ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๒๒๔-การเกิดใหม่ (ตอนที่ ๒...จบ)




“หมายความว่าอย่างไรครับ” ชายนักเดินทางถาม

“เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ต้องพึ่งพาอาศัยกันในการดำรงชีวิต ในสังคมมนุษย์ยุคกลางนี้ ท่านไม่สามารถลงไปเกิดได้ แบบโอปาติกะ คือ ลงไปแล้วเติบโตได้ทันทีเหมือนเช่นสวรรค์แห่งนี้ ท่านต้องได้รับการเลี้ยงดูจากผู้เป็นมารดา บิดา และ ครอบครัว ท่านจะมีสังคม มีสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างจากอดีตชาติ สิ่งเหล่านี้เอง จะมีผลกระทบ เมื่อระบบธาตุขันธ์ที่ยังไม่เรียงตัวเต็มที่ หากการซึมซับสิ่งแวดล้อมแบบใหม่ ก็มีโอกาสเปลี่ยนแปลงอุปนิสัยของเราตลอดไปเลยก็ได้ นอกจากบุคคลนั้นจะมีจิตมุ่งมั่น และเข้มแข็งแตกต่างจากคนทั่วไป ไม่อ่อนไหวต่อสิ่งแวดล้อมแห่งใหม่ เมื่อนั้น ความทรงจำ อุปนิสัยเก่าก็จะคืนมาอย่างไม่ยากเย็นนัก ”บุรุษผู้นั้นอธิบายด้วยเสียงอันไพเราะชัดทุกถ้อยคำ

“มนุษยโลก เป็นที่รวบรวมของการสร้างกิเลสตัณหา หรือครับ”

“ไม่เสมอไปหรอกท่าน มนุษย์โลกเป็นที่สร้างของตัณหาก็จริง แต่ก็เป็นที่ทำลายตัณหาได้รวดเร็ว ชัดเจนที่สุด การเดินทางลัดไปนิพพาน จึงต้องเดินทางมนุษยโลกนี่แหละ เหมือนเช่นที่ท่านเดินมาอย่างไรล่ะ การเดินทางไปดินแดนนิพพานนั้นมีอยู่หลายทาง การเดินทางตามเส้นทางภพของสวรรค์ มีสิ่งกิเลส มีการกระทบกระทั่งทางอารมณ์น้อยกว่าโลกมนุษย์ ใครที่คิดจะเดินทางอ้อมไปดินแดนนิพพานโดยผ่านสวรรค์ทีละชั้น ๆ ย่อมเสียเวลาเนิ่นนานยิ่งนัก แต่การลงไปทางลัดบนโลกมนุษย์นั้นให้ผลรวดเร็วกว่า

แต่เป็นธรรมดาของทุกสิ่ง เมื่อรวดเร็วย่อมมีความเสี่ยงสูง การเกิดบนโลกมนุษย์อย่างที่อธิบายไปแล้ว ต้องแลกกับการสูญเสียความทรงจำ ดังนั้นเหล่าเทพ ทั้งหลายที่มีกำลังใจอ่อนในการทำความดี ส่วนใหญ่เมื่อหลุดจากภพมนุษย์แล้ว ก็ไม่ได้กลับมาบนสววรค์อีก ไปติดค้างอยู่ในนรกบ้าง เปรตบ้าง อสูรกาย รวมทั้งสัตว์เดรัจฉานบ้าง นั่นเพราะเขาประมาทในการทำความดี ติดข้องอยู่ในบาปอกุศล ไม่รู้จักการประมาณในการเสพกามาคุณบ้าง เป็นต้น ”

“อย่างนี้นี่เอง...แล้วผมจะทำอย่างไรดี มีทางไหนบ้างที่ผมจะไม่สูญเสียความทรงจำ อย่างน้อยก็ให้กลับมาเร็วที่สุดครับ”

“การจัดเรียงธาตุขันธ์ของภพ ใหม่ เป็นตัวแปรสำคัญ สังเกตุไหมตอนที่ท่านมาที่นี่ ช่วงแรกมีอาการวูบวาบไปพักหนึ่ง” บุรุษผู้นั้นถาม
"ใช่ครับ...” ชายนักเดินทางพยักหน้ารับ

“ธรรมดาของการเปลี่ยนรูปของพลังงานธาตุขันธ์ เมื่อจุติ แล้วเกิดใหม่ในภพเดียวกัน หรือไม่ได้ติดข้องอยู่ในโลกทิพย์นาน ๆ ความทรงจำนั้นก็เป็นพลังงานอย่างหนึ่งที่ยังไม่ถูกแปรรูปโดยสมบูรณ์ แต่มันจะค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนไป สังเกตุไหม ท่านยังจำตอนที่เสียชีวิตได้ แต่อีกไม่นานเมื่อการปรับธาตุขันธ์สมบูรณ์แบบ ท่านก็จะจำไม่ได้อีกต่อไป นอกจากบุคคลนั้น สามารถที่จะครองสติ มีกำลังสมาธิควบคุมธาตุขันธ์ และสามารถแทรงแซงรูปแบบของการจัดเรียงใหม่ได้ ท่านก็จะสามารถระลึกถึงเรื่องราวในอดีตชาติได้เช่นกัน

ในโลกมนุษย์ เมื่อมนุษย์ได้ตายลง และชาติต่อไปของเขาได้เกิดเป็นมนุษย์อีก กระบวนการแปรรูปธาตุขันธ์ ในช่วงที่อยู่ในสภาวะกายทิพย์นั้นสั้นเกินไป โอกาสที่บุคคลนั้นจะระลึกชาติได้จึงมีสูงมากกว่า”

“หมายความถ้าผมลงไปเกิดตอนนี้ ผมก็มีโอกาสที่จะรักษาความทรงจำส่วนหนึ่งไว้ได้ ใช่ไหมครับ...” ชายนักเดินทางถาม

“ถูกต้องแล้ว...แต่ก็ไม่เสมอไปหรอก ถึงแม้ท่านจะสามารถรักษาความทรงจำส่วนหนึ่งไว้ได้ แต่ท่านต้องกลับไปเริ่มต้นกระบวนแห่งการพัฒนาขันธ์ใหม่ เริ่มจากการเป็นเด็กชาย และพัฒนาการเติบโต ต้องใช้เวลาบนโลกมนุษย์อีกนาน และตอนที่กำลังพัฒนาการนี้ ท่านก็ยังมีความเสี่ยงสูงในการสูญเสียความทรงจำในอดีตชาติอีกอยู่ดี นอกจากว่า...”

“นอกจากอะไรครับ...” ชายนักเดินทางถามอย่างรีบร้อน

“การกลับไปสู่ร่างเดิม” บุรุษผู้นั้นพูด

“ถ้าอย่างนั้น ผมขอเลือกกลับไปร่างเดิมครับ ” ชายนักเดินทางรีบตัดสินใจ

“ร่างหรือขันธ์เดิมของท่านได้รับการเสียหายอย่างรุนแรง ไม่มีสภาพเพียงพอต่อการอาศัย หรือดำรงอยู่ของจิตเดิมเลย ” บุรุษผู้นั้นตอบ

“ท่านครับ ผมรู้ว่าท่านมีวิธี กรุณาช่วยผมด้วยเถอะครับ...”

“ลำพังกำลังของข้าอย่างเดียวนั้นไม่พอหรอก โลกทิพย์กับโลกมนุษย์นั้นต่างแยกกันอยู่ชัดเจน การยุ่งเกี่ยวกันนั้น ย่อมมีผลกระทบต่อวงจรของสังสารวัฏเสมอ ๆ แต่ข้าก็จะช่วย ช่วยได้เพียงทางอ้อมหรอกนะ ในบริเวณที่ร่างเดิมของท่าน นอนนิ่งอยู่มีบ้านหลังหนึ่งอยู่ไม่ไกลนัก เจ้าของบ้านคงสามารถช่วยรักษาร่างของเจ้าไว้ได้ แต่นั่นต้องได้รับการดลใจจากข้าก่อน

ยังมีอีก กรรมที่ท่านประสบครั้งนี้เกิดจากกระทำในอดีตชาติ กาลหนึ่งในอดีตชาติท่านเคยฆ่าญาติตัวเอง โดยการพลักตกลงเหว รวมทั้งการทำปาณาติบาตมากมาย สังเกตุดู จะมีกลุ่มของวิญญาณเจ้ากรรมนายเวร ลอยเป็นกลุ่มวนอยู่รอบ ๆ ร่างของท่าน เรื่องนี้เป็นการก่อกรรมเฉพาะตัวท่านเอง ท่านต้องแก้ด้วยการขออโหสิกรรม และแผ่กุศลเมตตาให้เหล่าวิญญาณเหล่านั้นเสียก่อน ไม่อย่างนั้นเขาก็จะเข้ามาบดบังไม่ให้ใครมองเห็นร่างของท่าน จนกว่าร่างของท่านนั้น จะกลายเป็นกระดูกไปโดยสิ้นเชิง ”

“ได้ครับ ” ชายนักเดินทางรับคำ แล้วทำการแผ่อุทิศกุศลผลบุญที่เคยทำมาในอดีตชาติ เจาะจงไปยังเจ้ากรรมนายเวรเหล่านั้นโดยเฉพาะ


ชายนักเดินทาง ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น รู้สึกหนังตานั้นหนักมากกว่าปกติ และความเจ็บปวดระทมไปทั่วร่างกาย

เขามองดูแขนซ้ายของเขา พบว่ามันยังคงขาดอยู่เช่นเดิม

เขาได้ร่างเดิมกลับมาอีกครั้ง...

----------จบ-------------

ขอขอบคุณรูปภาพงาม ๆ จาก //farm3.static.flickr.com มากมายครับ




Create Date : 16 มีนาคม 2553
Last Update : 16 มีนาคม 2553 7:55:19 น. 20 comments
Counter : 324 Pageviews.

 
นักเดินทาง
ย่อมมิอาจหยุดเดินทางนะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 มีนาคม 2553 เวลา:7:45:12 น.  

 
หวัดดีค่ะ คุณอัส
อ่านเพลิน น่าติดตาม และคิดตามเป็นอย่างยิ่งค่ะ
ปล. จอคอยอ่านตอนต่อไป นะคะ


โดย: มินทิวา วันที่: 16 มีนาคม 2553 เวลา:7:52:39 น.  

 
โอ้ ตอนจบกระชากอารมณ์ดีแท้

อืม ... มันเป็นแบบนี้เอง...


โดย: ขมเตย วันที่: 16 มีนาคม 2553 เวลา:8:22:52 น.  

 
สวัสดีตอนเที่ยงจ้า
ทานข้าวยังเอ่ย


โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 16 มีนาคม 2553 เวลา:12:44:54 น.  

 
เอาเวบหนังอนิเมชั่นของพระพุทธเจ้ามาฝากค่ะ //buddha-thushaveiheard.com/page_01.html


โดย: Budratsa วันที่: 16 มีนาคม 2553 เวลา:18:46:57 น.  

 
แวะมาอ่าน ตอนจบนะครับ

มาส่งคุณอัสเข้านอนด้วยครับผม

หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ครับ



โดย: หมึกสีดำ วันที่: 16 มีนาคม 2553 เวลา:21:54:27 น.  

 


หวัดดีค่ะคุณอัส
มินเอง ก็รู้สึกว่า เคยอยู่ในที่ ๆ มืดมิดสุด ๆ แล้วอยู่ ๆ มันก็สว่างจ้าขึ้นมาอ่ะค่ะ
ก็เคยนึกนะว่า สงสัยตอนออกมาจากท้องแม่แหง ๆ เลย
แต่ ไม่กล้าพูดให้ใครฟัง กลัวคนจะว่าเว่อร์อ่ะค่ะ
และมีอีกหลายอย่างมาก ๆ ที่สงสัยอยู่ แต่พอได้อ่านได้รู้ได้เข้าใจ
ก็...อ๋อ..มันคืออย่างนี้ มันเป็นอย่างนี้นี่เองอ่ะ..
ปล. มีความสุขมาก ๆ นะคะ


โดย: มินทิวา วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:5:51:29 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:7:38:53 น.  

 
คนตื่นสายแวะมาทักทายคนตื่นเช้า

สวัสดีค่ะ


โดย: ขมเตย วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:7:55:47 น.  

 
ขอบคุณครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:8:14:12 น.  

 


สวัสดีครับ คุณอัส

แวะมาเสริฟ คาปูชิโน่ ยามบ่ายครับผม
...




โดย: หมึกสีดำ วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:15:25:24 น.  

 
สวัสดีตอนเย็นค่ะคุณอัส
วันนี้กรุงเทพฝนตกหนักเลยค่ะ
เย็นสบายไปเลย

แต่เอ๊ะ...ตอนนี้อยู่กรุงเทพใช่มั๊ยเอ่ย


โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:17:18:09 น.  

 


โดย: หมึกสีดำ วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:23:43:07 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:6:09:15 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าจ้า
ทำงานอย่างสนุกสนานนะจ๊ะคุณอัส


โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:7:48:52 น.  

 
สวัสดีวันอากาศเทาๆ ทึมๆ ค่ะคุณอัส


โดย: ขมเตย วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:8:10:19 น.  

 

เอาบุญใหญ่มาฝากครับผม
...


ขอมาเชิญร่วมหล่อพระประธานวัดโคกอารักษ์ หน้าตัก 79 นิ้ว ครับผม

รายละเอียด ขอเชิญ ที่บล็อกนะครับ

มาส่งเข้านอนด้วยครับ

หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ครับ


โดย: หมึกสีดำ วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:22:24:59 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:7:26:56 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าจ้า
ทำงานแค่พอดีน๊า
อย่าหักโหมๆ


โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:7:56:04 น.  

 
หวัดดีค่า
ตื่นก็เช้าขึ้น งานก็ไม่ยุ่งมากมาย แต่ใครบางคนก็ไม่ค่อยอัพบล้อกเลยเนอะคุณอัส

เดาออกไหม ว่าใครหนอ


โดย: ขมเตย วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:8:05:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.