของผม
แต่ ถ้าใคร ประกอบตัวเองเป็นอันมีรูปแบบเดียวกันหรือคนนิสัยเสีย
ในส่วนต้นตะไคร้หอมนี่
แม้บางครั้งจับได้ ผมเตือนบอกว่าอย่าทำอย่างนี้ แต่เขามมักง่ายยังฝ่าฝืนตามเคย ผมก็ไท่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ร้องไห้เป็นคำตอบก่อน ที่จะว่าอย่างไรอื่นต่อไปอีก อันนี้เป็นลักษณะเบี่ยงเบนทางมานุษยวิทยาที่น่าเป็นห่วง
การที่บ้านอานองเตมีทรัพย์สินติดดินน้อยหลังแม่ตาย สืบทอดและตกทอดมาถึงผม
ถือวิสาสะในสวนอานองเตจนเกินกว่าเหตุ ผมจำได้ว่า เขา และบุกรุกยามแม่ผมเผลอ
ด้วยเหตุนี้เองแม่สั่งผม ไว้ว่า "ห้ามคนมาเลี้ยงวัวในสวนอานองเต" เด็ดขาดหลังแม่ตายแล้ว เพราะแม่และบ้านอานองเตให้เขาบุกรุกลิดรอนสิทธิ์อันศักดิ์สิทธิ์นี้ มานับสามชั่วโคตรแล้ว และมีเรื่องกินใจกันตลอดเวลา ในระหว่างเพื่อนบ้านในประเด็นนี้ เท่าที่ผมจำได้ สมัยก่อนควาย แม่ผมจึงสั่งว่า ถ้าลูกมีเงินทำรั้วลวดหนามกั้นสวนเสียอย่างต่ำสี่เส้นรอบสวน จะดีนักแล
ผมจึงออกกฎว่า มิใช่ไปพาวัวพเนจรเร่ร่อนเลี้ยง แบบทำไร่เลื่อนลอยแบบคนเก่าๆทำ
ชนิดเร่ร่อนเหมือนสมัยก่อนยุค ไอ ที นั้นผมพบว่า
เหมือนแม่สูตรคูณที่ โรงเรียนกำหนด ต้นตะไคร้หอมนั้น
ผมปลูกเช่นกัน เพื่อรอขายคนเลี้ยงวัว การแก้ไขกันกับปัญหา แต่อย่างไรก็ตามคุณธรรมและนิสัยคนนั้นมาก่อน และถ้าทำได้ เชื่อว่า ความสงบสันติภาพจึงจะมีมา จึงสรุปว่าปัญหารากหญ้าที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจึง ในบานแผนกที่เป็นพระเอกในนวนิยายเรื่องบ้านอานองเตนี้ แล
|
สมาชิกหมายเลข 3538694
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] จึงจือหยาง (jjy) จบไฮสกูล ได้ปริญญาสองใบในไทย เคยเป็นนักเรียนเก่าในอังกฤษและฝรั่งเศส สอบได้ Dip-in-JourจากLondon School of Journalism,MIOJ.ในประเทศอังกฤษ สอบได้นักวาด ว.อ.(แนวนามธรรม)... เป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย..มีสัญชาติไทย (แซ่แต้) พ่อมาจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
Friends Blog |