ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๑๐๕-แสวงหาโลกใบเก่า




ภาพล้อเกวียนที่ค่อย ๆ เคลื่อนตามถนนลูกรังเส้นนั้น ยังคงติดตาข้าพเจ้าอยู่เสมอ ทุกครั้งที่มันเคลื่อนผ่านลำคลองเล็ก ๆ ข้าพเจ้ากับน้องสาวจะรีบวิ่งไปอยู่ที่ปลายเกวียนและใช้เท้าแกว่งน้ำเล่นสนุก ตามประสาเด็กวัย ๓ – ๔ ขวบ มีวัวลากเกวียนอยู่สองตัว ข้าพเจ้าเคยตั้งชื่อให้มัน แต่ตอนนี้จำชื่อนั้นไม่ได้แล้ว

เมื่อความเจริญมาเยือน ข้าพเจ้าเข้ามาเรียนในเมือง ในที่ที่เขาเรียกว่ากลุ่มคนชั้นสูงของสังคม และมักจะถูกเรียกว่าในความหมายของเด็กบ้านนอกเสมอ ข้าพเจ้ามักจะรู้สึกว่าเป็นแกะดำในหมู่เพื่อน ๆ บ่อยครั้งที่ความไม่มีสิ่งของ เครื่องเล่น ทำให้เราเลือกที่จะพูดโกหก กุเรื่องเพื่อให้สังคมในกลุ่มยอมรับ
แต่ที่โกหกไม่ได้นั่นคือ จิตใจ ของเราเอง ข้าพเจ้าเรียนรู้จักคำว่าไม่มี แต่ก็ทำได้เพียงแค่อดทน ๆ ไว้ในใจเสมอ ตลอดเวลาเกือบ ๑๐ ปี ที่ผ่านมา

ข้าพเจ้าและวัยรุ่นตามสมัยนี้เติบโตมาพร้อมกับสิ่งที่เรียกว่า เทคโนโลยี เป็นยุคแห่งความรุ่งเรือง ของข่าวสาร ข้อมูล แต่สิ่งที่เสื่อมสลายไป นั่นคือ ความดี และศีลธรรมในหมู่เพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง ข้าพเจ้าเรียนรู้เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ และการทำงานของอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ ซอฟแวร์ จนเข้าใจในหลักการทำงาน แล้วจึงรู้ว่า

‘มันก็แค่นั้น…’

ทุกอย่างสร้างมาเพื่อสนองตอบ แก่ตัณหาของคน ซึ่งมันไม่มีวันสิ้นสุด ไม่มีวันจบสิ้น ต่อให้คอมพิวเตอร์เรามี แรมเป็นหลักร้อยกิกไบต์ เราก็ยังไม่พอใจอยู่ดี

วันหนึ่งจึงเริ่มรู้สึกเบื่อ นั่งเขียนโปรแกรมอยู่ก็รู้สึกเบื่อ เบื่อในความปรารถนาของคนที่ไม่รู้ว่ามันจะจบสิ้นเมื่อไหร่ ข้าพเจ้าจึงไม่อยากสร้างภาระ ความยุ่งยากให้กับตัวเองอีกต่อไป และออกไปแสวงหาสิ่งที่ประเสริฐ และอยากหลุดพ้นไปจากสังคมเน่า ๆ นี้เสียที

การกลับตัว กลับใจหันมาแสวงหาโลกใบเก่า อยากกลับไปเกิดในสมัยของหลวงปู่มั่น ซึ่งเป็นยุครุ่งเรืองของพระกรรมฐาน อยากกลับไปสู่ยุคสมัยพุทธกาล ข้าพเจ้าอยากย้อนเวลาได้จริง ๆ การเกิดในยุคนี้มันสะดวกสบายก็จริง แต่มันไม่สบายจิตใจเท่าไหร่ มันมีแต่ความรีบเร่ง แก่งแย่งของคน ทำให้ไม่ได้รับความอบอุ่นแห่งจิตใจ ศีลธรรมก็เสื่อมลงทุกวัน

อินเตอร์เนตก็อย่างนั้น ๆ แม้ในสายตาคนอื่นมันจะวิเศษ เลิศเลอสักเพียงใด แต่มันก็เท่านั้นเอง ยิ่งนานวันเรายิ่งขาดมันไม่ได้ หลายคนเริ่มหงุดหงิดเมื่อ การเชื่อมต่อ อินเตอร์เนตมีปัญหา นี่แหละเรากำลังถูกครอบงำโดยบางสิ่งบางอย่างที่เราไม่รู้สึกตัวและได้ปล่อยตัวปล่อยใจ เคลิบเคลิ้มไปกับมันอย่างคนที่ติดยาเสพติด

เชื่อว่าหลายคนคงไม่เห็นด้วยกับความคิดของข้าพเจ้านัก แต่เชื่อเถอะความคิดความรู้ที่คุณมีต่อโลกทุกวันนี้ ข้าพเจ้าได้สัมผัสและพิจารณามาโดยตลอด มันไม่มีอะไรที่จะวิเศษ และสงบเยือกเย็นเท่ากับธรรมะของพระพุทธเจ้าอีกแล้ว… (เชื่อสิ)


Create Date : 03 ธันวาคม 2551
Last Update : 3 ธันวาคม 2551 8:47:08 น. 8 comments
Counter : 762 Pageviews.

 
ผมก็คิดคล้ายคุณแหล่ะคับ แต่คุณก็ยังดีที่ไม่ทิ้งโลกทุกวันนี้จนสิ้นเชิง อย่างน้อยก็ยังมีน้ำใจมาแบ่งปันความคิดเห็นบน ไซเบอร์ ให้คนมีความรู้ไม่มากนักอย่างผมได้คิดตามบ้าง
ขอให้ท่านเข้าถึงนิพพานในเร็ววันเทิญ


โดย: หัวหน้าสูงสุดแห่งปีศาจสุรา วันที่: 3 ธันวาคม 2551 เวลา:10:10:47 น.  

 
ไม่นะคะ..รู้สึกแบบนี้เหมือนกันค่ะ..มันไม่มีอะไรที่จะวิเศษและสงบเยือกเย็นเท่ากับพระธรรม แม้จะไม่ได้ศึกษาอย่างจริงจัง แต่พื้นฐานก็มีบ้างได้มาจากคุณยายค่ะ ต้องขอบคุณท่านมากมากเลยที่พาเราเข้าวัดเข้าวาตั้งแต่เด็กได้ชื่อว่าเป็นเด็กวัดเลยนะคะ อิอิ


โดย: Nissan_n วันที่: 3 ธันวาคม 2551 เวลา:12:34:25 น.  

 
ถูกต้องแล้วคับ ธรรมะคือสิ่งที่ทำให้จิตใจสงบสุขพอเพียง ถ้าทำความเข้าใจให้ลึกซึ้ง เข้ามาทีไรก็ได้สิ่งดีๆกลับไปทุกที


โดย: kun_isara วันที่: 3 ธันวาคม 2551 เวลา:13:31:53 น.  

 


พุ ท ธ ธ ร ร ม นำ ใ จ จ๊ ะ


แวะมาเยี่ยมพร้อมกับ ……..ความเย็นจากร่มไม้เย็นจ๊ะ

จขบ. อาจจะเคยเกิดมาแล้วในยุคสมัยที่พูดถึงก็ได้
แต่อาจจะเพราะยังเดินไม่ถึงปลายทาง … แรงบุญเก่าจึงส่งให้มาเดินต่อบนเส้นทางสายเดิม
และคงจะได้เดินต่อไปเรื่อยๆตราบกระทั่งถึงปลายทางที่หวังในเวลาอันใกล้นี้

ป้าเชื่อว่าหลากหลายผู้คนบนเส้นทางธรรมล้วนแต่เคยเดินบนเส้นทางสายนี้มาแล้ว
รากบุญจะส่งเขาสู่เส้นทางเดิม
ป้าเชื่อเช่นนั้น

อากาศยังเปลี่ยนแปลงอยู่ประเดี๋ยวเย็นประเดี๋ยวร้อน ดูแลร่างกายให้อบอุ่นนะจ๊ะ




โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 3 ธันวาคม 2551 เวลา:20:00:20 น.  

 
แวะมาอ่านค่ะ


โดย: เนระพูสี วันที่: 3 ธันวาคม 2551 เวลา:22:24:20 น.  

 


ถ้าคนเมืองมองคนต่างจังหวัดว่าเป็น "แกะดำที่โง่เขลา"

ทั้ง ๆ ที่ พวกเขาเหล่านั้นก็เป็นแค่ "แกะขาวที่ตาบอด"

เชื่อในสิ่งผิด ใครคิดไม่เหมือนตนก็ดูถูกดูแคลนคนคนนั้น ว่าต่ำยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน

นี่หรือผู้เจริญ แท้จริงก็แค่เปรตนรกมาเกิด



โดย: ลิตช์ (Litchi ) วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:0:20:44 น.  

 
ค่ะ
โลกเจริญ ศีลธรรมเสื่อม

ถึงโลกจะเปลี่ยนแปลง ก้าวหน้าขึ้นเพียงใด
เราก็ต้องอยู่ร่วมไปกับโลกให้ได้

แต่อย่าให้โลกครอบงำเรา



โดย: zeedhama วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:6:30:20 น.  

 
ไม่พบทุกข์
ไม่พบธรรม

หลายคนคงยังไม่เชื่อ
จนกว่าจะได้เจอด้วยตัวเอง



โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 6 ธันวาคม 2551 เวลา:10:33:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.