Ortho knowledge for all @ Do no harm patient and myself @ สุขภาพดี ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ ต้องสร้างเอง

แพทย์จุฬาฯ พบคนไข้ไทย ใช้ "ใบทุเรียนเทศ" ตายเพราะตับและไตวาย ก่อนตายเพราะมะเร็ง





แพทย์จุฬาฯ พบคนไข้มะเร็งไทยตายเพราะตับและไตวาย ก่อนตายเพราะมะเร็ง เหตุหลงเชื่อทุเรียนเทศแก้มะเร็ง ย้ำต่างประเทศศาลลงโทษคนขายแล้ว ไทยคงมีเร็วๆนี้

ความเชื่อผิดๆ "ทุเรียนเทศ" ฆ่าคนไข้ได้ หลังสังคมโซเชียล แพร่ข่าว “ทุเรียนเทศแก้มะเร็ง” ซึ่งเป็นแค่ผลการทดลองในหลอดแก้ว ยังไม่มีรายงานใช้ในคนไข้จริงๆ ทำให้ไม่ทราบผลว่าจะฆ่ามะเร็งในตัวคนได้หรือไม่ แถมผลข้างเคียงต่อตับไตอันตราย พบว่า ผู้ป่วยมะเร็งที่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาฯกว่า 40 % กินใบทุเรียนเทศ จนทำให้ตับและไตวายเฉียบพลันไปแล้วกว่า 10 ราย ผลคือหมอต้องเลิกให้ยารักษามะเร็งและหยุดรักษา ไปแก้ตับไตวาย หลายรายไม่รอด ที่น่าอนาจใจคือคนไข้จบชีวิต เพราะ "ทุเรียนเทศ"ไม่ใช่เพราะ "มะเร็ง"

นพ.เพชร อลิสานันท์ หน่วยรังสีรักษาและมะเร็งวิทยา แผนกรังสีวิทยา รพ.จุฬา เผยว่า "ทุเรียนเทศ" เป็นพืชที่พบได้ในภูมิภาคป่าฝน เช่น แอฟริกา อเมริกาใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีชื่อที่หลากหลายในแต่ละภูมิภาค ในหลายๆ พื้นที่ได้ใช้พืชชนิดนี้รักษาโรคติดเชื้อ และในหลายประเทศก็มี"ความเชื่อ"ว่าใช้รักษามะเร็งได้ โดยที่ไม่มีหลักฐานหรือผลงานวิจัยในคนรองรับ งานวิจัยของทุเรียนเทศ ถูกทำขึ้นในหลอดทดลองเพื่อดูปฏิกริยาระหว่าง สารสกัดใบ ทุเรียนเทศกับเซลล์มะเร็ง ซึ่งพบว่ามีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งตับและมะเร็งเต้านมบางชนิด ซึ่งการพัฒนายามาใช้เพื่อรักษาโรคจำเป็นต้องผ่านการทดลองในหลอดทดลอง สัตว์ทดลอง และในมนุษย์อีกหลายขั้นตอนเพื่อประเมินประสิทธิภาพ และผลข้างเคียงทั้งระยะสั้นและระยะยาว ก่อนจะนำมาใช้ในมนุษย์อย่างถูกต้องและปลอดภัย ซึ่งต้องใช้เวลา

สรุปว่า หลักฐานทางการทดลองของทุกเรียนเทศจึงอยู่ในระดับต่ำและไม่ปลอดภัยที่จะนำมาใช้รักษามะเร็งเวลานี้ เนื่องจากในใบทุเรียนเทศไม่ได้ประกอบไปด้วยสารที่อาจจะมีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งเท่านั้น ยังประกอบไปด้วยสารอื่นๆ อีกมากมายหลายชนิดที่การแพทย์ยังไม่ทราบว่ามีผลอย่างไรต่อสุขภาพโดยผลทำให้คนไข้ตายไปแล้วหลายราย

คนไข้ที่ทาน"ทุเรียนเทศ" ยังมีผลเกิดการเคลื่อนไหวร่างกายที่ผิดปกติ คล้ายกับผู้ป่วยโรค Parkinson เนื่องจากทุเรียนเทศเป็นพิษต่อระบบประสาท ซึ่งบางงานวิจัยพบว่าพิษจากทุเรียนเทศ สามารถผ่านชั้นเยื่อหุ้มสมองเข้าสู่เนื้อสมองโดยตรงได้อีกด้วย และการรับประทานต่อเนื่องทำให้ตับและไตวายได้ ถึงเสียชีวิตในที่สุด

กรณีศึกษาที่ประเทศอังกฤษ นาย Andrew Harris ผู้ที่ขายทุเรียนเทศทางอินเตอร์เนต เพื่อรักษามะเร็ง ถูกศาลศาลตัดสินว่าโฆษณาสรรพคุณเกินจริง ถูกปรับ 350 ปอนด์ แล้วก็ต้องรายงานต่อศาล 2 ปี โดยที่เมืองไทย อย. ยังไม่มีการดำเนินคดี ซึ่งเร็วๆนี้ เชื่อว่า ญาติผู้เสียชีวิตอาจแจ้งความเอาผิดผู้ขายได้
https://news.bbc.co.uk/2/hi/uk_news/england/manchester/7608256.stm

พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา ให้ความเห็นว่า การใช้สื่อ โซเชียลมีเดีย ในการนำเสนอความเชื่อการรักษาต่างๆนั้น ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณ บางครั้งเรื่องที่อาจเห็นว่าเป็นประโยชน์อาจกลายเป็นเรื่องไม่จริง และไปสร้างความหวังผิดๆทางการแพทย์ ให้กับประชาชนโดยเฉพาะ กรณีไม่แน่ใจโปรดหาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้เช่นจากคณะแพทย์ สถาบันการแพทย์ หรือโรงพยาบาลต่างๆ หรือ ปรึกษาแพทย์ของท่าน ก่อนปรับเปลี่ยนการรักษา สำคัญที่สุดคือ ไม่แน่ใจอย่า ฟอร์เวิร์ด ทั้ง ไลน์ และ FB ท่านอาจเป็นต้นเหตุทำให้ เพื่อนท่านเสียชีวิตได้

สอบถามเพิ่มเติม : หน่วยรังสีรักษาและมะเร็งวิทยา ฝ่ายรังสีวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โทร 02 256 4334

..................................

นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ใบทุเรียนเทศ ถ้าเป็นใบแห้งแล้วนำมาต้มสกัด พบว่ามีฤทธิ์ในการฆ่าเซลล์มะเร็งได้ แต่เป็นเพียงกระบวนการวิจัยในขั้นหลอดทดลองในห้องแล็บ ซึ่งการที่ใบทุเรียนเทศมีฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็งได้ ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถนำมารักษาผู้ป่วยมะเร็งได้ในทันที

ทั้งนี้ การจะนำใบทุเรียนเทศแห้งมาต้มกินเพื่อรักษามะเร็งตับก็อยู่ที่การใช้วิจารณญาณของผู้ป่วย ถือว่าเป็นแค่เพียงทางเลือกของผู้ป่วยมะเร็งที่ไม่มีทางเลือกรักษาแล้วเท่านั้น เนื่องจากทางการแพทย์ยังไม่มีการวิจัยว่ารักษามะเร็งได้ นอกจากนี้ยังมีข้อบ่งชี้ที่ว่าใบทุเรียนเทศสดมีฤทธิ์ฆ่าเซลล์ดีในร่างกาย ดังนั้นจึงควรใช้อย่างระมัดระวัง.

เครดิต https://www.facebook.com/photo.php?fbid=946705245390282&set=a.371903056203840.84362.100001524474522&type=1&theater

https://www.thaipost.net
..................................

"คลอโรฟิลล์" .. ดีจริง ตามที่โฆษณาหรือว่า แค่หลอกเล่น เหมือนกับที่เคย ๆ ... https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=23-09-2010&group=7&gblog=105

อาหารเสริม เลือดจระเข้ ดีจริงหรือ ??? https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=04-12-2009&group=7&gblog=41

“มะรุม” พืชสมุนไพร แต่ไม่ใช่ “ยาวิเศษ”.... บทความดี ๆ จากเวบ สสส. https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=09-05-2010&group=7&gblog=56

การรักษาด้วย คีเลชั่น....ดีจริงหรือมั่วนิ่ม ??? https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=17-02-2009&group=7&gblog=17

เภสัช มช. ช่วยไขข้อข้องใจ 5ประการ ว่าด้วย “น้ำหมักชีวภาพ” .... https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=08-02-2010&group=7&gblog=50

มหัศจรรย์!ล้างพิษมายาวิทยา-ไสยศาสตร์ https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=27-08-2013&group=7&gblog=175

รวบรวมกระทู้เกี่ยวกับน้ำ MRET ... ใครเชื่อผมไม่เชื่อ ???? https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=25-04-2009&group=7&gblog=25

ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์นฮอพกินส์ เป็นเรื่องโกหกแต่เชื่อ ? https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=02-12-2012&group=7&gblog=170

น้ำมันมะพร้าว - ออย์ พูลลิ่ง ( oilpulling ) ... ดีจริง หรือ ??? https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=08-06-2015&group=4&gblog=109

ภัยจากนามบัตร แถม ยาป้าย ( ใครที่มีสุตรยาป้ายถ้าได้ผลจริง มีคนให้เงินล้าน ไม่ต้องไปป้ายข้างถนน) https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=02-02-2009&group=7&gblog=13

ล้างพิษตับ ลำไส้ และ การดื่มน้ำด่าง .. ดีจริงหรือ ? https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=24-06-2015&group=4&gblog=112

อย.เตือนเหรียญ"ควอนตั้ม"ไม่มีผลทางการแพทย์..... เตือนแล้วเตือนอีก จะมีคนเชื่อมั่งหรือเปล่าเนี๊ย ??? https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=24-06-2010&group=7&gblog=59

อาหารเสริม ดีจริงหรือ ??? กินกูลต้าไธโอนขาวจริงป่ะ ??? https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=10-08-2008&group=7&gblog=4

ขายตรงของจริง ( MLM ) กับขายตรงของปลอม (ระบบแชร์ลูกโซ่) ต่างกันอย่างไร? ... รู้ไว้จะได้ไม่เสียรู้ https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=03-09-2009&group=15&gblog=36

แพทย์ ขายตรง ขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้กับคนไข้ ขณะทำหน้าที่รักษา .. ผมว่ามันไม่เหมาะ นะครับ https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=19-12-2010&group=7&gblog=118

หนังสือ เคล็ด(ไม่)ลับการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพ อย่างรู้เท่าทันโฆษณา ( หนังสือ pdf แจกฟรี) https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=10-08-2012&group=7&gblog=160

หนังสือ ทุกข์ล้นเหลือ เหยื่อโฆษณา............ของดี ฟรีด้วย โหลดอ่านกันได้เลยครับ https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=26-10-2012&group=7&gblog=163

"""""""""""""""""""""""""""""""

เลือกเชื่อ เลือกทำ ตามชอบใจ เพราะ ผู้ที่จะได้ผลที่ตามมาก็คือ ตัวท่านเอง





Create Date : 21 กรกฎาคม 2558
Last Update : 28 ธันวาคม 2561 21:35:51 น. 3 comments
Counter : 879 Pageviews.  

 
เพิ่มเติม ความเห็นของ หมอแมว ^_^

สำหรับท่านที่ถามมาว่า
ทำไมอย่างทุเรียนเทศ หมอถึงออกมาคุยแต่เรื่องผลเสีย ทำไมหมอไม่ไปดูว่ามันได้ผลจริงไหม

คำถามนี้ ขอยกมาตอบแบบนี้ครับ

1. จริงๆต้องถามกลับว่า ทำไมคนขาย ไม่ทำวิจัยแต่ขายออกมาได้ทั้งที่ไม่มีผลรองรับ

2. จริงๆ เป็นหน้าที่คนขายที่ต้องหาคำพูดมาพิสูจน์

3. จริงๆเป็นหน้าที่คนขาย ที่ต้องหาด้วยว่ามีผลข้างเคียง

4. ที่ผ่านมา เห็นหลายกรณี ที่รักษาไปด้วยแล้วเกิดตับหรือไตแย่ลง
แต่จะบอกว่า - ไตพังตับพัง จากยาเคมี
และจะบอกว่า - ที่หาย หายจากสมุนไพร

5. ในแต่ละปี คนขายของเหล่านี้ได้กำไรมากมายจากการขายของรักษามะเร็งที่ไม่ได้มีการพิสูจน์ว่าได้ผลจริง ทำไมต้องโยนมาให้หมอ ที่กำลังรักษาผลข้างเคียงจากสมุนไพรตัวเดียวกัน

6. ถ้าจำไม่ผิด ในช่วง1990-2000 ไม่แน่ใจว่าสหรัฐหรืออังกฤษ ได้ทุ่มงบประมาณมหาศาล วิจัยสารสกัดจากธรรมชาติแบบไล่ดะเลย ไล่พืชพรรณทุกชนิดที่นึกได้ ไล่สารที่รู้จักกันเอาไปรักษามะเร็ง
ถ้าจำไม่ผิด ได้ยามา 2 ตัว และประสิทธิภาพไม่ได้ดีด้วย

หลายครั้ง หมอที่ออกมาบ่นคือหมอรัฐบาลนะครับ ไปดูดีๆ

ถ้าหากจะบอกว่าเสียประโยชน์
การเสียผลประโยชน์เดียวที่หมอเหล่านั้นจะเสียก็คือ
การไม่ต้องอดหลับอดนอน เสียใจ เสียน้ำตา ให้กับคนไข้ที่ถูกล่อลวงไปกับความหวังที่ไม่มีอะไรพิสูจน์

ปล. ใครบอกว่าทุเรียนเทศได้ผล กรุณานำผลการวิจัยมาให้ดูด้วย ขอที่ลงในวารสารแบบ Peer review และถ้าให้ดีเอาแบบ RCT หรือไม่อย่างน้อย ก็ต้องไม่ใช่คนไข้ที่ได้เคมีบำบัดหรือรักษาแผนปัจจุบันไปพร้อมกัน



โดย: หมอหมู วันที่: 21 กรกฎาคม 2558 เวลา:14:50:15 น.  

 
เคยคิดว่าจะหามาปลูกสุดๆ เลยค่ะ แต่พอเริ่มมีการแชร์มากขึ้นเรื่อยๆ ก็มีฝ่ายออกมาบอกว่าไม่จริ๊งไม่จริง อิอิ คงต้องรองานวิจัยต่อไปค่ะ


โดย: คมไผ่ วันที่: 20 ตุลาคม 2558 เวลา:22:14:39 น.  

 
ชี้แจงไว้เบื้องต้นก่อนว่า " ไม่ได้ต่อต้านการนำสมุนไพร มาใช้ในการดูแลรักษาความเจ็บป่วย "
แต่อยากเผยแผ่ ข้อมูลความรู้ .. ส่วนว่า ท่าน จะเลือกใช้แบบไหน ก็ตัดสินใจกันเอง เพราะ ท่านเป็นคนที่จะต้องรับผลที่ตามมา ..
๑. สมุนไพร ถ้าใช้ ไม่ถูกวิธี ปริมาณไม่เหมาะสม ก็ทำให้เกิดผลเสียได้ เช่นกัน มีตัวอย่างมาแล้ว .. ดังนั้น อย่าเข้าใจว่า เป็นสมุนไพร จากธรรมชาติแล้วจะปลอดภัย (ต้องใช้ให้ถูกวิธีด้วย)
๒. บางครั้ง มีการแอบอ้างว่าเป็น สมุนไพร แต่ใส่ยาแผนปัจจุบันเข้าไปผสมด้วย ที่พบบ่อย ๆ ก็คือผสมยาสเตียรอยด์
๓. ถ้าต้องการจะใช้สมุนไพร หรือ การรักษาทางเลือกอื่นๆ ให้แจ้งแพทย์ที่รักษาด้วย เพื่อแพทย์จะได้ทราบข้อมูล

“มะรุม” พืชสมุนไพร แต่ไม่ใช่ “ยาวิเศษ” .... บทความดี ๆ จากเวบ สสส. https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=09-05-2010&group=7&gblog=56
แพทย์จุฬาฯ พบคนไข้ไทย ใช้ "ใบทุเรียนเทศ" ตายเพราะตับและไตวาย ก่อนตายเพราะมะเร็ง https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=21-07-2015&group=4&gblog=113
อาหารเสริม เลือดจระเข้ ดีจริงหรือ ??? https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=04-12-2009&group=7&gblog=41
ฉลาดเลือกใช้...การแพทย์ทางเลือก .... โดย อ.ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=25-09-2011&group=7&gblog=149



โดย: หมอหมู วันที่: 25 พฤษภาคม 2560 เวลา:15:23:52 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมอหมู
Location :
กำแพงเพชร Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 762 คน [?]




ผมเป็น ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ หรือ อาจเรียกว่า หมอกระดูกและข้อ หมอกระดูก หมอข้อ หมอออร์โธ หมอผ่าตัดกระดูก ฯลฯ สะดวกจะเรียกแบบไหน ก็ได้ครับ

ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปี ( เรียกว่า แพทย์ทั่วไป ) แล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง ออร์โธปิดิกส์ อีก 4 ปี เมื่อสอบผ่านแล้วจึงจะถือว่าเป็น แพทย์ออร์โธปิดิกส์ โดยสมบูรณ์ ( รวมเวลาเรียนก็ ๑๐ ปี นานเหมือนกันนะครับ )

หน้าที่ของหมอกระดูกและข้อ จะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วย ของ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ข้อ และ เส้นประสาท โรคที่พบได้บ่อย ๆ เช่น กระดูกหัก ข้อเคล็ด กล้ามเนื้อฉีกขาด กระดูกสันหลังเสื่อม ข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุน เป็นต้น

สำหรับกระดูกก็จะเกี่ยวข้องกับกระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน กระดูกข้อไหล่ จนถึงปลายนิ้วมือ กระดูกข้อสะโพกจนถึงปลายนิ้วเท้า ( ถ้าเป็นกระดูกศีรษะ กระดูกหน้า และ กระดูกทรวงอก จะเป็นหน้าที่ของศัลยแพทย์ทั่วไป )

นอกจากรักษาด้วยการให้คำแนะนำ และ ยา แล้วยังรักษาด้วย วิธีผ่าตัด รวมไปถึง การทำกายภาพบำบัด บริหารกล้ามเนื้อ อีกด้วย นะครับ

ตอนนี้ผม ลาออกจากราชการ มาเปิด คลินิกส่วนตัว อยู่ที่ จังหวัดกำแพงเพชร .. ใช้เวลาว่าง มาเป็นหมอทางเนต ตอบปัญหาสุขภาพ และ เขียนบทความลงเวบ บ้าง ถ้ามีอะไรที่อยากจะแนะนำ หรือ อยากจะปรึกษา สอบถาม ก็ยินดี ครับ

นพ. พนมกร ดิษฐสุวรรณ์ ( หมอหมู )

ปล.

ถ้าอยากจะถามปัญหาสุขภาพ แนะนำตั้งกระทู้ถามที่ .. เวบไทยคลินิก ... ห้องสวนลุม พันทิบ ... เวบราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ หรือ ทางอีเมล์ ... phanomgon@yahoo.com

ไม่แนะนำ ให้ถามที่หน้าบล๊อก เพราะอาจไม่เห็น นะครับ ..




New Comments
[Add หมอหมู's blog to your web]